ช็อป ชิล กิน ดื่ม ในคอมเมอร์เชียลสเปซดีไซน์โดน แบบไม่เหมือนใคร

ช็อป ชิล กิน ดื่ม ในคอมเมอร์เชียลสเปซดีไซน์โดน แบบไม่เหมือนใคร

ช็อป ชิล กิน ดื่ม ในคอมเมอร์เชียลสเปซดีไซน์โดน แบบไม่เหมือนใคร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พาไปดูไอเดียการออกแบบและตกแต่งพื้นที่ธุรกิจหรือคอมเมอร์เชียลสเปซไม่ว่าจะทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมีการสร้างสรรค์พื้นที่ได้อย่างสร้างสรรค์และน่าจดจำ ช่วยให้เห็นบทบาทความสำคัญของงานออกแบบตั้งแต่ต้นทาง ระหว่างทาง จนออกมาเสร็จสมบูรณ์สวยงาม เพื่อมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่และดึงดูดใจอย่างที่ลูกค้าไม่เคยสัมผัสมาก่อน 

1.Wang Hinghoi

ยกป่ามาไว้กลางเมืองในย่าน RCA ให้คนกรุงได้สัมผัสระบบนิเวศที่สมบูรณ์ ระยิบระยับไปด้วยแสงจากหิ่งห้อย เคล้ารสชาติอาหารแสนอร่อย

บนพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร ที่นี่มีจุดประสงค์เป็นเปิดเป็นคอมเมอร์เชียลสเปซ สเปซสาธารณะที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ ก่อนจะขยับขยายไปยังพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นสปอร์ตคอมแพล็กซ์ หรือคอมมูนิตีมอลล์ในอนาคต โดยในส่วนของร้านอาหารที่เปิดให้บริการขณะนี้ มีจุดเด่นอยู่ที่การสื่อสารผ่านบรรยากาศ อาหาร และองค์ประกอบด้านการตกแต่งที่น่าสนใจ 

ทางเข้าตกแต่งด้วยกำแพงดินสูงใหญ่ นำสายตาเข้ามาสู่ป่าภายใน เปรียบเหมือนการเดินตามนายพรานเข้าไปยังป่าปริศนาที่ซ่อนอยู่ลึกเข้าไป ภายในตกแต่งด้วยบรรยากาศของป่า เลือกใช้เสาไม้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของป่า มาผสมกับโครงสร้างเหล็กสีทึบตัวแทนของเมือง ล้อมรอบด้วยช่องเปิดกระจกบานใหญ่ที่สามารถมองทะลุเข้าไปเห็นระบบนิเวศป่าจำลองด้านนอกได้ โดยออกแบบพื้นที่ให้มีแสงสว่างเพียงเล็กน้อย เพื่อช่วยปรับระดับสายตาก่อนที่จะเดินทางเข้าไปพบกับ ‘วังหิ่งห้อย’ ไฮไลท์เด่น ซึ่งเป็นห้องกระจกขนาดใหญ่จำลองระบบนิเวศได้อย่างสมบูรณ์แบบเหมือนจริง ทั้งชนิดพรรณพืช และอุณหภูมิ เพื่อให้หิ่งห้อยนับร้อยตัวอาศัยอยู่ได้ พร้อมเปล่งแสงระยิบระยับรอต้อนรับแขกผู้มาเยือน

ที่นี่เน้นเมนูอาหารแบบ Fine Dining อาหารฟิวชั่นแบบโมเดิร์นไทย คัดสรรวัตถุดิบพืชผักและเนื้อสัตว์ออร์แกนิก มาสร้างสรรค์เป็นเมนูที่มีหน้าตาต่างจากอาหารไทยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น Amuse Bouche ไม่ว่าจะลาบเหนือ หรือเมี่ยงคำรสเด็ดแบบไทย ๆ ที่จะหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปในแต่ละวัน Pork Spare Ribs Stay ซี่โครงหมูสะเต๊ะลักษณะเหมือนขอนไม้ เปรียบเสมือนที่อยู่ของเหล่าหิ่งห้อย ราดน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ และประดับจานด้วยเครื่องจิ้มต่าง ๆ ไม่เพียงเมนูที่ยกมานี้ แต่ยังมีอาหารอร่อย ๆ รอให้ไปลิ้มลองอีกเพียง ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติที่หาได้ยากในเมืองกรุง

ที่ตั้ง

ด้านหน้าสนามกอล์ฟ RCA Driving Range ถนนกำแพงเพชร 7

โทร. 09-1979-6226

เปิด 18.30 น. –24.00 น.

www.wanghinghoi.com

2.Molecure Pharmacy

ฉีกกฎร้านขายยารูปแบบเดิม ๆ ให้เปลี่ยนไปทั้งบรรยากาศและงานดีไซน์ กับร้านขายยาที่ไม่ธรรมดาในเมืองไถจง ประเทศไต้หวัน

ร้านขายยาเดิมภายในคูหาของตึกแถวสองชั้นขนาด 120 ตารางเมตร ได้รับการเปลี่ยนภาพลักษณ์เสียใหม่ให้มีความน่าสนใจ ดึงดูดลูกค้าให้อยากเข้ามาเยี่ยมเยือน โดยมีคุณ Nic Lee ดีไซน์ไดเร็กเตอร์ของ Waterfrom Design รับหน้าที่เป็นผู้ออกแบบ มีคอนเซ็ปต์ไอเดียมาจากคำว่า “MOLECURE” ซึ่งเกิดจากการผสมกันระหว่างคำว่า MOLECULE และ CURE สะท้อนเรื่องราวของวิทยาศาสตร์ และความเชี่ยวชาญในการรักษา เน้นความสำคัญด้วยการสร้างพื้นที่ให้มีการปฏิสัมพันธ์กันระหว่างลูกค้ากับเภสัชกรที่ชัดเจนขึ้น  รวมถึงการใช้วัสดุและองค์ประกอบในการออกแบบเพื่อสร้างเอกลักษณ์ให้ร้านดูน่าสนใจ ปนกลิ่นอายวิถีชีวิตชาวตะวันออก เพื่อให้ลูกค้าไม่รู้สึกติดภาพความป่วยไข้ในร้านขายยา แต่เป็นสถานที่ที่พวกเขาเข้ามาได้เสมอ เมื่อต้องการข้อมูลหรือคำปรึกษาเรื่องสุขภาพ

ด้วยสเปซที่แคบยาวและมีเพดานที่สูงมาก สถาปนิกจึงเลือกใช้บันไดวนขึ้นชั้น 2 ให้วางอยู่ในตำแหน่งปลายสุดของห้องเพื่อช่วยนำสายตา และเป็นการเล่นกับที่ว่างตามแนวตั้งที่ชวนให้นึกถึงการบิดเป็นเกลียวของโครงสร้าง DNA เพื่อสร้างประสบการณ์และมุมมองแปลกใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นอกจากนี้ยังเปลี่ยนเคาน์เตอร์จ่ายยาเล็ก ๆ มาเป็นพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ ช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างเภสัชกรกับลูกค้าให้สามารถสอบถามและแนะนำการใช้ยาแบบไม่เคอะเขิน ในบรรยากาศสบาย ๆ อบอุ่นเป็นกันเอง พร้อมเสียงเพลงเบา ๆ ชวนผ่อนคลายและเครื่องดื่มที่ยกมาเสริ์ฟ ทั้งกาแฟและน้ำผลไม้ เพื่อให้คำว่า “สุขภาพ” นั้นมีชีวิตชีวา และมีความเป็น “ไลฟ์สไตล์” มากขึ้น

3.CUB House

แฟล็กชิบสโตร์เอาใจคนรักมอเตอร์ไซค์ในย่านเอกมัย ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่าง A.P.HONDA และ Greyhound แบรนด์ไลฟ์สไตล์แถวหน้าของเมืองไทย สู่การสร้างสรรค์พื้นที่รูปแบบใหม่เพื่อเสิร์ฟความหลากหลายของไลฟ์เฉพาะตัว ภายใต้คอนเซ็ปต์ Culture.Unique.Bike เพราะที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่โชว์รูมมอเตอร์ไซค์ธรรมดา ๆ แต่ยังควบรวมเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น อาหาร และเครื่องดื่ม ซึ่งเกิดจากการร่วมมือกับ Greyhound ทั้งคอลเล็คชั่นเสื้อผ้าสุดเท่ที่มาในคอนเซ็ปต์ “Basic with Creative Twists” รวมทั้ง “Greyhound Coffee” รวบรวมเมนูสุดพิเศษที่คิดค้นขึ้นใหม่เพื่อให้บริการที่นี่โดยเฉพาะ

นอกจากนี้ HONDA ยังได้ชุบชีวิตตำนานมอเตอร์ไซค์ที่เคยเป็นที่นิยมในอดีตถึง 2 รุ่น ให้กลับมาโลดแล่น พร้อมดีไซน์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาให้เข้ากับการใช้งานและเทรนด์ในยุคปัจจุบัน นั่นคือมอเตอร์ไซค์รุ่น SUPER CUP และ MONKEY ที่โด่งดังและได้รับความนิยมในอเมริกายุค 50’s – 60’s ทั้งยังมีโซนพิเศษที่รวบรวมอุปกรณ์ตกแต่งรถไว้ให้ได้เลือกซื้อกันด้วย

บรรยากาศภายในร้านเป็นแบบ American Warehouse ทุบชั้นลอยตึกแถวเดิมออก จนเกิดพื้นที่โล่งแบบโอเพ่นสเปซที่เชื่อมทุกส่วนเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งโซนร้านกาแฟ และส่วนโชว์รูมได้อย่างแนบเนียน มีที่นั่งจิบกาแฟอยู่กลางสเปซ ช่วยสร้างความรู้สึกเป็นกันเอง เน้นตกแต่งด้วยสัจวัสดุทั้งเหล็ก ไม้ หนัง รวมไปถึงเสาเปลือยที่คงโครงสร้างเดิมไว้ ด้วยลักษณะฟังก์ชันที่หลากหลาย นอกจากจะแบ่งโซนด้วยการเปลี่ยนวัสดุปูพื้นและใช้เฟอร์นิเจอร์ที่แตกต่างกันแล้ว รูปแบบโคมไฟบนฝ้าเพดานที่ต่างกันในแต่ละโซน ยังช่วยแบ่งขอบเขตให้สเปซ และสร้างบรรยากาศดิบเท่สไตล์โกดัง ตอบโจทย์ทั้งสาย Café Hopping ด้วยอาหารและเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมไปถึงแฟชั่นและอุปกรณ์ตกแต่งมอเตอร์ไซค์เอาใจชาวไบค์เกอร์ ให้สามารถมาเอ็นจอยกับไลฟ์สไตล์ในแบบของตัวเองได้อย่างเต็มที่

ที่ตั้ง

85 ซอย เอกมัย 3 แขวง คลองตันเหนือ เขต วัฒนา กรุงเทพฯ

เปิด 8.00 น. – 20.00 น.

โทร. 0-2116-4446

4.One Nimman

บนสี่แยกรินคำ จังหวัดเชียงใหม่ เพิ่งปรากฏย่านจับจ่ายที่เรียกกระแสฮือฮาจากสังคมได้ไม่น้อย  กับ One Nimman โครงการ Mixed-Use นิยามย่านจับจ่ายแห่งใหม่บนถนนนิมมานเหมินท์ เด่นด้วยการออกแบบอาคารให้มีลักษณธเหมือน Market Hall ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส ที่สร้างขึ้นในสมัยคริสต์ศตวรรษที่13 มีถนนคนเดินที่มีหลังคากระจก (Galleria) เพื่อบังอาคารจอดรถขนาดใหญ่ซึ่งมีอยู่เดิม โดยทางเดินนี้จะเชื่อมระหว่างจัตุรัส 2 แห่ง ที่ได้รับการออกแบบไว้เข้าด้วยกัน โดยมีหอนาฬิกาเป็นจุดศูนย์กลางสำคัญ

นอกจากนี้ยังมีต้นแบบมาจากสถาปัตยกรรมในภูมิภาคต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเนปาล และจีน รวมถึงช่องทางเดินที่มีเสาเรียงรายที่เรียกว่า “Colonnade” ซึ่งมีต้นแบบมาจากถนน Rivoli ในกรุงปารีส โดยทั้งหมดสามารถผสมผสานกันได้อย่างกลมกลืนลงตัว ดูแล้วให้ความรู้สึกว่าโครงการตั้งอยู่ ณ สถานที่นี้มาเนิ่นนาน ไม่โดดเด่นออกจากชุมชนที่อยู่รอบ ๆ จนเกินไป

บริเวณชั้น 1 ขนาบสองข้างทางด้วยเหล่าร้านค้า และคาเฟ่ที่ผสมผสานแบรนด์ของคนเชียงใหม่ กับแบรนด์ที่เน้นศิลปะและงานดีไซน์เกาะกลุ่มอยู่รอบ ๆ คลาคล่ำไปด้วยผู้คนจำนวนไม่น้อยทั้งกลางวันและกลางคืน ในขณะที่ชั้น 2 ออกแบบให้เป็นพื้นที่ช็อปปิ้งแบบ “Vat Refund” จัดร้านค้าโดยแบ่งเป็นโซนต่าง ๆ เช่น ร้านขายเครื่องสำอางและประทินผิว กระเป๋าเครื่องประดับ เสื้อผ้า ของที่ระลึก ปิดท้ายด้วยอาหาร ขนม และของฝาก โดยกำหนดทางเดินเป็นแบบ “One Way” จะลงกลางทางหรือถอยออกไปยังทางเดิมไม่ได้ ตอบสนองกลุ่มนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งแรนมาร์กเกิดใหม่ ที่ใครมาเยือนเชียงใหม่แล้วต้องหาโอกาสมาเช็กอิน จะมาช็อปหรือมารับประทานอาหารจิบเครื่องดื่มอร่อย ๆ ที่นี่ก็พร้อมรวบรวมมาไว้ในหนึ่งเดียวแล้ว

ที่ตั้ง

ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 1  ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองฯ จังหวัดเชียงใหม่

เปิดทุกวัน 11.00 น. -23.00 น.

โทร. 0-5208-0900

นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่หยิบยกมาเท่านั้น ใครสนใจสามารถตามหาอ่านเพิ่มเติมได้ที่ room books ฉบับก.ค. – ส.ค. 2561 Commercial + Design Issue ได้แล้วทุกแผงหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ หรือติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่ www.faceboo.com/roomfan และ IG @ room_magazine

 

 

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ

อัลบั้มภาพ 15 ภาพ ของ ช็อป ชิล กิน ดื่ม ในคอมเมอร์เชียลสเปซดีไซน์โดน แบบไม่เหมือนใคร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook