ชวนพูดคุยกับ พร้อม ราชภัทร และทำความรู้จักตัวตนและมุมมองของเขาให้มากกว่าที่เคย

ชวนพูดคุยกับ พร้อม ราชภัทร และทำความรู้จักตัวตนและมุมมองของเขาให้มากกว่าที่เคย

ชวนพูดคุยกับ พร้อม ราชภัทร และทำความรู้จักตัวตนและมุมมองของเขาให้มากกว่าที่เคย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ต้องบอกว่านาทีนี้ชื่อของ พร้อม ราชภัทร วรสาร จาก "หน่าฮ่านเดอะซีรี่ส์" คงจะคุ้นหูและคุ้นหน้าใครหลายๆ คนกันบ่อยๆ และสำหรับแฟนซีรี่ส์ตัวจริงคงจะสงเสียงกรี๊ดออกมาบอกว่า แน่นอนว่าฉันรู้จักดี! วันนี้บาซาร์เลยอาสาเป็นตัวแทนมาเปิดอกพูดคุยกับหนุ่มฮอต พร้อม ราชภัทร พร้อมบอกเล่ามุมมองและตัวตนที่แท้จริง ว่านอกเหนือจากบทบาทที่เขาได้รับ สิ่งไหนคือความเป็น พร้อม ราชภัทร มากที่สุด ณ เวลานี้
Harper’s BAZAAR : ใครคือ พร้อม ราชภัทร เขานิยามตนเองว่าอย่างไร และตอนน้ี พร้อม กําลังทำ อะไรอยู่บ้างครับเล่าให้เราฟังสักหน่อย

Prom : ผมก็เป็นคนธรรมดาทั่วไปคนหนึ่งเนี่ยละครับ ที่มีโอกาสมีความลัคกี้ในชีวิต ที่ได้ทำในสิ่งที่หลายๆคนอาจจะไม่ได้โอกาสนั้น เขา(พร้อม)เป็นคนที่ไม่หยุดพยายามทำอะไรสักอย่าง ถ้าเลือกที่จะทำแล้วเขาจะทำให้มันสำเร็จมากที่สุด เขาเป็นคนที่จะลองทำอะไรใหม่ๆ เสมอ ไม่หยุดอยู่กับที่แน่นอน 


HBZ : และหนุ่มคนนี้กำลังจะมุ่งหน้าไปในทิศทางไหนและเราจะได้เห็นอะไรจากพร้อมต่อจากนี้บ้างครับ

P : :ถ้าในตอนนี้ก็กำลังทำเพลง เพราะในปีนี้มีเพลงเยอะมากที่ต้องทำ แล้วก็มีดูซีรี่ย์เรื่องหนึ่งไว้อยู่ครับแต่ยังไม่สามารถบอกได้ ปีนี้ผมรู้สึกว่าอยากจะโฟกัสด้านดนตรีด้วย มีเรื่องศิลปะและการออกแบบด้วยครับ พอดีผมจะเริ่มทำแบรนด์เสื้อผ้าด้วย แล้วก็อยากทำผลงานศิลปะแบบดิจิตอล(NFT) แต่อาจจะเป็นช่วงสิ้นปี เป็นเหมือนซุปเปอร์แมนไปเลยพี่ทำมันทุกอย่าง(หัวเราะ)

HBZ : กับผลงานล่าสุดหน่าฮ่านเดอะซีรีส์การเติบตัวและพัฒนาการของตัวละครสิงโตที่เติบโตมาในชีวิตชนบทของอีสานเหมือนหรือต่างกันกับพร้อมในชีวิตจริงที่มากน้อยอย่างไรบ้างครับ

P : เกือบๆเหมือน ประมาณ 60 เปอร์เซ็นครับจากตัวละครสิงโต เค้าเป็นคนที่มุ่งมั่นและวางแผนอนาคตไว้เสมอจะคิดถึงอนาคต เค้าจะโฟกัสเรื่องหาเงิน เรื่องอาชีพ เรื่องการทำงาน มากกว่าการเรียนกับความรักเสมอ ชีวิตสมัยเด็กๆผมอาจจะหนักกว่าสิงโตด้วยซ้ำเป็นคนแบบชนบทจริงๆ ขี่ควาย หาปลา หว่านแห อย่างงี้ครับ ใช้ชีวิตเหมือนสิงโตเลยครับ อาจจะลุยกว่าด้วย จริงๆบ้านผมก็อยู่ในตัวเมืองแหละครับ แต่ตอนปิดเทอมสมัยเด็กๆ ผมจะมีบ้านสวนที่ปู่อยู่แล้วมันจะเป็นชนบทแบบนั้นเลยอาจจะชนบทกว่าในเรื่องด้วยซ้ำ ทุกปิดเทอมผมจะไปอยู่นั่นเลย อยู่กับปู่ผมจะสนุกมาก ปู่จะชอบพาไปทำนู้นทำนี่เรื่อยๆ ผมก็จะเป็นฟีลแบบเด็กน้อยบ้านทุ่งเลยครับ  
 

HBZ : โลกที่เราผ่านมาก่อนจะเข้าวงการบันเทิงกับโลกใบใหม่ในวงการบันเทิง ทำให้ พร้อม ต้องปรับตัวมากไหมครับ และอะไรคือสิ่งที่ชอบและสิ่งที่คิดถึงของชีวิตทั้งสองแบบทั้งก่อนและหลังเข้าวงการ

P : ก็จะมีการวางตัวบ้าง การพูดบ้าง การปฏิบัติต่อคนอะไรอย่างนี้ครับ คือสมัยตอนที่ยังไม่ได้เข้าวงการผมอาจจะติดเล่นกับทุกคน เล่นมุกกับทุกคนได้ พอเราเข้าวงการมันก็จะมีคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่าเรา ที่เราก็ไม่สามารถเล่นมุกที่มันโต้งๆ ไปได้เลย ส่วนการใช้ชีวิตก็ปรับตัว แต่ก่อนเราอาจเป็นคนที่ไม่ตรงเวลาเท่าไหร่ เราเป็นนักศึกษาไม่มีใครบังคับเรา มากสุดก็แค่โดนอาจารย์บ่นแต่เดี๋ยวอาจารย์ก็หายงอน (ขำ) แต่พอเรามาทำงานตรงนี้เวลาเป็นเรื่องสำคัญก็ต้องปรับตัวเรื่องเวลาเวลามาทำงานเอเนอร์จี้ในการทำงานแต่ก่อนเราเหนื่อยเราก็แค่นอนแต่ตอนนี้เราไม่สามารถมานอนต่อหน้าคนอื่นได้ส่วนสิ่งที่ผมรู้สึกคิดถึงเลยอันดับแรกคือความอิสระพอเรามาอยู่ในวงการบางอย่างเราไม่สามารถทำได้หรือไม่สามารถไปเผยแพร่ได้เราไม่ได้ซีเรียสมากแต่ด้วยความที่ว่าถ้าเราทำไปแล้วมันเป็นผลกระทบต่อคนรอบข้างต่อตัวเราเองด้วยเป็นลูกโซ่มันก็เป็นสิ่งที่เราห้ามไว้ถ้าคิดถึงจริงๆก็คิดถึงความอิสระนี่แหละครับอีกอย่างที่คิดถึงสมัยก่อนคือเรามาทำงานตรงนี้มันอยู่แต่ในเมืองแต่สมัยที่เรายังไม่ได้เข้าวงการเราก็จะอยู่กับธรรมชาติมากกว่าติดธรรมชาติเราก็เลยไม่ค่อยได้เห็นธรรมชาติบ้างเลยช่วงนี้เห็นแต่เมืองกรุง 


 
HBZ : ในโลกดิจิตอล รู้สึกว่าวัฒนธรรมอีสานกำลังมีอิทธิพล

P : ผมว่ากว้างอยู่นะครับ อันดับแรกเลยคือพอวัฒนธรรมอีสานถูกเผยแพร่สู่สาธารณะทางอินเตอร์เน็ตคนก็จะเริ่มเห็นใช่ไหมครับ บางคนที่เค้าไม่รู้ไม่เคยเห็นจริงๆ เค้าก็ หึย(อุทาน) คนอีสานใช้ชีวิตอย่างงี้เองหรอ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น เรื่องอาหารครับ เรื่องอาหารผมอยู่กรุงเทพยังเห็นคนทำอาหารอีสานด้วยทั้งๆที่เค้าเป็นคนภาคกลาง เค้าบอกว่าชอบด้วยเพราะมันอร่อย อีกเรื่องที่ผมเห็นบ่อยๆ มากเลยคือเค้าจะเอาภาษาอีสานมาใช้พูดกัน อย่างเช่น ในกลุ่ม lgbtq ที่เค้าจะชอบเอามุกตลกมาเล่นกันแล้วเอาคำภาษาอีสานมาปน เดี๋ยวนี้เค้าไม่ได้เนกาทีฟคนอีสานแล้วนะ เดี๋ยวนี้เค้าเปิดรับ รู้สึกว่ามันกลายเป็นความสนุก รู้สึกดีที่มีคนสนใจภาษาอีสานมากขึ้น ในทุกวันนี้ผมอยู่ภาคกลางแต่ผมเห็นคนพูดคำว่าสูนมากกว่าคำว่าโกรธ(หัวเราะ) ข้อดีของภาษาอีสานคือคำนึงของภาษาอีสานมันจะเท่ากับ หนึ่งคำหรือสองคำในภาษากลาง เช่นสูน คือ โมโห คนก็จะเลือกคำว่าที่มันสั้นมากกว่า (HB:แล้วมีคำไหนที่พร้อมติดปากบ้างครับ) มันจะเป็นพวกคำอุทานอย่างเช่น เอ๊อะ มันแปลว่าเจ็บ มันเป็นระบบอัตโนมัติที่เค้าจะอุทานออกมาเลยครับ(หัวเราะ)

HBZ : ซีรีย์เรื่อง หน่าฮ่านเดอะซีรีส์ กำลังพยายามบอกอะไรกับผู้ชมนอกเหนือจากความบันเทิงและความสนุกสนานในวิถีชีวิตแบบคนอีสาน

P : นอกจากความสนุกและความเศร้ามันมีอีกเป็นล้านอย่างที่คนนั่งเก็บรายละเอียดจะสนุกมากสิ่งที่สะท้อนสังคมอีกอย่างคือการแต่งตัวของคนอีสาน 


 HBZ : ในฐานะที่พร้อมมีอิทธิพลต่อวัยรุ่นในวงกว้าง พร้อมอยากบอกอะไรถึงผู้ชมทางบ้านที่อยู่ในวัย coming of age แบบในซีรีย์ที่อาจจะกำลังเรียนรู้โลกกว้างและเจอหลายๆอย่างที่เปลี่ยนไปในชีวิตของวัยรุ่นที่กำลังก้าวสู่วัยผู้ใหญ่ แบบเดียวกับตัวละครสิงโตเจอบ้างครับ

P : อันดับแรกเลยอยากจะฝากทุกคนว่าซีรี่ย์เรื่องนี้ด้วยความที่ว่ามันอิงมาจากเรื่องจริงของชีวิตผม ถ้าสมมุติว่าไม่ใช่คนภาคอีสาน อยากให้ลองเปิดใจลองดูก่อนครับ เพราะวัฒธรรมการใช้ชีวิตของคนภาคอีสานสามารถเอาไปปรับใช้กับคนภาคอื่นได้ด้วย สิ่งที่อยากจะบอกอีกอย่างก็คือถ้าสมมุติว่ามีปัญหา ลองมาดูซีรี่ย์เรื่องนี้ มันมีทางแก้ให้ เค้าจะสอนวิธีแก้ปัญหาด้วย อยากให้มาดูซีรี่ย์เรื่องนี้ อยากให้ทุกคนลองได้มาดูเรื่องนี้จริงๆ ทุกคนทำออกมาอย่างเต็มที่ที่สุด บทเค้าดูมาสองปี กลั่นกรองทุกย่างก่อนจะมาเริ่มถ่าย เก็บรายละเอียดทุกเม็ด ลองมาศึกษาวัฒนธรรมอีสานที่แท้จริงดูครับ

HBZ : สไตล์การแต่งตัวและมุมมองต่อแฟชั่นของ พร้อม ราชภัทร คืออย่างไร

P : จริงๆ ผมชอบทุกอย่าง ผมบ้าการแต่งตัวมาก ผมจะนั่งดูว่าเราจะไปที่ไหน เราจะไปกับใคร ดูก่อนว่าสถานการณ์ที่เราจะไปเราควรแต่งตัวยังไงแค่นั้นเอง จริงๆ ผมชอบหมดการแต่งตัว ไม่มีซิกเนเจอร์ว่าต้องแบบไหนผมแต่งได้หมด แค่ต้องดูสถานการณ์เฉยๆครับ แต่ถ้าถามว่าชอบแบบไหน คงเป็นแนวแต่งง่ายๆสบายๆชีวิตประจำวันเสื้อยืด กางเกงแค่นั้นก็พอ มุมมองของการแต่งตัวของผม ผมรู้สึกว่าจริงๆแล้วมันไม่ได้ฟิกหรอกว่าผู้ชายใส่หรือผู้หญิงใส่ บางชิ้น บางอย่าง บางรูปแบบที่เค้าออกแบบมามันเหมาะกับสรีระของเพศนั้นเฉยๆ ถ้าเรามีสรีระที่เหมือนกับเค้าทำมา ถ้าดูรูปในไอจีผมจะมีบางรูปที่ผมใส่กระโปรงจริงๆมันเป็นของผู้หญิงแหละ แต่ถ้าเรามองในความคิดสมัยก่อน อย่างผู้หญิงต้องใส่กระโปรงเท่านั้น แต่ผมว่าพอมันเป็นแฟชั่น แฟชั่นมันไม่มีขอบเขต เราแค่เลือกที่จะเอามาแมทช์แล้วให้มันออกมาดูดีที่สุดกับเราแค่นั้นเองครับ 


HBZ : ไอคอนด้านการแต่งกาย แบรนด์ที่ชอบ หรือดีไซเนอร์ในดวงใจ

P : ถ้าเป็นไอดอลไม่มีเลย ไอดอลส่วนมากเค้าก็จะแต่งตัวให้เหมาะกับเค้าอยู่แล้วพอเอามาใช้กับเรามันก็เอามาใช้ไม่ได้หรอก ผมก็เลยไม่มีไอดอล ส่วนมากเวลาที่ผมจะซื้อเสื้อผ้าหรือเลือกซื้ออะไร ผมก็จะแค่มานั่งคิดว่าเราใส่แล้วมันโอเคหรือเปล่าแค่นั้นเอง ส่วนแบรนด์ที่ชอบผมจะชอบเป็น Uniqlo h&m Celine Dior อะไรงี้ครับ 4 แบรนด์นี้มันจะต่างกัน อย่าง Uniqlo ก็จะชีวิตประจำวัน ชิว เสื้อยืดสบายๆ h&m ก็แบบไปสังสรรค์กับเพื่อนจะแฟชั่นขึ้นมาหน่อย ส่วน Celine Dior พวกนี้จะเป็นแบรนด์ที่เค้าทำเพื่อไว้ออกงานอยู่แล้วลุคดูดีหน่อยครับ

HBZ : กลิ่นน้ำหอมแบบไหนที่จะทำให้พร้อมหันขวับและต้องหยุดดม

P : ไม่ค่อยมีเลยพี่(ขำ) แต่ถ้าถามว่าอะไรที่ต้องหยุดมองก็น่าจะเป็นฟีลหวานๆ ฟีลกลิ่นดอกไม้

HBZ : พร้อมชอบผู้หญิง(หรือผู้ชาย)ที่มีสไตล์การแต่งตัวอย่างไรบ้างครับ

P : ไม่มีเลยพี่ถ้าชอบผมไม่ได้ดูการแต่งตัวเขาเลยดูในส่วนอื่นของเขามากกว่าครับเพราะว่าการแต่งตัวเรารู้สึกว่ามันก็ดูดีทุกแบบ 


 
HBZ : อะไรที่คนรู้น้อยมาก ว่าเราอินและชอบสนใจเรื่องนี้ป็นพิเศษ เรียกได้ว่าเนิร์ดแต่คนไม่ค่อยทราบ

P : น่าจะเป็นอิเล็กทรอนิกส์กับศิลปะครับพวกเทคโนโลยีทั้งหมดเลยครับชอบหมดเลยชอบอ่านชอบดู

HBZ : ถ้าจะต้องจัดทริปริมทะเลรับลมร้อนนี้ อยากไปไหน ไปกับใคร แต่งตัวอย่างไร และอยากทำอะไรเป็นพิเศษครับ

P : จริงๆทะเลมันก็สวยหมด แต่ขอเลือกเป็นหาดไร่เลย์ ที่กระบี่ละกันครับ สวยครับ ถ้าถามว่าไปกับใครก็น่าจะเป็นทุกคนที่เข้ามานั่งอ่านบทสัมภาษณ์นี้นะครับ การแต่งตัวอาจจะแค่กางเกงตัวเดียวกับรองเท้าแตะผมว่าแค่นี้ก็พอละมั้งครับ(หัวเราะ)


Photographs by Wasu Sukatocharoenkul
Fashion Editor & Interviewed by Tae Chanin Faikhun
กรูมมิ่ง: ชานนท์ สุวรรณโค ผู้ช่วยช่างภาพ: ณัฐดนัย เกษงาม
พร้อม ราชภัทร สวมเสื้อผ้าจาก Balenciaga

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook