หลากสเปก ′ความสวย′ ในทัศนะหนุ่มผู้ทรงเกียรติในสภา

โดย วรรณโชค ไชยสะอาด และเมธาวุธ เสาร์แก้ว

"เรื่องความสวย ช่วยไม่ได้ เด็กกว่า ใสกว่า ต้องสู้กันนิดหนึ่ง..." แหม...นี่ถ้าภาษาเขียนใส่อารมณ์ได้ รับรองว่าผู้อ่านทั้งหลายคงสัมผัสซับกลิ่นอายบางอย่างที่ยากเกินอธิบาย

สำหรับผู้ที่ติดตามชมการถ่ายทอดสด การประชุมสภาเพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องที่มาของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เมื่อไม่กี่วันก่อน คงจดจำประโยคนี้ของ "น้องเดียร์" ขัตติยา สวัสดิผล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ได้ดี

(จากซ้าย) นาถยา เบ็ญจศิริวรรณ, รังสิมา รอดรัศมี, ขัตติยา สวัสดิผล

 

ปลายเดือนสิงหาคม อากาศเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวฝน แปรปรวนจนเดาไม่ถูก เช่นเดียวกับบรรยากาศในการอภิปรายในสภา ของ ส.ส., ส.ว. ผู้ทรงเกียรติทั้งหลาย ชาวบ้านดูอยู่หน้าจอ เดาไม่ออกเหมือนกันว่าจะออกมาในรูปไหนจริงๆ เพราะดุเดือดเลือดพล่าน ขนาดที่ถึงขั้นต้องเชิญ "ตำรวจ" สภาเข้ามาดูแล

นี่ขนาดยังไม่ถึงเรื่องที่คิดว่าอาจจะร้อนที่จ่อคิวรออยู่อย่าง ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และ ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน

ฟัง-ดู แล้วน่าเครียดมั้ยล่ะ?

สวนดุสิตโพลเพิ่งสำรวจความเห็นของคนไทย 1,297 คน ระหว่างวันที่ 16-20 มิถุนายนที่ผ่านมา พบว่าในบรรดาข่าวสารต่างๆ ข่าวการเมืองเป็นข่าวที่ทำให้คนเครียดที่สุด คิดเป็น 34.06 เปอร์เซ็นต์ และวิธีการแก้เครียดจากข่าวการเมืองที่ผู้คนนิยมทำสูงสุดคือ ติดตามข่าวบันเทิงหรือข่าวเบาๆ ผู้ที่ใช้วิธีนี้มี 37.14 เปอร์เซ็นต์

แต่ใครว่าล่ะ...เรื่องการเมือง ข่าวการประชุมสภา ใช่มีแต่อะไรเครียดๆ...

การโต้เถียงในประเด็น "ความสวย" เมื่อไม่กี่วันก่อน เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทำเอาบรรดาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในสภาอมยิ้มกันแก้มปริ

"ฮิตฮอต" ขนาดที่มีผู้สนใจนำไปขยายต่อทางโลกออนไลน์ เปรียบเทียบให้เห็นกันจะจะ ไปเลยว่าระหว่างคู่กรณี คือฝ่ายเพื่อไทย ส.ส. "น้องเดียร์" กับฝ่ายประชาธิปัตย์ ส.ส. นาถยา เบ็ญจศิริวรรณ อดีตดาราเจ้าบทบาท ใครสวยกว่ากัน?

จริงอยู่ เรื่องความเท่าเทียมทางเพศ เป็น "ประเด็น" สำคัญที่ควรให้ความเคารพ และเรื่อง ใครสวยกว่าใคร ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะใช้เป็นสิ่งวัดในการเลือก "ผู้แทน" เข้าไปทำหน้าที่ในสภา

แต่...เห็นรอยยิ้มของบรรดาคนในสภาตอนที่ฟัง ส.ส.หญิงสองฝ่ายถกเถียงกันเรื่องความสวยความงามแล้ว อดที่จะแอบลอบสอบถาม "หนุ่มๆ" ทั้งหลายไม่ได้ว่า "สวยในสายตาของแต่ละคนเป็นอย่างไร?"

อย่ากระนั้นเลย ไม่รอช้า แอบเดินเลาะรอบห้องประชุมสภา หาคนที่จะมาเผย "สเปก"

คนแรกที่เจอคือนักการเมืองรุ่นเก๋า เจ้าของฉายา "ใบมีดโกนอาบน้ำผึ้ง" ชวน หลีกภัย ซึ่งเดินมาพอดี

ด้วยความเป็น "รุ่นใหญ่" ทำให้กล้าๆ กลัวๆ ที่จะเข้าไปถามเรื่องความสวยในสเปกของท่านประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เเต่สุดท้าย กัดฟันเดินเข้าไปยกมือไหว้สวัสดีก่อนเอ่ยถามถึง "ประเด็นเรื่องความสวย"

"วัยผมไม่น่าจะเหมาะที่จะพูดเรื่องนี้เเล้ว ต้องหนุ่มๆ พวกวัยรุ่นๆ ดีกว่า" ชวนเอ่ย พร้อมหัวเราะ ก่อนถามกลับ "อยากสัมภาษณ์ใครล่ะ ถ้าเอาคนฮอตๆ คงต้องหาในห้องพยาบาลพวกที่เป็นไข้ กับเป็นความดัน เพราะคงตัวร้อน"

นั่นไง โดน "กรีด" เข้าให้แล้ว เลือดอาบซิบๆ

ก่อนจะติดต่อลูกน้องในพรรคอย่าง สาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.จากบ้านเดียวกัน ให้มาเผยสาวสวยในสเปก

สาทิตย์พูดถึงความสวยด้วยท่าทีเป็นกันเองว่า "ผมเชื่อว่า คนจะงาม งามที่ใจ ใช่ใบหน้า คนจะสวย สวยจรรยา ใช่ตาหวาน" นายสาธิตยกภาษิตเก่ามาอ้างด้วยท่าทางมั่นใจก่อนบอกต่อว่า "ความสวยไม่สำคัญ แต่ความงามสำคัญมากกว่า ผู้หญิงที่มีความงาม จะงามจากจิตใจก่อนจะเเสดงออกมาให้เห็นถึงการมีบุคลิกภาพเเละมารยาทที่ดี นี่แหละคือผู้หญิงงามที่มีเสน่ห์ ส่วนผู้หญิงที่สวยหน้าตาดี แต่หากไม่มีความงามภายใน สิ่งที่เเสดงออกมาภายนอกนั้น ก็จะเป็นมารยาทที่ไม่ดี ไม่งาม เเละไม่มีเสน่ห์"

"อุดมคติผู้หญิงของนักการเมืองอย่างคุณล่ะ?"

"ผมชอบผู้หญิงที่มีความงามอย่างที่บอกไป เพราะเขามีเสน่ห์ อีกอย่างต้องเป็นผู้หญิงแกร่ง เข้มแข็ง มีความเป็นผู้นำ และมีความคิดความอ่านดี นี่แหละคือผู้หญิงที่มีวุฒิภาวะ ซึ่งนางเอกเรื่อง THE LAST SAMURAI มหาบุรุษซามูไร ก็เป็นตัวอย่างผู้หญิงที่ผมชอบ เพราะสวย เก่งเเละเเกร่ง

"ผู้หญิงญี่ปุ่นมีหน้าตาคมดั่งดาบซามูไร แต่อีกด้านหนึ่งมีความอ่อนช้อยอย่างดอกเบญจมาศ" สาธิตทิ้งท้าย คมกริบไม่แพ้นักการเมืองรุ่นพี่จากค่ายประชาธิปัตย์

คนต่อมาคือ นริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง ยิ้มกว้างหลังฟังประเด็นเรื่องความสวย ก่อนยิงมุขใส่ "สวยเหรอครับ ต่างจากภรรยาผมก็สวยหมด" ก่อนรีบบอกว่า ′ล้อเล่น′

