เมก้า วีแคร์ ชวนครอบครัวมาร่วมสร้างสุขภาพดี “กินเป็น-อยู่เป็น-ไม่ป่วย”

เมก้า วีแคร์ ชวนครอบครัวมาร่วมสร้างสุขภาพดี “กินเป็น-อยู่เป็น-ไม่ป่วย”

เมก้า วีแคร์ ชวนครอบครัวมาร่วมสร้างสุขภาพดี “กินเป็น-อยู่เป็น-ไม่ป่วย”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมก้า วีแคร์ ชวนครอบครัวมาร่วมสร้างสุขภาพดี “กินเป็น-อยู่เป็น-ไม่ป่วย”
ในกิจกรรม “เมก้า วีแคร์ แฮปปี้ แอนด์ เฮลท์ตี้ แฟมิลี่ ทริป ครั้งที่ 3
เชิญผู้เชี่ยวชาญร่วมให้ความรู้ เน้นปรับพฤติกรรมและให้ความสำคัญกับการเลือกบริโภคอาหาร



เมื่อเร็วๆ นี้ เมก้า วีแคร์ นำโดย เภสัชกรหญิงดวงนภา ตงศิริ (แถวหน้า ที่ 7 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ และเภสัชกรหญิงวิชชุลดา ผรณเกียรติ์ (แถวหน้า ที่ 6 จากขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ พีทีวาย จำกัด เดินหน้าจัดกิจกรรม “เมก้า วีแคร์ แฮปปี้ แอนด์ เฮลท์ตี้ แฟมิลี่ ทริป ครั้งที่ 3 ซี แซนด์ แอนด์ ซัน” (MEGA We care Happy & Healthy Family Trip: Episode 3 Sea, Sand and Sun) ชวนเหล่าครอบครัวรักสุขภาพร่วมสนุกในกิจกรรมแข่งขันแรลลี่เพื่อสร้างสุขภาพดีทั้งครอบครัว พร้อมเชิญแพทย์ผู้เชี่ยชาญร่วมให้ความรู้ในหัวข้อ “กินเป็น-อยู่เป็น-ไม่ป่วย” ณ เชอราตัน รีสอร์ท แอนด์ สปา หัวหิน


เภสัชกรหญิงดวงนภา ตงศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ พีทีวาย จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะที่เมก้า วีแคร์ เป็นบริษัทผู้ผลิตสินค้าในกลุ่มเวชภัณฑ์และผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพ เราจึงมุ่งมั่นสนับสนุนให้คนไทยใส่ใจต่อการดูแลสุขภาพทั้งของตนเองและคนในครอบครัว เพราะเราเชื่อว่าคุณภาพชีวิตที่ดีมาจากครอบครัวที่มีสุขภาพแข็งแรงทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เราจึงได้ริเริ่มจัดกิจกรรม ‘เมก้า วีแคร์ แฮปปี้ แอนด์ เฮลท์ตี้ แฟมิลี่ ทริป’ ขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนชาวไทยหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ผ่านกิจกรรมที่สนุกสนานและแฝงความรู้ ซึ่งกิจกรรมของเราจะช่วยให้แต่ละครอบครัวเข้าใจถึงวิธีการดูแลสุขภาพ และสามารถที่นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยกิจกรรมเมก้า วีแคร์ แฮปปี้ แอนด์ เฮลท์ตี้ แฟมิลี่ ทริป จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 แล้ว หลังจากเราประสบความสำเร็จในสองครั้งแรก เราได้รับการตอบรับที่ดีและผู้เข้าร่วมก็รู้สึกพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมของเรา ที่สำคัญผู้เข้าร่วมรู้สึกว่าสามารถนำข้อคิดดีๆ และเคล็ดลับสุขภาพกลับไปใช้ได้ ที่สำคัญกิจกรรมแรลลี่เป็นกิจกรรมที่สมาชิกในครอบครัวทุกคนและทุกวัยสามารถทำร่วมกันได้พร้อมหน้าพร้อมตา จึงช่วยกระชับความสัมพันธ์ภายในครอบครัวได้อย่างแท้จริง โดยในปีนี้ กิจกรรมของเราจะเน้นเรื่องการให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะร่างกายของเรานั้นต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน และสารอาหารนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของสุขภาพที่แข็งแรงนั่นเอง ควบคู่กับการปรับพฤติกรรมที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการพักผ่อน การออกกำลังกาย หรือทัศนคติที่ส่งผลต่อสุขภาพกายและใจ เพื่อช่วยสร้างภูมิต้านทานให้ครอบครัวแข็งแรงทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างยั่งยืน”


เมก้า วีแคร์ แฮปปี้ แอนด์ เฮลท์ตี้ แฟมิลี่ ทริป ครั้งที่ 3 ซี แซนด์ แอนด์ ซัน เริ่มจากกิจกรรมแข่งขันแรลลี่สร้างสุขภาพดี โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมแต่ละครอบครัวจะต้องเข้าร่วมกิจกรรมตามฐานต่างๆ อาทิ กิจกรรม MEGA Ball ส่งเสริมการออกกำลังกาย, MEGA Heathy Hunt ส่งเสริมความรู้ด้านสุขภาพ, MEGA Gouphie ส่งเสริมเรื่องความจำและความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยมีเซเลบริตี้อย่างอาเล็ก-ธีรเดช, สน-ยุกต์, ปุยฝ้าย – ณัฏฐพัชร และโบ-ธนากร มาร่วมสร้างสีสันและความสนุกสนาน นอกจากนั้น ยังมีกิจกรรมตรวจเช็คสุขภาพโดยผู้เชี่ยวชาญที่มาคอยให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธี พร้อมเวิร์คช็อปทำอาหารเมนูสุขภาพเพื่อสุขภาพที่ดีทั้งครอบครัว


โดยทางเมก้า วีแคร์ยังได้เชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ นายแพทย์บุญชัย อิศราพิสิษฐ์ มาร่วมให้ความรู้ในหัวข้อ ‘กินเป็น-อยู่เป็น-ไม่ป่วย’ ว่า “การดูแลสุขภาพของตนเองและคนในครอบครัวเป็นเรื่องที่สำคัญ ปัจจุบัน มีการพบว่าเราสามารถสุขภาพดีโดยไม่พึ่งยาได้ เพียงแค่รู้จักการกินที่ดี การดูแลตนเองด้วยวิธีแบบธรรมชาติ และใช้อาหารเสริมตามความจำเป็นในเวลาที่เร่งรีบหรือไม่สามารถรับประทานอาหารสดตามที่ร่างกายต้องการได้ โดยเคล็ดลับง่ายๆ ของการ ‘กินเป็น-อยู่เป็น-ไม่ป่วย’ คือตัดขาดจาก 5 สิ่งต้องห้าม ได้แก่

1) การจินตนาการเชิงลบ – ปัจจุบัน คนเมืองและคนวัยทำงานต้องเผชิญกับความเครียดสะสมอย่างมากทั้งจากงานและชีวิตประจำวันจนทำให้เกิดจินตนาการเชิงลบ ซึ่งความคิดเหล่านี้เป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคต่างๆ ขึ้นมาได้ นั่นก็เป็นเพราะว่าจิตใจของเราเชื่อมต่อกับร่างกายโดยตรง ดังนั้น ความคิดหรือจินตนาการเชิงลบจะทำให้เราไม่เป็นสุข เกิดความเครียดทางอารมณ์ สะสมลงสู่จิตใต้สำนึกโดยไม่รู้ตัว ทำให้ร่างกายเกิดเจ็บป่วยตามความคิดไปด้วย

2) ความอ้วน - ไลฟ์สไตล์และอาหารการกินของคนสมัยใหม่เอื้อให้เป็นโรคอ้วนง่ายขึ้น ทั้งจะต้องเข้าสังคมปาร์ตี้สังสรรค์ การหาร้านอาหารใหม่ๆ เพื่ออัพเดทลงโซเชียล มีเดีย หรือแม้แต่การนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวันโดยไม่ได้ขยับร่างกาย ล้วนแต่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคอ้วนได้ทั้งสิ้น หลายคนอาจคิดว่าตนเองไม่ได้อ้วนแต่แค่มีพุงนิดหน่อย แต่อันที่จริงแล้วการอ้วนลงพุงนั้นอันตรายมาก โดยตามเกณฑ์แล้วหากวัดจากรอบเอวผู้ชายไม่ควรเกิน 36 นิ้วหรือประมาณ 90 ซม. สำหรับเอวผู้หญิงไม่ควรเกิน 32 นิ้วหรือ 80 ซม. ซึ่งความอ้วนและอ้วนลงพุงนี้เป็นสาเหตุของโรคมากมาย เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์-อัมพาต โรคตับอักเสบ-ตับแข็ง โรคข้อและกระดูก และแม้กระทั่งมะเร็ง

3) ลดการบริโภคน้ำตาล – คุณสาวๆ ที่ชอบรับประทานขนมหวานลองฟังทั้งนี้ งานวิจัยหลายชิ้นบ่งชี้ว่าคนไทยส่วนใหญ่มีอาการติดรสหวานโดยไม่รู้ตัว เพราะน้ำตาลถือเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่งที่ยิ่งทานยิ่งอร่อย น้ำตาลจึงกลายเป็นส่วนผสมที่มีอยู่ในอาหารคาวและหวานแทบทุกเมนู ทั้งที่ในความเป็นจริงร่างกายคนเราต้องการน้ำตาลเพียงครึ่งช้อนชาต่อวัน และที่สำคัญอาหารหลายๆ ชนิดก็มีน้ำตาลที่ร่างกายต้องใช้อยู่แล้ว ดังนั้น การที่เราบริโภคน้ำตาลมากเกินความต้องการจากการรับประทานอาหารบางประเภทมากเกินไป เช่น ขนมหวาน น้ำหวานหรือน้ำอัดลม หรือแม้กระทั่งข้าวขาว และผลไม้ชนิดหวาน เช่น มะม่วงสุก ทำให้เราเข้าสู่พฤติกรรม “แช่อิ่ม” เพราะทำให้เกิดการสะสมของน้ำตาลในร่างกายมากเกินความจำเป็นและนำมาสู่โรคภัยต่างๆ ได้

