กฎใหม่ของการออกเดตในยุคดิจิตอล

กฎใหม่ของการออกเดตในยุคดิจิตอล

กฎใหม่ของการออกเดตในยุคดิจิตอล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โดย British GQ
 
     เคยรู้สึกผิดตอนที่ส่งข้อความไปหาคนที่คุณอยากคุยด้วยผ่านอินสตาแกรมไหม? คุณเป็นพวก Ghost หรือ Casper หรือเปล่า? แล้วคุณเคยให้ความหวังลมๆ แล้งๆ กับใครไหม? ให้วิกตอเรีย เติร์ก (Victoria Turk) ผู้เขียนหนังสือ Digital Etiquetteนำทางให้คุณผ่านเรื่องราวแบบนี้ไปได้ด้วยดี

     คุณเป็นอีกคนที่ชอบสไลด์หน้าจอใช่ไหม? ไม่แน่ว่าคุณอาจจะกำลังทำมันแบบผิดๆ อยู่ก็ได้ การเดตออนไลน์จะทำให้การพบใครสักคนง่ายขึ้นกว่าที่เคย แต่แค่เพียงเพราะคุณกดแตะหน้าจอโทรศัพท์มากกว่าเลือกที่จะไปปรากฏตัวพร้อมดอกไม้ นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะลืมมารยาทที่ควรมีได้ เมื่อเทคโนโลยีมีการพัฒนา พฤติกรรมของเราก็ส่งผลให้เกิดกฎใหม่ในการควบคุมความรักแบบดิจิตอลด้วยเช่นกัน ตามธรรมชาติแล้ว คุณคงไม่เคยส่งรูปของลับ หรือรูปโป๊เปลือยที่ไม่น่าดูของคุณไปให้ใครดูหรอก (ใช่ไหม?) แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่เคยรุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวโดยการ Tindstagramming หรือให้ความหวังใครด้วยการ Breadcrumbing หรือการกระทำใดๆ ก็ตามที่เป็นสัญญาณของความน่าขนลุก ไม่เข้าใจว่าเรากำลังพูดถึงอะไรใช่ไหม? GQ วันนี้จึงขอเสนอสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อคุณจะเดตออนไลน์

การโกหกหลอกลวง หรือ Ghosting (หรือคุณจะเรียกว่า Casper ก็ได้)
     คุณคงไม่เคยหลอกใครที่คุณเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรกหรอก (ใช่ไหม?) แต่เรื่องนี้อาจเกิดขึ้นกับคนที่คุณเริ่มความสัมพันธ์ออนไลน์ด้วย ถ้าคุณพูดคุยผ่านข้อความกันเพียงแค่เล็กน้อย คุณก็ควรจะบอกลาเขาหรือเธอได้เลย อย่างน้อยพวกเขาจะได้ไม่คิดว่าคุณกำลังหว่านแหไปทั่วอยู่ พรีเซนเตอร์และผู้สอนเพศศึกษา อลิกซ์ ฟ็อกซ์ (Alix Fox) ให้คำนิยามคำนี้ว่า ‘Caspering’ ว่าเป็นอีกตัวเลือกที่ฟังดูดีกว่า Ghosting แทนที่จะทำแบบที่กล่าวมา เราแนะนำให้คุณส่งข้อความสุดท้ายอธิบายว่า คุณไม่คิดว่าเราเหมาะสมกัน และหลังจากนั้นคุณจะหายไป หรือบล็อกพวกเขา ก็แล้วแต่ใจต้องการได้เลย

ใส่ความสูงในโปรไฟล์ Tinder
     โดยเฉพาะถ้านี่เป็นอย่างแรก หรืออย่างเดียวที่คุณจะใส่ลงไป ในขณะที่คุณสามารถแสดงและอธิบายคุณค่าของตัวเองลงไปตรงนี้ได้ แต่คุณกลับเลือกใส่ลงไปว่าคุณสูงกี่เซนติเมตรเนี่ยเหรอ? ถ้าจุดขายสูงสุดของคุณคือส่วนสูงจริงๆ คุณต้องพยายามให้มากกว่าเดิมแล้วล่ะ อีกข้อที่ควรจะหลีกเลี่ยงก็คือ คำคมหรือสำนวนเกร่อๆ (“Work Hard, Play Hard”) คำแก้ตัวที่ตัดสินใจมาใช้บริการเดตออนไลน์ ("ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันจะมาอยู่ตรงนี้") และมุกตลกที่คุณก็อปวางมาจากที่อื่น อย่าได้ทำเชียว

