วิ่งเสริมกำลัง...เพิ่มพลังสุขภาพ

วิ่งเสริมกำลัง...เพิ่มพลังสุขภาพ

วิ่งเสริมกำลัง...เพิ่มพลังสุขภาพ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อ.วาลุกา พลายงาม
วิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก ม.รังสิต

          หนุ่มสาวออฟฟิศทั้งหลาย...รู้สึกไหมว่ายิ่งอายุมากขึ้น โดยเฉพาะในวันที่เลข 3 เลข 4 มาเยื่อน เราจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ที่เรี่ยวแรง ความกระฉับกระเฉงที่เคยมีมันเริ่มหดหายไป ริวรอยแห่งกาลเวลาเริ่มปรากฎ เพราะร่างกายได้เสื่อมไปตามกาลเวลา สังเกตจากแค่เดินขึ้นลงบันไดก็เหนื่อยง่าย หายใจแรงเหมือนวิ่งมาราธอน จะทำอะไรก็รู้สึกเมื่อยไปหมด ป่วยง่าย ทำงานไม่ไหว พาลทำให้รู้สึกขี้เกียจทำงาน ประสิทธิภาพการทำงานก็ลดลง

          เพราะฉะนั้นถึงเวลาที่ต้องเริ่มดูแลสุขภาพตัวเองได้แล้ว เริ่มจากการออกกำลังกาย แต่พนักงานเงินเดือนประหยัดอย่างเรา จะเข้าฟิตเนสก็สู้ไม่ไหว ขอออกกำลังกายง่ายๆ ได้เหงื่อแบบไม่ต้องเสียตังค์กันดีกว่า ก็ด้วยการ “วิ่ง” นี่แหละ การวิ่งเพื่อสุขภาพ จะไม่หนักเหมือนการวิ่งเพื่อการแข่งขัน สำหรับคนที่เริ่มวิ่งใหม่ๆ สิ่งที่ควรมีก็คือรองเท้าผ้าใบสำหรับวิ่งที่พอดีกับขนาดเท้า มีพื้นรองเท้าหนาและนุ่มเพื่อป้องกันการกระแทกของเท้า และสวมเสื้อผ้าที่ใส่สบายไม่รัดหรือหลวมเกินไป เมื่อพร้อมแล้วก็ออกวิ่งได้เลย

          ช่วงเวลาในการวิ่งที่ดีที่สุดคือตอนเช้า เพื่อรับแสงแดดอ่อนๆ กับอากาศสดชื่น ประมาณ ตี 5 ถึง 6 โมงเช้า และควรเลือกสถานที่ที่ไม่มีรถวิ่งผ่านซึ่งจะทำให้เราได้รับคาร์บอนไดออกไซด์แทนออกซิเจนที่ควรได้ การวิ่งตอนเช้าในที่อากาศปลอดโปร่งจะช่วยให้สมองและร่างกาย ได้รับการกระตุ้นการทำงาน แต่ถ้าตื่นไม่ไหวก็มาวิ่งตอนเย็นหลังเลิกงานก็ได้ โดยก่อนและหลังการวิ่งทุกครั้ง ควรอบอุ่นร่างกายและผ่อนคลายร่างกายประมาณ 4-5 นาที โดยการเดิน หรือวิ่งเหยาะๆ ด้วยความเร็วที่น้อยกว่าที่ใช้ในการวิ่งจริง พร้อมกับทำกายบริหารยืดเหยียดกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ของร่างกายด้วย การวิ่งครั้งแรกต้องไม่หักโหม เริ่มจากการวิ่งสลับเดินในระยะสั้นก่อน แล้วค่อยเพิ่มเวลาสำหรับการวิ่งในครั้งต่อๆ ไป หลังจากวิ่งครั้งแรกอาจมีการปวดเมื่อยร่างกายบ้าง แต่ขอให้ทำต่อไป เมื่อร่างกายปรับสภาพได้แล้วอาการปวดเมื่อยจะหายไปเอง

          การวิ่งให้ประโยชน์กับร่างกายมากมาย ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือด ปอด และหัวใจทำงานดีขึ้น ลดระดับไขมันในเลือด เพื่อป้องกันโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และช่วยให้ไม่เป็นลมหน้ามืดง่าย ทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น ลดภาวะกระดูกพรุน ช่วยปรับภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ทำงานดีขึ้น กระตุ้นให้สมองเกิดการหลั่งสารเอ็นโดรฟิน ซึ่งเป็นสารเคมีธรรมชาติที่มีฤทธิ์บรรเทาอาการปวด และทำให้รู้สึกสุขสบาย ที่สำคัญช่วยควบคุมน้ำหนักของร่างกายได้ด้วย

          นอกจากการออกกำลังกายแล้ว เรื่องอาหารและน้ำก็สำคัญ ควรรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกาย ร่วมด้วยอาหารฟังก์ชั่น อย่างซุปไก่สกัด มาช่วยเสริมประสิทธิภาพของร่างกาย เพราะมีรายงานวิจัยพบว่า ซุปไก่สกัดมีกลุ่มวิตามินบีที่จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการเผาผลาญอาหารให้เป็นพลังงาน ช่วยให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า จึงช่วยให้ร่างกายพร้อม และเมื่อดื่มซุปไก่สกัดหลังออกกำลังกายจะช่วยเร่งการกำจัดของเสียจำพวกแอมโมเนียและแลคเตท ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการเหนื่อยล้าของกล้ามเนื้อและร่างกายได้เร็วขึ้น จากการวิจัยพบว่าสามารถลดได้ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีงานวิจัยที่พบว่าการดื่มซุปไก่สกัดช่วยให้เม็ดเลือดแดงขนส่งออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง ส่งผลให้มีสมาธิเรียนรู้และจดจำดีขึ้นอีกด้วย อีกสิ่งสำคัญคือการได้รับน้ำเข้าไปทดแทนหลังจากเสียเหงื่อป้องกันการขาดน้ำและยังช่วยลดอุณภูมิของร่างกายและการขับของเสียออกทางปัสสาวะและเหงื่อ

          การออกกำลังกายก็เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับสุขภาพไม่ต่างจากการกินและการนอนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต เช่นกัน เพราะฉะนั้นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับรับประทานอาหารที่ดี จะทำให้เรามีสุขภาพดี เมื่อร่างกายแข็งแรง สมองปลอดโปร่ง สดใส ประสิทธิภาพในการทำงานก็ดีขึ้นตามมาด้วย


- Benton D. and Young H A. (2015) The Effect of chicken essence on cognition and mood: A randomized controlled trial.Current Topics in Nutraceuticals Research. 13(2),61-70.
- Geissler C, Boroumand-Naini M, Tomassen C. (1989) Large acute thermic response to chicken essence in humans. Nutr Rep Int.; 39(3):547-56.
- Konagai C., et. al. (2013) Effect of Essence of Chicken on Cognitive Brain Function: A Near-Infrared Spectroscopy Study; Biosci. Biotechnol. Biochem. 77(1), 120706-1-4.
- Lo H.L. et al. (2005) Effects of postexercise supplementation of chicken Essence on the elimination of Exercise - Induced Plasma Lactate and Ammonia. Chin. J. of Physiol. 48(4), 187-92.



[Advertorial]

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook