[พรีวิว] Microsoft Surface Pro 4 อีกก้าวของ Tablet ที่ทัดเทียบ Notebook
Microsoft ถ้าพูดถึง Brand นี้นอกจากสินค้ากลุ่ม Software แล้วอีกสิ่งที่ทำให้คนคิดถึงและคุ้นเคยมากที่สุดคือ Microsoft Surface Tablet ที่มีความฉลาดและปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ แทบจะเป็นต้นแบบของ Tablet ทุกวันนี้ การเปลี่ยนแปลงครั้งล่าสุดอาจจะทำให้คนทั่วไปดูแล้วไม่ต่างจาก Surface Pro 3 ที่ออกมาก่อนหน้านี้สักเท่าไหร่ เพราะ Surface Pro 4 นั้นไม่ได้เปลี่ยนรูปร่าง แต่เปลี่ยนข้างในมากกว่า
รูปร่าง พื้นฐานยังคงเป็น Tablet ที่มีหน้าจอแบบ 3:2 ซึ่งมีความละเอียดหน้าจอ 5 ล้านพิกเซล พร้อมกับขนาดของหน้าจอใหญ่กว่า Surface Pro 3 เล็กน้อยคือ 12.3 นิ้ว พร้อมกับเทคโนโลยีที่ลดการเมื้อยล้าของสายตาอย่าง Pixel Sense ทำให้ภาพสีสดและสวยงามเมื่อได้สัมผัส รองรับมัลติทัช 10 จุด
ด้านบนมีกล้องขนาด 5 ล้านพิกเซลพร้อมกับเซนเซอร์ที่ทำงานร่วมกับ Windows Hello
ด้านข้างขวามีช่องเสียบ USB 3.0, Mini HDMI, ช้องใส่ SD Card และ Micro SD (อยู่ใต้ฝาพับ)
ด้านข้างซ้ายมีช่องเสียบหูฟังเพราะจุดเก็บปากกาแค่วางปากกาก็ล็อคแล้ว
ด้านหลังมีกล้องขนาด 8 ล้านพิกเซล พร้อมกับ Stand ยังสามารปรับได้หลายระดับเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือ Logo ที่เรียบและตรงเป็นสีเงินดูดีไม่น้อย
เมื่อวางเครื่องเทียบกับ Surface Pro 3 ยังคงมีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยคือหน้าจอใหญ่ขึ้น และข่าวดีคือ Keyboard ที่เห็นคุณสามารถสลับกับ Surface Pro 3 และ Surface Pro 4 ได้ จุดนี้ก็เปลี่ยนแปลงคือ Keyboard ที่เปลี่ยนรูปแบบเป็นแบบชิคเคร็ต ทำให้สะดวกในการพิมพ์มากยิ่งขึ้นอีกด้วย พร้อมกับ TouchPad ที่ใหญ่ขึ้นและรองรับมัลติทัช 10 จุด
ประสิทธิภาพของ Surface Pro 4 เบื้อนในสเปคเริ่มต้นใช้ CPU Intel Core M ไปจนถึง Core i7 ซึ่งใช้รหัส Skylake พร้อมกับ RAM ที่มีให้สูงสุด 16GB ความจำในตัวสูงสุด 512GB เมื่อเทียบกับ Surface Pro 3 มันจะมีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมถึง 30% และ Core M สามารถทำงานเทียบเท่า Core i5 ใน Gen ก่อนรองรับ WiFi802.11 MIMO b/g/n/ac พร้อมกับ Bluetooth V4.0 อีกด้วย
แถมยังมีจุดเด่นในเรื่องการประหยัดไฟเพราะสามารถใช้งานดูวีดีโอได้นานถึง 9 ชั่วโมงเลยทีเดียว (แต่ทดสอบจริงจะได้เท่าไหร่ รอดูในรีวิวนะครับ)
คุณสมบัติเด่นที่หลายคนดูว่าจะมีอะไรใน Surface Pro 4นอกจาก Windows 10 พร้อมกับโปรแกรมต่าง ๆ พร้อมไม่ว่าจะเป็น Microsoft One Note พร้อมให้จด Microsoft Office 365 (ซื้อแยก) และยังมีทีเด็ดอยู่ที่ปากกา Surface Pen สามารถเปลี่ยนหัวได้ แต่ในประเทศไทยที่มากับเครื่องจะไม่ได้มาพร้อมหัวปากกา ซึ่งต้องซื้อเพิ่มโดยปากกานั้นจะนำเข้ามาแค่ 2 สีคือ สีขาวและสีดำ
ซึ่งความแม่นยำของปากกานั้นรองรับการกดได้ถึง 1024 ระดับ ถือว่าแม่นยำใช้ได้จนคนทำงานออกแบบน่าจะชอบเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังทำงานกับ Windows Hello ระบบปลดล็อคด้วยใบหน้าที่ฉลาดโดยกล้องจะเก็บภาพและบอกความลึกของใบหน้าขนาดแฝดของเรายังไม่สามารถปลดล็อคได้อีกด้วย
จากที่สัมผัสสั้น ๆ พบว่า Surface Pro 4 เป็นอีก Tablet ที่ตอบสนองการทำงานได้ไม่แพ้ Notebook ในสมัยนี้และมีความโดดเด่นที่น้ำหนักเบา โดยเฉพาะรุ่น Core M อีกด้วย ส่วนราคานั้น Surface Pro 4 มีจำหน่ายทั้งหมด 6 รุ่นได้แก่
- 128 GB 6th Generation Intel® CoreTM M3 พร้อมหน่วยความจำ 4 GB ราคา 33,900 บาท
- 128 GB 6th Generation Intel® CoreTM i5 พร้อมหน่วยความจำ 4 GB ราคา 39,900 บาท
- 256 GB 6th Generation Intel® CoreTM i5 พร้อมหน่วยความจำ 8 GB ราคา 49,900 บาท
- 256 GB 6th Generation Intel® CoreTM i7 พร้อมหน่วยความจำ 8 GB ราคา 59,900 บาท
- 256 GB 6th Generation Intel® CoreTM i7 พร้อมหน่วยความจำ 16 GB ราคา 67,900 บาท
- 512 GB 6th Generation Intel® CoreTM i7 พร้อมหน่วยความจำ 16 GB ราคา 82,900 บาท
ถือว่าราคาอาจจะไม่สูงสำหรับรุ่นเริ่มต้น แต่ก็เป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้อุปกรณ์เสริมไม่ว่าจะเป็น Surface Pro Type Cover มีวางจำหน่าย 2 สี คือ สีดำและสีน้ำเงินเข้ม ในราคา 5,190 บาท ส่วนปากกา Surface Pen มีวางจำหน่าย 2 สี คือ สีดำและสีฟ้า ในราคา 2,390 บาท พร้อมวางจำหน่ายเช่นเดียวกับ
สามารถซื้อได้ที่ ITCity, Banana IT และ Powerbuy ส่วนลูกค้าองค์กรสามารถติดต่อตัวแทนจำหน่ายตามภาพข้างบนนี้ ครับ
Update สำหรับ Surfacebook ตอนนี้ยังขายเฉพาะ 3 ประเทศที่ประกาศไว้ล่วงหน้า ส่วนประเทศอื่นรอสักหน่อยนะครับ
อัลบั้มภาพ 14 ภาพ