เจาะใจ"แอมป์ พิธาน" สู่ธุรกิจเครื่องสำอาง (ที่นางเอกอั้มจะมาร่วมเปิดตัวด้วย)

ชื่อของ "แอมป์"พิธาน องค์โฆษิต ณ วันนี้น้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก เพราะไม่เพียงเป็นนักธุรกิจและทายาท ไฮโซเท่านั้น หากยังเป็นหวานใจ "อั้ม"พัชราภา ไชยเชื้อ นางเอกเบอร์หนึ่งของเมืองไทย

แต่ในมุมการทำงาน แอมป์ พิธาน เป็น นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ทายาทรุ่นที่สองของ บัญชา-วรลักษณ์ องค์โฆษิต เจ้าของ บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและส่งออกแผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ด้วยวัย 30 ต้นๆ เขาสานต่อธุรกิจครอบ ครัวในตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการ และยังมีธุรกิจส่วนตัวที่ใช้ทุนตัวเองอีก 2-3 ธุรกิจ ไม่รวมการเล่นหุ้นที่เขาเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการลงทุนผ่านตลาดหุ้น โดยเฉพาะหุ้นคุณค่า (หุ้นพื้นฐานดี)

ล่าสุดร่วมกันกับเพื่อนนักธุรกิจเข้าเทกโอเวอร์ "เดอะเฟซ ช็อป" แบรนด์เครื่องสำอางจากแดนกิมจิ

ทำไมถึงเลือก "เดอะเฟซ ช็อป"

จากการศึกษาโอกาสและการเติบโตของธุรกิจประเภทต่างๆ พบว่าเครื่องสำอางจากเกาหลีเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง และยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อีกมากในประเทศไทย ซึ่งเดอะเฟซ ช็อปมียอดขายเป็นอันดับหนึ่งในเกาหลี และมีกลุ่มแอลจี ทุนยักษ์ใหญ่ของเกาหลีเป็นเจ้าของ จึงเชื่อว่าจะประสบความสำเร็จในไทยได้ไม่ยาก

เพราะศักยภาพของแบรนด์มีสูง สินค้าผลิตจากธรรมชาติ น่าจะตอบโจทย์ผู้หญิงไทยที่ดูแลตัวเองหันมาให้ความสำคัญกับสินค้าที่ผลิตจากธรรมชาติมากขึ้น และก่อนที่เลือกเทกโอเวอร์เดอะเฟซ ช็อป ได้ไปเกาหลีขนซื้อเครื่องสำอางมาหลายแบรนด์ให้น้องสาวทดลองใช้ สุดท้ายมั่นใจว่าเดอะเฟซ ช็อป จะเติมเต็มผู้บริโภคคนไทยได้

วางแผนและตั้งเป้าหมายอย่างไร

ขอเวลา 3 ปี จะทำให้เดอะเฟซ ช็อปมียอดขายติดท็อป 3 ของเครื่องสำอางเกาหลีในไทยที่มีอยู่กว่า 10 แบรนด์ พร้อมยังปรับลดราคาลงมาให้ใกล้เคียงกับที่จำหน่ายในเกาหลี หรือเทียบเท่ากับสินค้าพรีออร์เดอร์ หรือเกรย์มาร์เก็ต และปีนี้จะทุ่ม 100 ล้านบาท สำหรับทำตลาด 70% และขยายสาขาที่วางไว้ปีนี้จะเพิ่มอีก 10 สาขา จากเดิมที่มีอยู่ 20 สาขา ในปีหน้าขยายเพิ่มอีก 15 สาขา และเพิ่มอีก 25 สาขาในปีต่อไป ภายใน 3 ปีจะมีครบ 70 สาขา ในขณะที่ยอดขายเติบโต 3 เท่าตัว จากปีนี้ตั้งเป้าหมายไว้ 150 ล้านบาท หรือเพิ่มยอดขายปีละเท่าตัว

ตอนนี้เริ่มปรับอะไรบ้าง

ในช่วง 4-5 เดือนหลังเทกโอเวอร์เข้ามาปรับโครงสร้างบริษัทใหม่ เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 60 ล้านบาท ปรับระบบต่างๆ ปรับโฉมร้าน วางกลยุทธ์ และระดมทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญตลาดเครื่องสำอาง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ให้ได้

"คุณอั้ม" มีส่วนช่วยหรือเปล่า

จะมาช่วยในงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 ส.ค.นี้ ที่โรงแรมดับเบิ้ลยู และบอกว่าจะพาเพื่อนๆ มาด้วย ช่วยดูในเรื่องกิจกรรมเปิดตัวมากกว่า

ธุรกิจหลักที่เคซีอี ปีนี้

ปีนี้เป็นปีประวัติศาสตร์การทำกำไรของเคซีอี ซึ่งผลประกอบการไตรมาสแรกของ ปีนี้ทำได้สูงสุดเป็นสถิติใหม่ของบริษัท แนวโน้มไตรมาส 2 และ 3 จะทำสถิติสูงสุดเช่นกัน ทำให้ทั้งปีนี้รายได้น่าจะทะลุ 10,000 ล้านบาทแน่นอน จากที่ตั้งเป้าหมายเติบโตไว้ 20% ถึงสิ้นปีน่าจะดีกว่าที่เคยบอกไว้ ครึ่งปีแรกรายได้เกิน 5,000 ล้านบาทแล้ว ปีนี้จะเป็นปีที่มองว่าเป็นรากฐานเพื่อการขยายตัว ต่อเนื่องไปอีก 4 ปีในระดับการเติบโตที่ 20%

สาเหตุหลักที่เติบโต

เราลงทุนสร้างโรงงานใหม่สามารถรองรับการขยายตลาดใหม่ๆ ได้เต็มที่ โดยเฉพาะตลาดญี่ปุ่นที่มีความต้องการเพิ่มขึ้นในกลุ่มรถยนต์ ซึ่งในอีก 1-2 เดือนจะเซ็นสัญญาเพิ่มกับพานาโซนิค จากก่อนหน้านี้ได้ร่วมมือกันไปแล้ว แล ะเพิ่งได้ลูกค้าญี่ปุ่นใหม่ในส่วนของเครื่องเสียงรถยนต์คือฟูจิสึ ขณะเดียวกันภาวะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวแล้ว ทำให้ทิศทางธุรกิจของเคซีอีมีโอกาสที่ดี

แบ่งเวลางานอย่างไร

เวลาส่วนใหญ่ 80-90% ให้กับเคอีซี ส่วนธุรกิจส่วนตัวอย่างเดอะเฟซ ช็อป มาประชุมอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง แต่ใช้เวลาช่วงเย็นๆ ประมาณ 5 โมงมากกว่าสำหรับการให้แนวทางบริหาร ยกเว้นติดปัญหาอะไรเร่ง ด่วนก็จะมีประชุมเร่งด่วน ส่วนธุรกิจส่วนใหม่ๆ ตอนนี้ยังไม่ได้มอง ขอให้ความสำคัญกับเดอะเฟซ ช็อปก่อน แต่หากมีโอกาสจะทำเพิ่มแน่นอน

เป้าหมายสูงสุดในชีวิตการทำงาน

"เป้าหมายสูงสุด ก็คือ ทำทุกธุรกิจให้ใหญ่ที่สุด และดีที่สุดเท่าที่จะทำได้

สัมภาษณ์พิเศษโดย ปัทมา ทองสิน
ที่มา นสพ.ข่าวสด