"ผู้หญิงสวยต้องรูปร่างดี ผิวสวย เข้มนิดหน่อย ฉลาดเฉลียว บุคลิกปราดเปรียว พูดจาต้องมีสัมมาคารวะ ที่สำคัญต้องกล้าคิดกล้าพูด เเละรักในความถูกต้องเป็นธรรม ทั้งหมดนี้ใครมีครบสวยเเน่นอน" นริศเผย และบอกอีกว่า เเท้จริงเเล้วตัวเองชอบคนเก่งมากกว่าสวย ก่อนยกตัวอย่างผู้หญิง "คนสวย" ของตัวเองว่า คือ "ออง ซาน ซูจี" ผู้นำฝ่ายค้านเเห่งพม่า

คนถัดมาคือ หนุ่มฮอตที่ถูกตำรวจรัฐสภา "เหยียบตาปลา" กุลเดช พัวพัฒนกุล ส.ส.อุทัยธานี พรรคประชาธิปัตย์

บอกด้วยสีหน้ายิ้มเเย้มกว่าวันที่มีเรื่องมีราวกับตำรวจสภาว่า...

"ความสวยของเเต่ละคนไม่เหมือนกัน คนที่เราว่าสวย คนอื่นอาจจะบอกว่าไม่สวยก็เป็นได้ สำหรับผม พูดถึงคนสวย ผมคิดถึงภรรยาผม คนสวยของของผม ต้องมีการพูดจาที่ไพเราะ นอบน้อม มีจิตใจนิสัยใจคอ มีมารยาทเเละความรู้ความสามารถที่ดี" กุลเดชเผยสั้นๆ เเต่ได้ใจภรรยา (อิอิ)

ฟังมุมมองของ "คนหล่อ" ในเรื่อง "ความสวย" กันบ้าง

ส.ส.ป้ายแดง "อี้" แทนคุณ จิตต์อิสระ ส.ส.ดอนเมือง พรรคประชาธิปัตย์ บอกด้วยสีหน้าขึงขัง เเต่มีแววหน้าคมคายว่า ความสวยงามเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับโลกยุคปัจจุบัน เพราะมันจะช่วยจรรโลงโลกให้น่าอยู่ เพื่อจะได้ใช้ชีวิตอย่างกระตือรือร้น และความสวยความงามแต่ละคนล้วนมองต่างกัน

"ความสวยงามจำเป็นสำหรับผู้ชายมากๆ ผู้ชายทุกคนล้วนต้องมองผู้หญิงสวยทั้งนั้น สเปกผู้หญิงในมุมมองผม ผมชอบผู้หญิงหน้าตาดี สวย สัดส่วนสูง มีความคิดความอ่านฉลาด และชอบผู้หญิงที่สุขุม เงียบๆ สำหรับนักการเมือง ในสภาอันทรงเกียรตินี้ก็มีสวยหลายคนอยู่ แต่ผมไม่ชอบ เพราะไม่ชอบผู้หญิงที่มีชื่อเสียง" แทนคุณเปรยด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มเเละมั่นใจ

สาวๆ ในสภาทั้งหลายได้ยินแล้วอกหักดัง "เป๊าะ"

อีกหนึ่งหล่อ อย่าง พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคเพื่อไทย บอกถึงความสวยความงาม โดยยกตัวอย่างภาษิต เหมือน "สาธิต" เป๊ะ แต่มีมุมมองความสวยความงามที่ผิดแผกออกไป ซึ่งยึดติดกับอุดมการณ์ประชาธิปไตย

"คนสวยคนงามในความคิดผมต้องมีหลักการที่ยึดติดกับประชาชน ทำเพื่อสังคม และทำเพื่อประเทศชาติ คนที่มีอุดมการณ์นั้นจะทำให้ความสวยนั้นคงที่ ความดีนั้นคงทน ซึ่งรูปร่างหน้าตาไม่สำคัญ ขอแค่คิดดีทำดี จิตใจดี มีมนุษยสัมพันธ์ดี กิริยามารยาทงามก็พอ ที่สำคัญคือต้องกล้าคิดกล้าทำตามแบบอย่างผู้หญิงสมัยใหม่ นี่แหละคือคนสวยในมุมมองผม" อดีตพระเอกดังบอก เเละทิ้งท้ายเป็นหลักธรรมว่า ความสวยงาม เป็นสิ่งที่ไม่จีรังยังยืน

ลองถาม "เสด็จพี่" ว่า "สภาเเห่งนี้ คนไหนสวยบ้าง?"

พร้อมพงศ์ยิ้มก่อนบอกอย่างเป็นกันเอง "ส.ส.ผู้หญิง มีหน้าตาดีอยู่หลายคน ฝ่ายค้านก็อย่างคุณสุพัชรี ธรรมเพชร ส.ส.พัทลุง หรือ นาถยา เบ็ญจศิริวรรณ ฝ่ายรัฐบาล ก็อย่างนายกฯปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ท่านก็เป็นคนสวย มีสง่าราศี และเป็นไอดอลของวัยรุ่น เมื่อไหร่ก็ตามที่มีความตึงเครียด สำหรับผมเวลาท่านยิ้มจะช่วยลดบรรยากาศผ่อนคลายลงได้เสมอ" อดีตพระเอกชื่อดังเผย

อีกคนหนึ่งคือ วัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร เล่าด้วยใบหน้าอันเป็นมิตรว่า พูดถึงความสวย ต้องขอพูดถึงความสวยความงามของรัฐสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ ที่ต้องสะอาดร่มแห่งรื่นรมย์ด้วยแมกไม้นานาพรรณ แต่ตอนนี้สภาสถานที่คับแคบ ประกอบกับที่ผ่านมาไม่กี่วัน บรรยากาศในการประชุมสภาช่างร้อนระอุ เลยไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่นัก

ถือเป็นคำตอบที่ออกมาตามฐานะหน้าที่การทำงานจริงๆ

วัฒนาไม่ลืมที่พูดถึงด้านความสวยความงามของมนุษย์ว่า ทั้งชายและหญิงต้องมีพฤติกรรมที่ดีคือประพฤติดี ถึงจะสวยงาม ไม่เกี่ยวกับหน้าตา

"ในสภามี ส.ส. ผู้หญิงหลายท่านนะที่สวย ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล และท่านเหล่านั้นทั้งสวย เก่ง และถ้าท่านรักษาพฤติกรรมดีงาม พูดจาไพเราะได้ จะรักษาภาพลักษณ์ความสวยความงามไว้ได้ แต่อย่างไปเป็นเหมือนบางท่านที่มีพฤติกรรมตรงข้ามนะ มันจะไม่งามเลย" วัฒนาเตือนด้วยความเป็นห่วง

จนแล้วจนรอดก็ไม่รู้ว่าสเปกของท่าน "โฆษกขุนค้อน" เป็นอย่างไร

เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบรรดาคนในสภา กับความ "สวย" ในสายตาของเขา

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากเห็นจากบรรดาผู้ทรงเกียรติ เห็นจะเป็นอย่างที่ รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ที่กระโดดเข้าร่วมแจมกรณีนี้ด้วย

"ในสภา ไม่ได้มองความสวย มองสมอง สวยไม่มีสมอง ช่วยไม่ได้..."

ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น ประชาชนเขาเลือกเข้าไปทำหน้าที่ในสภา ก็ด้วยมองเรื่องความรู้ ความสามารถ และมันสมองไม่ใช่ความสวย แต่ที่เห็นและเป็นอยู่ในนาทีนี้ การประชุมสภาที่วุ่นวาย ยืดเยื้อ วนไปวนมาแต่เรื่องเดิมๆ ไม่รู้ว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อใด...

อย่างนี้เขาเรียกว่าใช้อะไรทำหน้าที่? (อิอิ)