คัดประวัติคู่เดตเหมือนลิสต์ช้อปปิ้ง
     ประวัติที่เขียนลงบนแอปพลิเคชั่นเดตออนไลน์นั้น เป็นที่ที่คุณอวดคุณสมบัติของตัวเองได้เต็มที่ อย่าลิสต์รายการความชอบเฉพาะตัวลงไปเหมือนกำลังจะสั่งกาแฟที่สตาร์บัค "ผมไม่ชอบคนที่แต่งหน้ามากเกินไป ถ้าชอบดูเรียลลิตี้ไปจนถึงอ่านหนังสือ เลื่อนซ้ายได้เลย และถ้าคุณไม่เคยดู Star Wars มาก่อนเลย เราคงไปกันไม่รอด (ภาคต่อไม่นับ)" มันฟังดูหยิ่งจองหองมากทีเดียว คุณอาจจะคิดว่าเหตุผลที่คุณยังไม่มีใครเพราะคุณมีมาตรฐานสูง จริงๆ แล้วอาจจะเป็นเพราะว่าคุณงี่เง่าก็ได้

เซลฟี่ที่ยิม
     เรารู้ว่าคุณภูมิใจในรูปร่างของตัวเอง นั่นเป็นเรื่องดีนะ แต่คุณต้องเข้าใจด้วยว่า ทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่เลื่อนผ่านแอปพลิเคชั่นหาคู่นั้นเคยเห็นท่อนบนเปลือยเปล่ากันมาหมดแล้ว และรูปของคุณจะโดดเด่นแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับว่าซิกซ์แพ็กของคุณคมชัดมากแค่ไหนด้วย ถ้าคุณอยากจะโชว์มันจริงๆ ให้ตั้งภาพหุ่นเป็นภาพที่สอง และอย่างน้อยในภาพนั้นก็ถ่ายให้เห็นหัวตัวเองด้วย การให้ความสนใจกับส่วนประกอบนั้นสำคัญ ข้อความที่คุณต้องการจะสื่อก็คือ "ผมเป็นคนที่น่าสนใจ และยังมีรูปร่างดีๆ ให้คุณกอดด้วย" ไม่ใช่แค่ "บางครั้งน้ำหนักผมก็ขึ้นเหมือนกัน"

เลื่อนขวาให้ทุกคน
     ท่ามกลางคู่เดตชายหญิง คงเป็นเรื่องที่ผู้ชายหลายคนคาดหวังว่าจะสไลด์ขวาให้กับผู้หญิงสวยๆ ทุกคนที่พวกเขาเห็น และสำหรับผู้หญิงคือมีตัวเลือกที่มากขึ้น เราเข้าใจดีว่ามันน่าดึงดูด เพราะมันจะช่วยยืนยันได้ว่าจะมีคนมาแมตช์กับคุณได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แต่สุดท้ายแล้ว การออกเดตไม่ใช่เรื่องของการให้คะแนนคู่เดตในจินตนาการ ดังนั้นเราแนะนำให้คุณทุ่มเทกับการเขียนโปรไฟล์และร่างข้อความเปิดตัวแรกสุด ที่จะสร้างโอกาสที่ดีที่สุดกับเขาหรือเธอที่คุณแมตช์ด้วย ด้วยความสนใจจริงๆ ซึ่งนำเรามาสู่ข้อถัดไป...

ส่งเรียงความส่วนตัว
     คุณรู้ใช่ไหมว่าคุณต้องทำให้ดีกว่าแค่ทักว่า "สวัสดี" ในข้อความแรกที่ส่งไป แต่คุณจะไปไกลเกินพอดีไปไหม? การเขียนข้อความส่งไปหลายๆ พารากราฟในครั้งแรกของการพูดคุยนั้น ถือว่ามากเกินไปเสียมากๆ คุณต้องการสร้างสมดุลที่ละเอียดอ่อนระหว่างการแสดงออกไปว่า คุณสนใจและหลุดออกไปอย่างเกินจะห้ามใจไหว เพราะการเขียนอะไรที่มากเกินไปอาจจะทำให้คุณดูเหมือนผู้ชายประเภทที่ใช้เวลาตลอดทั้งเดตพูดแต่เรื่องของตัวเอง ซึ่งนั่นไร้เสน่ห์โดยสิ้นเชิง แนะนำให้เขียนให้อยู่ในความยาวประมาณ 2 ประโยค หนึ่งคือพูดถึงเรื่องบางอย่างในโปรไฟล์ของเขาหรือเธอ ประโยคที่สองให้ถามคำถาม ง่ายๆ แบบนี้

ส่งข้อความส่วนตัวหาในแอปฯ อื่น
     มันเป็นไปได้ที่จะติดต่อสื่อสารผ่านทางโลกดิจิตอลนอกเหนือจากทางแอปฯ เดตที่ถูกตีกรอบไว้ แต่คุณต้องทำอย่างระมัดระวัง “Sliding into DMs” คือตอนที่มีใครสักคนที่คุณไม่รู้จักส่งข้อความมาหาคุณทางไดเร็กต์เมสเสจในทวิตเตอร์โดยที่พยายามจะจีบ ช่องทางดีเอ็มมีข่าวลือที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก แต่คุณสามารถส่งข้อความที่นั่นได้โดยไม่ดูเหมือนคนโรคจิต อย่ารีบข้ามไปขั้นตอนจีบ ควรเริ่มโดยการสร้างมิตรภาพไปก่อน อย่างเช่นการไลก์ทวีตพวกเขา รอให้พวกเขาทำกลับ ตอนนั้นคุณสามารถลองดีเอ็มหาพวกเขาได้ แต่ถ้าเขาไม่ตอบอะไร หยุดซะ

ผู้ชายตอบเก่ง
     มันเป็นเรื่องของบาลานซ์ทั้งนั้นเลย การกดไลก์หรือตอบโพสต์ใครสักคน (โดยเฉพาะรูปถ่ายเซลฟี่) เป็นวิธีการที่ทำให้พวกเขาแน่ใจว่าคุณชอบ แต่ถ้าทำตลอดเวลา มันจะไม่ใช่แค่การส่งสัญญาณว่าสนใจ เพราะมันจะดูเหมือนการอ้อนวอนอย่างต้องการสุดๆ ว่า “สนใจฉันสักที!!!” ผู้ชายตอบเก่งจะเป็นคนที่ตอบโพสต์ใครสักคน (ส่วนมากถ้าไม่เป็นผู้หญิง ก็จะเป็นอีลอน มัสก์) ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยตอบกลับมาเลย ความกระตือรือร้นเกินเหตุจำพวกนี้ ไม่ช่วยในการกระตุ้นให้เขาหรือเธอเปิดใจ มีแต่จะล็อกให้แน่นกว่าเดิมเท่านั้น

การเผลอไลก์ (Deep-Liking)
     เป็นสัญญาณบ่งบอกอีกอย่างของความกระตือรือร้นที่มากเกินไป Deep-Liking คือเวลาที่คุณเลื่อนผ่านโพสต์ในโซเชียลมีเดียของคนที่คุณสนใจ แล้วเผลอไปกดปุ่ม ‘ไลก์’ โพสต์ที่เก่าเกินกว่าจะโผล่มาบนหน้าฟีดหลักของคุณ เขาจะได้รับการแจ้งเตือนว่าคุณกดไลก์โพสต์นั้น แล้วคุณก็ถูกจับได้ว่าแอบดูโปรไฟล์ของพวกเขาอยู่ จะลองกดเลิกไลก์ดูก็ได้ แต่ถ้าเกิดว่าสายเกินไป มันก็มีทางเดียวเท่านั้นคือยอมรับ ไม่อย่างนั้นก็ลบแอ็กเคานต์ของคุณออกไปพร้อมความอับอายได้เลย

เช็กเรตติ้ง หรือ Breadcrumbing 
     คุณแมตช์กันแล้วก็เริ่มส่งข้อความกันไปมา แต่ในที่สุดคุณก็ตัดสินใจว่าคุณไม่ค่อยสนใจพวกเขาเท่าไหร่ แทนที่จะปฏิเสธออกไปอย่างสุภาพ คุณกลับล็อกตัวพวกเขาไว้ด้วยการส่งข้อความเป็นบางครั้งบางคราวเพื่อแค่จะกระตุ้นอีโก้ในตัวคุณเมื่อพวกเขาส่งข้อความกลับ นี่คือการ Breadcrumbing และมันแย่มากเลย ถ้าคุณไม่ได้ตั้งใจจะเดินหน้ากับพวกเขาจริงๆ คุณควรไปลงแรงกับคนอื่นดีกว่า

การส่งจูบที่ไม่เหมาะสมผ่านตัว X
     อย่าได้จบอีเมลที่เกี่ยวกับงานด้วยสัญลักษณ์จูบ (x) เชียว มันก็จริงที่การติดต่อสื่อสารผ่านโลกดิจิตอลที่มีความเป็นทางการน้อยลงกว่าแต่ก่อน แต่คุณอาจจะคิดอย่างซื่อๆ ว่า “ฉันจะลงท้ายทุกข้อความด้วยรอยจูบ มันดูเฟรนด์ลี่ดี ไม่มีอะไรมากกว่านั้น” แต่จำไว้ว่าโอกาสเกิดความเข้าใจผิดมีมากเกินกว่าจะเสี่ยง แค่ข้อความเล็กๆ น้อยๆ ที่เพิ่มขึ้นมา ตัวอักษร ‘x’ แค่ตัวเดียวสามารถตีความได้หลายความหมาย ถ้าจำเป็น แนะนำใช้อีโมจิรูปยิ้มแทน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook