"ปีกนกรถยนต์" คืออะไร? ชิ้นส่วนสำคัญของระบบช่วงล่างที่คนใช้รถควรรู้
Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
//s.isanook.com/au/0/ud/19/96811/health-2025-11-01t105004.96.jpg"ปีกนกรถยนต์" คืออะไร? ชิ้นส่วนสำคัญของระบบช่วงล่างที่คนใช้รถควรรู้

"ปีกนกรถยนต์" คืออะไร? ชิ้นส่วนสำคัญของระบบช่วงล่างที่คนใช้รถควรรู้

แชร์เรื่องนี้

ทำความรู้จัก “ปีกนกรถยนต์”  ชิ้นส่วนสำคัญในระบบช่วงล่างที่ส่งผลต่อการขับขี่

สำหรับผู้ใช้รถยนต์หลายคน อาจเคยได้ยินชื่อ ปีกนกรถยนต์ หรือ Control Arm มาบ้าง แต่ชิ้นส่วนนี้มีความสำคัญและมีหน้าที่อย่างไรในระบบกลไกของรถยนต์ ปีกนกถือเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ทำงานร่วมกับโช้กอัพและสปริง เพื่อให้รถสามารถขับเคลื่อนได้อย่างปลอดภัย นุ่มนวล และรักษาเสถียรภาพในการทรงตัวได้เป็นอย่างดี

"ปีกนกรถยนต์" คืออะไร?

ปีกนกรถยนต์ (Control Arm, Wishbones) เป็นชิ้นส่วนหลักในระบบช่วงล่างที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการควบคุมรถและการขับขี่ที่นุ่มนวล โดยทำหน้าที่เปรียบเสมือนแขนที่ยึดล้อไว้กับโครงรถ ช่วยให้ล้อสามารถเคลื่อนที่ขึ้นลงได้อย่างถูกต้องตามการทำงานของโช้กอัพและสปริง

หน้าที่หลักของปีกนกในรถยนต์

  • ควบคุมการขึ้น–ลงของล้อรถ ให้เป็นไปตามแนวทางที่ถูกต้อง
  • ดูดซับแรงกระแทก จากพื้นถนนร่วมกับโช้กอัพและสปริง
  • รักษาสมดุลของล้อ ให้แนบกับพื้นถนนตลอดเวลา เพื่อการทรงตัวและยึดเกาะถนนที่ดี

ประเภทของปีกนกที่พบในรถยนต์

1. ปีกนกชั้นเดียว (Single Wishbone)

ระบบปีกนกชั้นเดียวมักพบในรถยนต์ทั่วไป มีโครงสร้างที่เรียบง่ายและต้นทุนการผลิตไม่สูง ดูแลรักษาได้สะดวก อย่างไรก็ตาม ระบบนี้อาจมีข้อจำกัดด้านความแม่นยำในการควบคุมมุมล้อ เมื่อเทียบกับระบบช่วงล่างที่มีความซับซ้อนมากกว่า

2. ปีกนกสองชั้น (Double Wishbone)

ระบบปีกนกสองชั้นมักถูกใช้ในรถยนต์สมรรถนะสูงหรือรถสปอร์ต เนื่องจากมีการออกแบบที่ซับซ้อนกว่า แต่ให้การควบคุมมุมล้อที่แม่นยำและเสถียรกว่า เหมาะสำหรับการขับขี่ที่ต้องการความมั่นคงและการตอบสนองที่เฉียบคม

สัญญาณเตือนเมื่อปีกนกชำรุด

เมื่อปีกนกหรือชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น บูชปีกนก หรือลูกหมากเริ่มเสื่อมสภาพ จะมีสัญญาณเตือนที่ผู้ขับขี่สามารถสังเกตได้ง่าย เช่น มีเสียงดังผิดปกติ อย่างเสียง "กึก ๆ" หรือเสียง "ออด ๆ" ขณะที่รถขับเคลื่อนผ่านพื้นผิวถนนที่ขรุขระ นอกจากนี้รถอาจมีอาการ สั่นหรือเป๋ เมื่อขับด้วยความเร็วสูง ทำให้การควบคุมรถทำได้ยากลำบาก และอาจสังเกตเห็นว่า ยางสึกไม่เท่ากัน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่มุมล้อผิดเพี้ยนไป

หากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้น ควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กทันที การปล่อยให้ปีกนกชำรุดต่อไปอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการเบรก และเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยในการขับขี่ได้ การดูแลเบื้องต้นคือการ ตรวจสอบบูชปีกนกและลูกหมาก เป็นประจำทุก 50,000 – 100,000 กิโลเมตร และควรเปลี่ยนเฉพาะชิ้นส่วนที่สึกหรอตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