4) งดบริโภคไขมันทรานส์ – เพราะไขมันทรานส์เกิดจากการแปรรูปจึงย่อยสลายได้ยากกว่าไขมันชนิดอื่น เช่น ครีมเทียมในกาแฟพร้อมเสิร์ฟ ขนมเค้กหรือเบเกอรี่ ฯลฯ นอกจากนี้คนจำนวนมากยังมีความเชื่อผิดๆ ว่าการใช้น้ำมันไม่อิ่มตัวอย่างน้ำมันพืช น้ำมันถั่วเหลือง มาปรุงอาหารประเภททอดแล้วดีกว่าการใช้น้ำมันอิ่มตัว แต่ในความเป็นจริงแล้วน้ำมันประเภทไขมันไม่อิ่มตัวนั้นสามารถจับกับไฮโดรเจนกลายเป็นไขมันทรานส์และก่อให้เกิดสารพิษตกค้างในร่างกายได้ อย่างไรก็ตาม การเลือกรับประทานอาหารที่ปรุงแบบนึ่ง ต้ม หรือย่างโดยมีสิ่งห่อหุ้มระหว่างอาหารกับที่ย่าง เช่น ใบตอง จึงปลอดภัยต่อร่างกายมากกว่าการรับประทานอาหารแบบทอด

5) หลีกเลี่ยงการรับประทานสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม – สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมถือเป็นสายพันธุ์ที่ใกล้ชิดกับมนุษย์ ดังนั้น การรับประทานสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น หมู เนื้อวัว ฯลฯ นั้นจึงให้โทษต่อร่างกายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสะสมพิษชนิดเดียวกัน และยังมีไขมันและกล้ามเนื้อที่เป็นโทษและย่อยยากด้วย เราจึงควรหาแหล่งโปรตีนอื่นที่มีคุณภาพรับประทานแทน เช่น ปลาทะเลน้ำลึก เห็ดชนิดต่างๆ โดยเฉพาะหากใครที่ต้องการลดน้ำหนัก เมนูเห็ดเป็นเมนูที่ดีที่สุดเพราะไม่มีน้ำตาล ไม่มีไขมัน อุดมด้วยโปรตีนและไฟเบอร์ และธัญพืชต่างๆ เป็นต้น”


“นอกจากการหลีกเลี่ยงพฤติกรรม 5 สิ่งต้องห้ามแล้ว เรายังควรปฏิบัติดังต่อไปนี้ คือ เลือกรับประทานผัก-ผลไม้สดที่ไม่หวาน เพราะผักและผลไม้สดให้คุณค่าของวิตามินอย่างแท้จริง และวิตามินในผักผลไม้ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายหลากหลายด้าน ที่สำคัญเราต้องเลือกรับประทานผักและผลไม้หลากหลายชนิดเพื่อให้ได้รับวิตามินครบถ้วน โดยแนะนำให้รับประทานผักและผลไม้เป็นสัดส่วนครึ่งต่อครึ่งของอาหารในแต่ละมื้อ เลือกทานแป้งไม่ขัดสี เพราะแป้งไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ หรือขนมปังโฮลวีต เป็นแป้งที่มีโครงสร้างซับซ้อนทำให้ชะลอปริมาณน้ำตาลในเลือด และที่สำคัญยิ่งอายุมากขึ้นยิ่งควรทานข้าวในปริมาณที่น้อยลงในแต่ละมื้อ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แนะนำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 นาที พักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับอย่างมีคุณภาพช่วยให้ร่างกายสามารถเป็นไปได้ตามปกติ แนะนำให้นอนหลับสนิทอย่างน้อยวันละ 4 ชม. และคิดบวกการคิดบวกและมีทัศนคติที่ดี ช่วยให้เรามีความสุข ร่างกายเราก็จะสุขไปด้วย เชื่อว่าหากทุกคนสามารถปฏิบัติได้ตามคำแนะนำข้างต้น สุขภาพทุกคนในครอบครัวก็จะดีและไร้โรคภัยไข้เจ็บด้วย” นพ.บุญชัย กล่าวสรุป

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมดีๆ แบบนี้ ได้ทางเฟซบุ๊ค แฟนเพจของเมก้า วีแคร์ ที่ www.facebook.com/MEGAWeCare

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook