เฮ! ครม. ไฟเขียวลดภาษีรถยนต์ร้อยละ 90 หวังเยียวยาแท็กซี่-รถสามล้อ-มอเตอร์ไซค์รับจ้าง

เฮ! ครม. ไฟเขียวลดภาษีรถยนต์ร้อยละ 90 หวังเยียวยาแท็กซี่-รถสามล้อ-มอเตอร์ไซค์รับจ้าง

เฮ! ครม. ไฟเขียวลดภาษีรถยนต์ร้อยละ 90 หวังเยียวยาแท็กซี่-รถสามล้อ-มอเตอร์ไซค์รับจ้าง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

     กรมการขนส่งทางบกเผย ครม. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาปรับลดภาษีรถยนต์ประจำปีลงร้อยละ 90 ให้กับกลุ่มรถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่), รถยนต์รับจ้างสามล้อ และรถจักรยานยนต์สาธารณะ เพื่อเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบอาชีพขับรถสาธารณะ

     นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า วันที่ 16 สิงหาคม 2565 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกา ลดภาษีประจำปีสำหรับรถยนต์รับจ้าง(แท็กซี่) รถยนต์รับจ้างสามล้อ และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่ครบกำหนดเสียภาษีประจำปี หลังจากที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ โดยให้ลดภาษีลงร้อยละ 90 จากอัตราที่กำหนดท้ายพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 เพื่อช่วยเหลือเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประกอบอาชีพขับรถสาธารณะ อันเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติพุ่งสูงขึ้น

     ร่างพระราชกฤษฎีกาลดภาษีประจำปีสำหรับรถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่), รถยนต์รับจ้างสามล้อ และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่ครบกำหนดเสียภาษีประจำปีหลังจากที่กฎหมายมีผลบังคับใช้ โดยปรับลดภาษีลงร้อยละ 90 จากอัตราที่กำหนดท้ายพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 โดยอัตราภาษีประจำปีหลังปรับลดภาษีลงร้อยละ 90 มีดังนี้

  • รถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) น้ำหนักรถ 1,300 กก. เดิมจัดเก็บภาษี 685 บาท ลดเหลือ 68.50 บาท/คัน
  • รถยนต์รับจ้าง (แท็กซี่) น้ำหนักรถ 2,100 กก. เดิมจัดเก็บภาษี 1,250 บาท/คัน ลดเหลือ 125 บาท
  • รถยนต์สามล้อรับจ้าง เดิมจัดเก็บภาษี 185 บาท/คัน ลดเหลือ 18.5 บาท/คัน
  • รถจักรยานยนต์รับจ้าง เดิมจัดเก็บภาษี 100 บาท/คัน ลดเหลือ 10 บาท/คัน

     อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมารัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคม ได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ เช่น มอบเงินช่วยเหลือกลุ่มอาชีพผู้ขับรถแท็กซี่และรถจักรยานยนต์สาธารณะ ที่มีอายุเกิน 65 ปี ที่ไม่สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และประกอบอาชีพขับรถอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (29 จังหวัด), การขยายอายุรถแท็กซี่จาก 9 ปี เป็น 12 ปี, การอนุญาตให้ใช้เทคโนโลยีทางเลือกอื่นแทนเครื่องบันทึกการเดินทาง (GPS) ในรถแท็กซี่ พร้อมทั้งมีมาตรการเพิ่มรายได้ โดยให้ติดตั้งสื่อโฆษณาบนรถแท็กซี่ และกำหนดให้เรียกเก็บค่าสัมภาระได้ กรณีการให้บริการจากท่าอากาศยานดอนเมืองและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เป็นต้น

 dlt

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook