All-new Honda CR-V 2023 (Gen 6) ปรับโฉมใหม่ทั้งคันพร้อมขุมพลังไฮบริด 2.0 ลิตร

All-new Honda CR-V 2023 (Gen 6) ปรับโฉมใหม่ทั้งคันพร้อมขุมพลังไฮบริด 2.0 ลิตร

All-new Honda CR-V 2023 (Gen 6) ปรับโฉมใหม่ทั้งคันพร้อมขุมพลังไฮบริด 2.0 ลิตร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

      All-new Honda CR-V 2023 ใหม่ ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา ปรับดีไซน์เน้นความสปอร์ตยิ่งขึ้น มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และไฮบริด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงสุดเท่าที่เคยมีมาในรุ่น CR-V

crv_2023_06

      ฮอนด้า ซีอาร์-วี 2023 ใหม่ ถูกพัฒนาต่อเนื่องมาเป็นเจเนอเรชันที่ 6 แล้ว โดยโฉมล่าสุดนี้ถูกพัฒนาให้มีรูปลักษณ์เน้นความสมบุกสมบันมากยิ่งขึ้น ซึ่งฮอนด้าระบุว่าได้แรงบันดาลใจมาจากรุ่น Ridgeline และ Passport TrailSport ที่วางจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน มาพร้อมตัวถังที่มีขนาดยาวขึ้น 2.7 นิ้ว กว้างขึ้น 0.4 นิ้ว และความยาวฐานล้อเพิ่มขึ้น 1.6 นิ้ว พร้อมทั้งเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้างตัวถังขึ้นอีก 15% เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าโค้งและการยึดเกาะถนน

      Honda CR-V 2023 ในสหรัฐอเมริกามีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย ได้แก่ EX, EX-L ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร ตามด้วยรุ่น Sport และ Sport Touring พร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด 2.0 ลิตร โดยทุกรุ่นถูกติดตั้งไฟหน้าแบบ LED และไฟท้ายแบบ All-LED ดีไซน์รูปตัว L เป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ขณะที่รุ่น Sport และ Sport Touring จะเน้นความดุดันยิ่งขึ้นด้วยกระจังหน้าทรงรังผึ้งสีดำเงา, ปลายท่อไอเสียโครเมียมทรงเหลี่ยม และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้วในรุ่น Sport Touring (รุ่นอื่นๆ มีขนาด 18 นิ้ว)

crv_2023_02

      ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบให้มีกลิ่นอายของ Honda Civic โฉมปัจจุบัน โดยรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบจะมาพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว ที่สามารถปรับการแสดงผลได้หลากหลาย ขณะที่รุ่นไฮบริดจะได้มาตรวัดความเร็วแบบ Analog ทำงานคู่กับหน้าจอขนาด 7 นิ้ว ที่สามารถแสดงผลการทำงานของระบบไฮบริดได้

      ส่วนหน้าจออินโฟเทนเมนท์ของ Honda CR-V 2023 มีให้เลือกทั้งขนาด 7 นิ้ว ในรุ่น EX และ Sport หรือขนาด 9 นิ้ว ในรุ่น EX-L และ Sport Touring ที่สามารถรองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สายได้ (รุ่น EX และ Sport ต้องเชื่อมต่อผ่านสาย USB) โดยทุกรุ่นจะถูกติดตั้งช่องชาร์จไฟแบบ USB-A และ USB-C มาให้อย่างละ 1 จุด ขณะที่รุ่น EX-L และ Sport Touring จะเสริมด้วยช่องจ่ายไฟแบบ USB-C อีก 2 จุดสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง และที่ชาร์จไฟแบบไร้สายขนาด 15W มาให้ด้วย

      ในรุ่น Sport Touring ซึ่งเป็นรุ่นท็อปสุดยังถูกติดตั้งระบบเสียง Bose ที่ประกอบด้วยลำโพงถึง 12 ตำแหน่ง พร้อมเทคโนโลยี Bose Centerpoint และระบบประมวลสัญญาณเสียงดิจิทัล SurroundStage เพื่อให้ผู้โดยสารทุกที่นั่งได้สัมผัสประสบการณ์เสียงแบบเดียวกัน

crv_2023_01

      All-new Honda CR-V 2023 ทุกรุ่นที่วางจำหน่ายในสหรัฐฯ ถูกติดตั้งระบบความปลอดภัย Honda Sensing ที่ทำงานผ่านกล้องมุมกว้าง 90 องศา และเรดาร์ที่ติดตั้งไว้ด้านหน้ารถ ซึ่งระบุว่าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนนได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงเส้นแบ่งถนน, ขอบทาง, ผู้ใช้จักรยาน, ผู้ใช้จักรยานยนต์ และป้ายจราจร เพิ่มเติมด้วยระบบ Traffic Jam Assist (TJA), Low-Speed Braking Control และระบบ Traffic Sign Recognition (TSR) รวมถึงปรับปรุงการทำงานของระบบ Adaptive Cruise Control (ACC) with Low-Speed Follow และ Lane Keeping Assist (LKAS) เพื่อให้ตอบสนองได้อย่างเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

      ด้านขุมพลังของ All-new Honda CR-V 2023 ในสหรัฐฯ มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 190 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 243 นิวตัน-เมตร (179 ปอนด์ฟุต) ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT และเครื่องยนต์ไฮบริด 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 335 นิวตัน-เมตร (247 ปอนด์ฟุต) ซึ่งมาในรอบเครื่องยนต์ตั้งแต่ 1,700 - 5,000 รอบต่อนาที

      ทั้งนี้ All-new Honda CR-V 2023 ที่วางจำหน่ายในอเมริกาเหนือจะถูกผลิตขึ้นที่โรงงานในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ขณะที่การเปิดตัวในประเทศไทยคาดว่าอีกไม่นานเกินรอ

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ

อัลบั้มภาพ 7 ภาพ ของ All-new Honda CR-V 2023 (Gen 6) ปรับโฉมใหม่ทั้งคันพร้อมขุมพลังไฮบริด 2.0 ลิตร

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook