ยังค้างไฟแนนซ์เยอะ แต่อยากเปลี่ยนรถทำได้ไหม?

ยังค้างไฟแนนซ์เยอะ แต่อยากเปลี่ยนรถทำได้ไหม?

ยังค้างไฟแนนซ์เยอะ แต่อยากเปลี่ยนรถทำได้ไหม?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     ใช่ว่าทุกคนจะแฮปปี้กับรถคันใหม่ที่เพิ่งซื้อมาเสมอไป บางคนกัดฟันซื้อรถคันใหญ่แล้วมารู้ตัวทีหลังว่าขับในเมืองไม่สะดวก บางคนซื้อรถคันเล็กเกินไปจนกลายเป็นว่าผู้ใหญ่นั่งไม่สบาย แต่สุดท้ายแล้วรถยังติดไฟแนนซ์เหลือค่างวดอีกหลายปี แบบนี้จะสามารถเทิร์นเพื่อเปลี่ยนเป็นคันใหม่ได้หรือไม่? Sanook Auto จะพาไปหาคำตอบกัน

รถติดไฟแนนซ์ เจ้าของเป็นเพียง "ผู้ครอบครอง"

     ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่ารถที่ยังติดผ่อนชำระอยู่กับธนาคารหรือไฟแนนซ์นั้น ผู้เช่าซื้อเป็นเพียง "ผู้ครอบครอง" ที่ทำได้แค่เพียงใช้ประโยชน์จากรถที่เช่าซื้อเท่านั้น ส่วน "ผู้ถือกรรมสิทธิ์" ที่แท้จริงยังคงเป็นธนาคารหรือไฟแนนซ์ ดังนั้นการนำรถที่ยังติดไฟแนนซ์ไปซื้อ-ขายโดยพลการ จึงถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย นำไปสู่ความผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญาได้

ขายรถติดไฟแนนซ์สามารถทำได้ แต่ต้องมีวิธีการ

     การขายรถทั้งที่ยังติดไฟแนนซ์อยู่สามารถทำได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพียงแต่จะมีวิธีการแตกต่างไปจากการขายรถที่ปลอดภาระแล้วสักเล็กน้อย

     ก่อนอื่นแนะนำว่าให้โทรเข้าไปยัง Call Center ของไฟแนนซ์ที่ใช้บริการอยู่เพื่อสอบถามยอดปิดบัญชีทั้งหมด โดยการปิดบัญชีล่วงหน้าจะได้รับส่วนลดดอกเบี้ยตามสัดส่วนขึ้นอยู่กับระยะเวลาการผ่อนชำระที่ผ่านมา เมื่อได้ยอดปิดบัญชีแล้วก็จะสามารถเลือกวิธีการขายต่อได้อย่างเหมาะสม ไม่ขาดทุนมากจนเกินไป

     ทั้งนี้ ไฟแนนซ์บางแห่งกำหนดว่าผู้เช่าซื้อจะต้องชำระค่างวดมากกว่า 12 เดือน หรือ 1 ปีเสียก่อน จึงจะสามารถปิดบัญชีได้

3 วิธีขายรถที่ยังติดไฟแนนซ์

     หลังจากที่ทราบยอดปิดบัญชีแล้ว คุณสามารถเลือกวิธีการที่เหมาะสมในการขายต่อได้ 3 วิธี ดังนี้

1. เทิร์นกับโชว์รูมหรือเต๊นท์โดยตรง

     วิธีนี้เป็นวิธีที่สะดวกที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะโดยคุณสามารถนำรถไปเทิร์นกับโชว์รูมหรือเต๊นท์ที่ต้องการซื้อคันใหม่ได้โดยตรง พร้อมทั้งเจรจาต่อรองว่าต้องเพิ่มส่วนต่างเท่าไหร่เพื่อเปลี่ยนเป็นรถคันใหม่ หากคุณรับข้อเสนอได้ ทางโชว์รูมหรือเต๊นท์ก็จะดำเนินการปิดบัญชีรถคันเดิมให้ แต่โดยมากแล้ววิธีนี้จะค่อนข้างเสียเปรียบ เนื่องจากจะถูกกดราคาโดยโชว์รูมหรือเต๊นท์ ทำให้ราคาขายไม่เป็นไปอย่างที่ตั้งใจไว้

2. เปลี่ยนสัญญา - ขายดาวน์ - ยกให้ผ่อนต่อฟรี

     อีกหนึ่งวิธีที่นิยมใช้ในปัจจุบัน คือ การเปลี่ยนสัญญาเพื่อให้ผู้อื่นนำรถไปผ่อนต่อ โดยหากภาระหนี้คงเหลือต่ำกว่าราคาตลาด ณ ขณะนั้น แนะนำว่าให้ใช้วิธีขายดาวน์เพื่อให้ได้มาซึ่งส่วนต่างตามราคาตลาด ยกตัวอย่างเช่น หากราคาตลาดของรถรุ่นนั้นอยู่ที่ 450,000 บาท แต่มีภาระหนี้คงเหลือรวมแล้วเหลือ 300,000 บาท ก็สามารถเรียกส่วนต่างประมาณ 150,000 บาทเพื่อเป็นเงินดาวน์จากผู้ซื้อได้

     แต่หากภาระหนี้คงเหลือเท่ากับหรือมากกว่าราคาตลาด จำเป็นต้องใช้วิธีเปลี่ยนสัญญาเพื่อให้ผู้ซื้อไปชำระค่างวดที่เหลือโดยไม่ได้ส่วนต่างกลับมา พูดง่ายๆ คือ เปลี่ยนสัญญายกรถให้ผู้ซื้อไปดำเนินการผ่อนต่อแบบฟรีๆ นั่นเอง เมื่อภาระหนี้ก้อนนี้จบไป ก็สามารถเปลี่ยนไปซื้อคันใหม่ได้แล้ว

3. ขายเงินสด

     วิธีนี้มีลักษณะคล้ายกับการเปลี่ยนสัญญา เพียงแต่ถ้าผู้ซื้อมีความพร้อมในการจ่ายเงินสดทั้งก้อนก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยผู้ขายจำเป็นต้องติดต่อกับไฟแนนซ์เพื่อแจ้งความประสงค์ในการขายพร้อมกับการปิดบัญชี จากนั้นทำสัญญาซื้อขายให้เรียบร้อย และปฏิบัติตามคำแนะนำของไฟแนนซ์ต่อไป

     การปฏิบัติเช่นนี้จะช่วยเพิ่มความสบายใจกับทางฝ่ายผู้ซื้อ เพราะทางผู้ซื้อเองก็มั่นใจได้ว่ามีการปิดบัญชีสินเชื่อจริง แทนที่จะทำการซื้อ-ขายแล้วปล่อยให้ผู้ขายไปดำเนินการปิดบัญชีเองในภายหลัง ซึ่งอาจเกิดปัญหาตามมาได้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook