3 สาเหตุ "รถไฟไหม้" ที่พบได้บ่อยช่วงหน้าร้อน

3 สาเหตุ "รถไฟไหม้" ที่พบได้บ่อยช่วงหน้าร้อน

3 สาเหตุ "รถไฟไหม้" ที่พบได้บ่อยช่วงหน้าร้อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ช่วงระยะหลังมานี้มีข่าวรถยนต์เกิดเพลิงลุกไหม้อยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูร้อนที่มีอากาศร้อนจัดเช่นนี้ โอกาสไฟไหม้รถก็เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย สาเหตุที่ทำให้รถไฟไหม้เกิดจากอะไร? Sanook Auto มีคำตอบมาฝากกันครับ

3 สาเหตุรถไฟไหม้ที่พบได้บ่อย

สาเหตุที่ 1 ไฟฟ้าลัดวงจร

เนื่องจากรถยนต์แต่ละคันประกอบไปด้วยสายไฟฟ้าจำนวนมาก ซึ่งโดยปกติแล้วหากเป็นรถเดิมๆ จากโรงงานที่ไม่มีการดัดแปลง มักจะไม่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบสายไฟ เนื่องจากโรงงานผลิตแต่ละแห่งล้วนมีมาตรฐานในการเดินสายไฟและจัดเก็บเป็นอย่างดีอยู่แล้ว

แต่กรณีที่พบบ่อย คือ รถยนต์ผ่านการดัดแปลงสายไฟ โดยเฉพาะรถที่มีการติดตั้งเครื่องเสียง หรือระบบกันขโมยจากร้านภายนอก หากช่างไม่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการกับระบบไฟและชุดสายไฟแล้วล่ะก็ อาจเป็นต้นเหตุทำให้ไฟฟ้าลัดวงจร หรืออุปกรณ์บางชิ้นอาจโอเวอร์ฮีตจนกระทั่งเกิดไฟลุกไหม้ได้

สาเหตุที่ 2 น้ำมันเชื้อเพลิงรั่ว

หากน้ำมันเชื้อเพลิงมีการรั่วไหลจากส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบส่งน้ำมัน และสัมผัสกับท่อไอเสียที่มีความร้อนสูงจัดแล้วล่ะก็ มีโอกาสที่เพลิงจะลุกไหม้สูงมาก ดังนั้นหากพบว่ามีกลิ่นน้ำมันเบนซินเล็ดลอดเข้ามายังระบบปรับอากาศ หรือขณะอยู่ภายนอกรถแล้วล่ะก็ ควรรีบนำรถเข้ารับการตรวจเช็กโดยทันที

สาเหตุที่ 3 น้ำมันรั่วไหลในห้องเครื่องยนต์

นอกเหนือจากน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีโอกาสติดไฟได้แล้ว น้ำมันต่างๆ ในห้องเครื่องยนต์ก็มีโอกาสติดไฟได้เช่นกัน (แม้ว่าจะมีโอกาสค่อนข้างน้อยก็ตาม) หากมีการรั่วซึมของน้ำมันจนกระทั่งไปสัมผัสกับทางเดินท่อไอเสียที่มีความร้อนสูงจัด ก็อาจส่งให้เกิดไฟลุกไหม้ได้ไม่แพ้กับน้ำมันเชื้อเพลิง

หากรถไฟไหม้ต้องทำอย่างไร?

โดยปกติแล้วหากรถเริ่มเกิดเพลิงไหม้ จะมีกลิ่นเหม็นไหม้เล็ดลอดเข้ามาทางระบบปรับอากาศ และอาจเกิดควันตามมาได้ กรณีเช่นนี้ให้รีบนำรถเข้าข้างทาง และดับเครื่องยนต์โดยทันที จากนั้นให้รีบลงจากรถ และอยู่ห่างจากตัวรถให้มากที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายจากการระเบิด จากนั้นแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 199 หรือหน่วยกู้ภัยโดยทันที

หากมีควันไฟออกมาจากห้องเครื่องยนต์ และต้องการเปิดฝากระโปรงหน้าเพื่อดับไฟ ก่อนเปิดฝากระโปรงจะต้องระวังเปลวไฟที่อาจลุกอยู่ภายในห้องเครื่องยนต์ซึ่งยากแก่การมองเห็นด้วย

สิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยลดโอกาสเกิดเพลิงไฟลุกไหม้รถคันโปรดได้นั้น คือการหมั่นดูแลรักษาอย่างเหมาะสมอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการดัดแปลงระบบไฟของตัวรถ หากพบว่ารถมีกลิ่นเหม็นน้ำมันผิดปกติ ให้รีบนำรถเข้าอู่หรือศูนย์บริการโดยทันที จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายในอนาคตได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook