Ice bathing หรือการแช่ตัวในน้ำเย็นจัด เป็นรูปแบบหนึ่งของการบำบัดด้วยความเย็น (Cold Therapy) เป็นการนั่งในน้ำเย็นๆ ให้น้ำเย็นอยู่ระดับหน้าอก ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที
โดยปกติแล้วการใช้ความเย็นเพื่อรักษาร่างกายภายนอก มักทำเพื่อบรรเทาการอักเสบของกล้ามเนื้อจากการใช้งานหนัก นอกจากนี้ยังอาจมีประโยชน์ในเรื่องของการผ่อนคลาย สบายตัว ลดความเหนื่อยล้า ฟื้นฟูร่างกายจากการใช้งานหนัก ลดความร้อนออกจากร่างกาย และลดความตึงเครียดได้ ดังนั้นผู้ที่เข้ารับการรักษาด้วยวิธี Ice bathing จึงมักเป็นเหล่านักกีฬา หรือผู้ที่ต้องใช้ร่างกายอย่างหนักเพื่อการทำงานหรือการฝึกต่างๆ เช่น นักแสดงแอคชั่น สตั๊นท์แมน ฯลฯ
การทำ Ice bathing จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิด และไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำ Ice bathing ได้ ต้องมีการตรวจร่างกาย และหาจุดที่เหมาะสมว่าสามารถทำ Ice bathing ได้โดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย และได้รับประโยชน์จากการทำมากที่สุด
นอกจากนี้ยังมีข้อควรระวังในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวอย่าง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หัวใจ หลอดเลือดสมอง และนอกจากนี้ Ice bathing ยังเป็นศาสตร์ในการรักษาที่ยังไม่มีข้อมูลหรือผลงานวิจัยยืนยันผลได้ 100%
นพ.สกานต์ บุนนาค ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการ Ice Bathing ที่อ้างว่าสามารถรักษาโรคมะเร็งระยะสุดท้ายให้ดีขึ้นได้ ว่ายังไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ยืนยัน แม้ว่าจะมีวิธีการรักษาโรคมะเร็งด้วยวิธีใช้ความเย็น แต่เครื่องมือดังกล่าวต้องมีการควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมคือต้องติดลบหลายองศา และ ใช้ความเย็นจัดเฉพาะที่ตัวก้อนมะเร็งด้วยเครื่องมือพิเศษโดยแพทย์ที่ชำนาญเฉพาะทาง
ส่วนการลงแช่ในน้ำแข็งทั้งตัวนั้นยังไม่มีการพิสูจน์ทางการแพทย์ว่าสามารถรักษาหรือชะลอโรคมะเร็งได้ ที่สำคัญอาจก่ออันตรายต่อสุขภาพ เพราะผู้ป่วยมะเร็งส่วนใหญ่มักจะอายุมากและร่างกายไม่แข็งแรงเป็นทุนเดิม ยิ่งถ้ามีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจหรือโรคปอดร่วมด้วย ก็ยิ่งอันตรายเพิ่มขึ้น เพราะการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิร่างกายที่รวดเร็ว จากอุณหภูมิปกติไปสู่อุณหภูมิที่เย็นจัด อาจจะไปกระตุ้นให้โรคหัวใจหรือปอดกำเริบรุนแรง ที่อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
นอกจากนี้ยังไม่มีการรายงานหรือผลงานวิจัยที่เชื่อถือได้ออกมายืนยันถึงประโยชน์ของ Ice bathing ที่มีต่อการรักษาโรคโควิด-19 เช่นกัน