เปิดกรุนาฬิกาวินเทจของ ‘แบงค์-อมรพันธุ์’ พร้อมเคล็ดลับการสะสมที่ไม่ค่อยมีใครเขาบอกกัน!

เปิดกรุนาฬิกาวินเทจของ ‘แบงค์-อมรพันธุ์’ พร้อมเคล็ดลับการสะสมที่ไม่ค่อยมีใครเขาบอกกัน!

เปิดกรุนาฬิกาวินเทจของ ‘แบงค์-อมรพันธุ์’ พร้อมเคล็ดลับการสะสมที่ไม่ค่อยมีใครเขาบอกกัน!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รู้หรือไม่ว่านาฬิการุ่นไหนมีค่ามากสุดเมื่อกลายเป็นไอเท็มวินเทจ? เทรดนาฬิกาอย่างไรให้สนุกและไม่โดนย้อมแมว? เผยแรงบันดาลใจและกลวิธีสะสมนาฬิกากันได้เลย!

เป็นธรรมดาที่คุณผู้ชายจะหลงใหลในเสน่ห์แห่งเรือนเวลา ที่นอกจากความเท่ภายนอกแล้ว กลไกภายในยังสลับซับซ้อนชวนให้เข้าไปศึกษาด้วย แต่จะเท่แค่ไหนถ้านาฬิกาที่คุณได้ครอบครองนั้นช่างหายากมากกว่าเพชร แบบมีเงินก็ซื้อไม่ได้ HELLO! ชวน 'คุณแบงค์-อมรพันธุ์ อร่ามวัฒนานนท์' มาเปิดใจถึงความชื่นชอบสุดคลาสสิกนี้ พร้อมความลับที่มีแต่เหล่านักเล่นนาฬิกาเท่านั้น ถึงจะรู้ !

นาฬิกาวินเทจไม่ต้องการเงิน แต่ต้องการความพยายาม
“สิ่งที่ทำให้การสะสมนาฬิกาวินเทจสนุกกว่าการสะสมนาฬิกาปัจจุบันคือการไล่ตามหาของ โดยเฉพาะรุ่นที่เป็นที่ต้องการของตลาด บางทีนานๆ ถึงโผล่มาให้เห็น และต่อให้โผล่มาก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถคว้าได้ทันทีด้วย ต้องดูว่าเรือนที่โผล่มานั้นสภาพเป็นยังไง แท้หรือไม่แท้ ราคารับได้ไหม ฉะนั้นกว่าจะได้นาฬิกาวินเทจดีๆ มาไว้กับตัวสักเรือน ต้องใช้ความพยายาม ใช้ความรู้ ความละเอียดรอบคอบ ใช้เนตเวิร์คที่เรามี แล้วลองคิดดูสิว่า ในที่สุดถ้าเราได้นาฬิกาวินเทจดีๆ เรือนหนึ่งมาครอบครอง เราจะรู้สึกภูมิใจและมีความสุขกับมันมากแค่ไหน!”

'คุณแบงค์-อมรพันธุ์ อร่ามวัฒนานนท์' นักสะสมนาฬิกาวินเทจคนสำคัญของเมืองไทย

จากจุดเริ่มต้นเมื่อราคาแพงเกินไป จึงเก็บความประทับใจนั้นมาตลอด
“นาฬิกาเรือนแรกที่ผมชื่นชอบมาจนกระทั่งปัจจุบัน คือ Alain Silberstien เป็นนาฬิกาที่มีรูปร่างหน้าตาที่แปลก ตกแต่งหน้าปัดได้อย่างสวยงามโดดเด่น เห็นครั้งแรกรู้สึกชอบมาก แต่พอรู้ราคาก็ตกใจ เพราะแพงมากๆ สำหรับเราในตอนนั้น จึงได้แต่เก็บความประทับใจเอาไว้ จากนั้นก็ได้ไปศึกษาเรื่องนาฬิกาเพราะอยากรู้ว่าทำไมถึงมีราคาสูงขนาดนั้น"

Rolex Sea-Dweller 1665 “Double Red” or “DRSD Dial” เรือนเวลาสุดหายากที่ได้มาอย่างภาคภูมิใจ ผลิตช่วงปี 1960 – 1970 ออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์สำหรับภารกิจดำน้ำในยุคแรกๆ ตัวเรือนสเตนเลสสตีลกันน้ำลึก 610 เมตร พื้นหน้าปัดดำ เข็มและมาร์คเกอร์เคลือบสารเรืองแสงสีซีดตามกาลเวลา โดดเด่นด้วยชื่อรุ่นสีแดง 2 บรรทัดอันเป็นที่มาของชื่อ “Double Red” ทำงานด้วยกลไกออโตเมติก ประกอบกับสายสเตนเลสสตีล

Rolex Day-Date เรือนนี้ต้องบอกว่าคือความธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เพราะผลิตตัวเรือนจากทองขาว 18K ซึ่งนาฬิกา Rolex สมัยก่อนผลิตค่อนข้างน้อย ดังนั้นจึงหายากและเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของหนุ่มคนนี้ เสริมความโดดเด่นด้วยพื้นหน้าปัดสีฟ้าเคลือบเงา แทนหลักบอกเวลาด้วยเพชรน้ำงาม จัดแสดงวันและวันที่ผ่านช่องหน้าต่าง ทำงานด้วยกลไกออโตเมติก

จึงได้เข้าใจว่านาฬิกาเหล่านั้น ไม่ได้เป็นแค่เครื่องบอกเวลาหรือเครื่องประดับธรรมดา แต่เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีคุณค่า มีความเป็นมาหลายร้อยปี ทุกชิ้นรังสรรค์ขึ้นมาด้วยไอเดียและความตั้งใจของช่างฝีมือ บางคนมองเป็นชิ้นงานศิลปะ เป็นของสะสมที่มีมูลค่า และอีกหลายเหตุผลต่างนานา ก็ทำให้เริ่มรู้สึกชอบขึ้นมาทีละน้อย ใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งจะต้องมีนาฬิกาดีๆเหล่านี้สะสมไว้ในมือบ้าง”

เมื่อรู้ว่านาฬิกาวินเทจเขาเล่นกันยังไง ก็ใส่ไปแบบไม่ยั้ง!!
“หลังจากตั้งใจว่าจะเก็บนาฬิกาวินเทจเป็นซีรีย์ต่อไปในการสะสม ผมได้รับคำแนะนำจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งว่า Rolex น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะคุ้มค่าในการสะสม สามารถเก็บเพื่อทำกำไรหรือการลงทุนได้โดยเฉพาะในรุ่นที่หายากๆ มีคนนิยมสะสมกันทั่วโลก มีราคาตลาดที่ชัดเจน"

ดูหรูหราอย่างน่าประทับใจกับ Rolex Day-Date เรือนที่ไม่ว่าใครเห็นต่างต้องอยากขอดูใกล้ๆ เพราะความสวยงามล้ำค่าของพื้นหน้าปัดสีน้ำเงินที่รังสรรค์จากหินลาพิซ (Lapis lazuli) โดดเด่นด้วยลวดลายที่เป็นยูนีค เสริมความล้ำค่าด้วยเพชรน้ำงามแทนหลักชั่วโมง แสดงวันและวันที่ผ่านช่องหน้าต่าง ทำงานด้วยกลไกออโตเมติก ในตัวเรือนและสายทอง 18K

พอได้คำตอบนั้นผมจึงตัดสินใจเริ่มเก็บ Rolex วินเทจ และศึกษาข้อมูลอย่างจริงจังทันที อันดับแรกคือพยายามดูว่าตัวเองชอบคอลเลกชั่นไหนมากที่สุด ดูแล้วน่าจะเหมาะกับสไตล์เราที่สุด เพื่อสร้างแนวทางการสะสมให้กับตัวเอง จนได้คำตอบให้กับตัวเองได้ว่าคือคอลเลกชั่น Explorer เพราะรู้สึกว่ามีรูปแบบเข้ากับตัวเองมากที่สุดแล้ว จากนั้นจึงตั้งใจตามหาสิ่งที่ตัวเองชอบมาเรื่อยๆ”

จากความประทับใจ กลายเป็นความชื่นชอบแบบจริงจัง ขอปรบมือดังๆ ให้กับความตั้งใจของคุณแบงค์เลยค่า

Rolex Day-Date เรือนนี้เป็นอีกเรือนที่หายาก และดูแปลกต่าไม่เหมือนใคร ด้วยพื้นหน้าปัดที่สร้างสรรค์จากหินออนิกซ์ (Onyx) สีดำขลับ ไร้หลักชั่วโมง จัดแสดงวันและวันที่ผ่านช่องหน้าต่าง ทำงานด้วยกลไกออโตเมติก ในตัวเรือนและสายทอง 18K


ไม่รักกันจริง ไม่แชร์เคล็ดลับการสะสมนาฬิกาวินเทจ
“การซื้อนาฬิกาวินเทจต้องมีความระมัดระวัง ด้วยความที่เป็นนาฬิกาอายุ 40-50 ปี ผ่านมากี่มือต่อกี่มือ เราไม่หรอกรู้ว่าเขาได้ไปเปลี่ยนแปลงอะไรมันบ้างหรือเปล่า ดังนั้นสิ่งที่ขาดไม่ได้คือความรู้ ผมเองก็อาศัยการอ่านและเรียนรู้จากผู้รู้ไปเรื่อยๆ และถ้าจะซื้อนาฬิกาวินเทจสักเรือน ผมจะซื้อกับดีลเลอร์ที่ไว้ใจได้เท่านั้น"

Rolex Day-Date เป็นเรือนที่หนุ่มคนนี้รู้สึกประทับใจในสีแดงของหน้าปัด คลาสสิกหรูเรียบตามสไตล์วินเทจคลาสสิก ตัวเรือนและสายผลิตจากทอง 18K พื้นหน้าปัดสีแดงลงยาเงางาม ประดับด้วยเพชร 10 เม็ดแทนหลักชั่วโมง แสดงวันและวันที่ผ่านช่องหน้าต่าง ทำงานด้วยกลไกออโตเมติก

“นาฬิกาวินเทจเป็นดาบสองคม ถ้าดูเป็น ซื้อเป็น มีความเข้าใจในแบรนด์หรือรุ่นนั้นๆ คุณก็จะได้นาฬิกาวินเทจที่ดี มีคุณค่าและมูลค่าไว้กับตัว แต่ถ้าคุณไม่รู้เรื่องอะไรเลย แล้วอยู่ดีๆกระโจนเข้ามาเพราะอยากได้หรืออยากสะสมเหมือนกับคนอื่นๆ บางทีคุณก็จะได้นาฬิกาวินเทจที่ไม่มีคุณค่าและมูลค่าอะไรเลย”

Rolex Explorer II 1655 เรือนเวลาวินเทจสุดหวงอีกเรือนหนึ่งที่ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการตามหา ได้มาในสภาพเนี้ยบเหมือนใหม่ เป็นรุ่นที่นักแสดงภาพยนตร์ชาวอเมริกัน สตีฟ แม็คควีน สวมใส่ตลอดการแสดงภาพยนตร์เรื่อง ‘Le Mans’ ในปี 1971 จึงทำให้เป็นรุ่นที่นักสะสมทั้งหลายต่างหมายปอง ตัวเรือนและสายผลิตจากสเตนเลสสตีล พื้นหน้าปัดดำ แสดงเวลาแบบ 3 เข็ม พร้อมเข็มแสดงเวลาไทม์โซนที่ 2 แบบ 24 ชั่วโมง สีส้ม ทำงานด้วยกลไกออโตเมติก

ถึงวันนี้ ดูเหมือนว่าคุณอมรพันธุ์จะติดใจไปกับโลกแห่งการสะสมนาฬิกาวินเทจไปเสียแล้ว เพราะเสน่ห์และความสุขที่เขาสามารถสัมผัสได้นั้น มีมากกว่านาฬิกาปัจจุบันอยู่หลายเท่าตัวเลยล่ะ!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook