รู้หรือไม่? คนญี่ปุ่นสมัยเอโดะ เดินแกว่งแขนข้างเดียวกับขาที่กำลังก้าว!

รู้หรือไม่? คนญี่ปุ่นสมัยเอโดะ เดินแกว่งแขนข้างเดียวกับขาที่กำลังก้าว!

รู้หรือไม่? คนญี่ปุ่นสมัยเอโดะ เดินแกว่งแขนข้างเดียวกับขาที่กำลังก้าว!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“ฤดูใบไม้ร่วงแห่ง…” (〇〇の秋) ถ้าพูดถึงฤดูใบไม้ร่วง คนญี่ปุ่นนึกถึงกิจกรรมอะไรบ้าง?

ในยุคปัจจุบันมนุษย์จะเดินและแกว่งแขนในฝั่งตรงกันข้ามกัน เช่น ก้าวขาขวาแกว่งแขนซ้าย ก้าวขาซ้ายแกว่งแขนขวา ซึ่งเป็นธรรมชาติตามปกติของมนุษย์ที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว แต่คุณรู้หรือไม่ว่า? คนญี่ปุ่นในยุคเอโดะมักจะเดินด้วยวิธีการเดินที่ผิดธรรมชาติและเดินยากสุด ๆ อยู่

การเดินแบบนัมบะ
ใช่แล้วค่ะ! คนญี่ปุ่นในสมัยเอโดะมักจะเดินแกว่งแขนข้างเดียวกับขาที่กำลังก้าว คือ ก้าวขาขวาแกว่งแขนขวา ก้าวขาซ้ายแกว่งแขนซ้าย หรือยกตัวอย่างให้เข้าใจง่าย ๆ อีกข้อคือ เป็นวิธีเดินแบบเดียวกับการเดินบนไม้โถกเถกในการละเล่นของไทย การเดินในลักษณะนี้สมัยเอโดะเรียกว่า “นัมบะ” (ナンバ) ซึ่งเป็นวิธีการเคลื่อนไหวแบบเดียวกับ “รปโป” (六方) ในการแสดงคาบูกิ

ตัวอย่างการเดินแบบรปโป จากคลิปออกกำลังกายสไตล์คาบูกิ

แล้วเพราะเหตุใดคนญี่ปุ่นจึงเดินแบบนี้? เราสามารถตั้งสมมติฐานได้จากเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของคนในยุคเอโดะ ซึ่งในยุคนั้น คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะสวมใส่ชุดแต่งกายประจำชาติ โดยเสื้อผ้าแบบญี่ปุ่นจะมี “โอบิ” หรือสายรัดเอวของชุดกิโมโนคาดไว้ที่เอวเสมอ ซึ่งสายโอบิที่รัดแน่นจะทำให้ผู้สวมใส่เดินแบบธรรมดาได้ยากลำบาก นอกจากนี้ หากมีกรณีที่ต้องพกดาบคาดไว้ที่เอวด้วย ก็จะยิ่งทำให้เดินไปไหนมาไหนลำบากมากขึ้นไปอีก ด้วยเหตุนี้จึงเกิด “การเดินแบบนัมบะ” เพื่อแก้ปัญหาและทำให้เดินได้สะดวกยิ่งขึ้น

แต่หลังจากที่เข้าสู่ยุคเมจิ วัฒนธรรมตะวันตกได้แพร่หลายมาสู่ประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น ทำให้การเดินแบบนัมบะก็ถูกเปลี่ยนกลับมาเป็นการเดินแบบธรรมดาจนถึงปัจจุบัน

สรุปเนื้อหาจาก : gaku-sha

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook