เพิ่งจะรู้! "ดอกยาง" ไม่ได้ช่วยให้รถเกาะถนน

เพิ่งจะรู้! "ดอกยาง" ไม่ได้ช่วยให้รถเกาะถนน

เพิ่งจะรู้! "ดอกยาง" ไม่ได้ช่วยให้รถเกาะถนน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลายคนยังมีความเข้าใจผิดว่า "ดอกยาง" มีไว้เพื่อให้รถเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งอันที่จริงมีส่วนถูกเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น เพราะอันที่จริงดอกยางมีไว้สำหรับ "รีดน้ำ" ต่างหากล่ะ!

อันที่จริงแล้ว ยิ่งหน้ายางแนบสนิทไปกับพื้นถนนมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้รถเกาะถนนมากขึ้นเท่านั้น หากเทียบกันระหว่างยางที่มีความกว้างเท่ากัน ยางที่ไม่มีดอกยางจะสามารถยึดเกาะถนนได้ดีกว่ายางที่มีดอกยาง ส่งผลให้รถแข่งทางเรียบทั้งหลายมักเลือกใช้ยางไร้ดอก (Slick) ซึ่งมีพื้นผิวเรียบช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนนได้ดีกว่ายางรถบ้านทั่วไป และลดแรงต้านทานที่เกิดจากดอกยางได้อีกด้วย (แต่หากจู่ๆ เกิดฝนตกขึ้นมาระหว่างการแข่งขัน รับรองว่าไถลออกนอกสนามกันเป็นว่าเล่นอย่างแน่นอน ยิ่งใช้ความเร็วสูงมากเท่าไหร่ยิ่งไม่รอด)

แต่รถบ้านทั่วไปที่ใช้บนถนนปกตินั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีดอกยางเพื่อช่วย "รีดน้ำ" เมื่อขับผ่านแอ่งน้ำหรือระหว่างฝนตก ยิ่งดอกยางลึกมากเท่าไหร่ก็ยิ่งจะมีประสิทธิภาพการรีดน้ำมากขึ้นเท่านั้น ในทางตรงกันข้าม หากดอกยางเริ่มสึกลงก็จะมีประสิทธิภาพในการรีดน้ำลดลงเช่นกัน

กรณีขับรถผ่านแอ่งน้ำ ยางที่เสื่อมสภาพจนแทบไม่เหลือดอกยางนั้น จะไม่สามารถรีดน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอ จนทำให้เกิดชั้นของน้ำแทรกกลางระหว่างหน้ายางและพื้นถนน (Hydroplaning) จึงสูญเสียประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนไป ส่งผลให้รถเสียหลักได้ในที่สุด ถึงแม้ว่ารถจะมีระบบควบคุมเสถียรภาพ ก็แทบจะไร้ประโยชน์เนื่องจากหน้ายางไม่สัมผัสพื้นถนนไปแล้วนั่นเอง ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อนหรือฤดูฝน ก็ควรตรวจสอบสภาพยางรถยนต์ว่ามีดอกยางเหลือมากกว่า 3 มม. ขึ้นไป เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อนั่นเอง

ซึ่งปกติแล้ว การสึกหรอของดอกยางจะขึ้นอยู่กับการใช้งานของรถแต่ละคันและพื้นผิวของถนน ซึ่งการเลือกยางให้เหมาะสมกับประเภทรถและการใช้งานนับเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญมาก ไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ แต่ยังเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของยางให้คุ้มค่าและปลอดภัยยิ่งขึ้น 

ซึ่งทาง Westlake ก็ได้มองเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ และได้มีการออกแบบยาง รวมถึงดอกยางมาหลากหลายรูปแบบ ให้ได้เลือกใช้กันตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนอย่างครอบคลุม พร้อมกับรองรับทุกสภาพถนน เช่น 

ZuperACE EV - ยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ขับขี่นุ่มนวล ประหยัดพลังงาน

  • ขับขี่เงียบสบาย : โฟมโพลียูรีเทนด้านในช่วยดูดซับเสียงและลดการสั่นสะเทือน ทำให้ขับขี่ได้อย่างสบาย ไร้เสียงรบกวน
  • ประหยัดพลังงาน : เทคโนโลยี BPOT และเนื้อยางสูตรพิเศษ ลดแรงต้านการหมุน ทำให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ยืดอายุการใช้งาน : โครงสร้างยางและส่วนผสมที่ออกแบบพิเศษ เพิ่มความทนทานและใช้งานได้นานขึ้น

ZuperFlex Z-117 - ยางสำหรับรถเก๋งทั่วไปพร้อมดอกยางแบบ Sport Hybrid ขับขี่นุ่ม ปลอดภัย 

  • ดอกยางแบบ Sport Hybrid : ช่วยให้ขับขี่ควบคุมได้ดั่งใจ ทำให้การเข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลนเป็นไปอย่างราบรื่น
  • ขับขี่ปลอดภัยแม้ถนนเปียก : มาพร้อมกับเทคโนโลยี Groove Chamfer และ 4 ร่องรีดน้ำ ช่วยให้ยางเกาะถนนได้ดีเยี่ยม แม้ถนนเปียก
  • แข็งแรง ทนทาน : ไหล่ยางด้านนอกเพิ่มความแข็งแรง ใช้งานได้ยาวนานและคุ้มค่า

ZUPER ACE Z-007 - ยางสำหรับรถเก๋งสมรรถนะสูง นุ่ม เงียบ ขับขี่สบาย เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมือง

  • นุ่มเงียบเหนือระดับ : เทคโนโลยีจุดลดเสียงรบกวน 24 จุด ช่วยลดเสียงขณะขับขี่ ให้การเดินทางเงียบสบาย
  • ยึดเกาะทนทาน ปลอดภัยทุกสภาพถนน : เนื้อยางสูตรใหม่ Nano-Silica พร้อมกับร่องดอกยางออกแบบพิเศษเพื่อรีดน้ำได้อย่างรวดเร็ว ช่วยเพิ่มการยึดเกาะถนน พร้อมลดการสึกหรอ
  • โครงสร้างแข็งแรง : รองรับแรงกดและแรงกระแทกได้ดี มอบความมั่นใจในการขับขี่บนถนนหลากหลายสภาพ

SC328 - ยางสำหรับรถกระบะ แข็งแรง ทนทาน ใช้งานอเนกประสงค์

  • ดอกยางกว้างและแข็งแรง : รองรับการใช้งานหนักและช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน
  • รีดน้ำได้ดีเยี่ยม : มาพร้อมร่องรีดน้ำกว้างและลึก 3 ร่อง ช่วยระบายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ยึดเกาะถนนมั่นใจ : เพิ่มสมรรถนะการขับขี่บนถนนเปียก ลดความเสี่ยงการลื่นไถล

นอกจากนี้ Westlake ยังมียางอีกหลายรุ่นให้ได้เลือกใช้กันอีกมากมาย ซึ่งหากคุณเลือกใช้ยางให้เหมาะกับรถยนต์และการใช้งาน จะช่วยแก้ไขปัญหาเสื่อมสภาพที่เร็วเกินไปของยางและดอกยางได้อย่างดี 

หากใครกำลังมองหายางดีๆ มีคุณภาพ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การขับขี่หลากหลาย อย่าลืมนึกถึง Westlake แบรนด์ยางรถยนต์ระดับโลกที่ผ่านการรับรองจากสถาบันชั้นนำ ที่พร้อมนำยางคุณภาพสู่ผู้บริโภคในราคาคนไทย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล