Hyundai Santa Fe 2018 ใหม่ ปรับดีไซน์เฉียบหรูขึ้นกว่าเดิม

      Hyundai Santa Fe 2018 เจเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการแล้ว ปรับดีไซน์หรู เพิ่มอ็อพชั่นล้ำ พร้อมขุมพลังดีเซล 2.2 ลิตร

      Hyundai Santa Fe 2018 ใหม่ ถือเป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 แล้ว นับตั้งแต่วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี 2001 ซึ่งบ้านเราเคยนำเข้ามาอยู่พักหนึ่งก่อนจะหายไปจากตลาดแบบเงียบๆ โดย Santa Fe รุ่นปี 2018 ถูกพัฒนาขึ้นบนแพล็ตฟอร์มเดียวกับ Kia Sorento และ Kia Carnival ตัวถังมีขนาดยาว 4,770 มิลลิเมตร กว้าง 1,890 มิลลิเมตร ความยาวฐานล้ออยู่ที่ 2,765 มิลลิเมตร

      ภายในห้องโดยสารถูกปรับปรุงเน้นความพรีเมียมมากขึ้น ด้วยการใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงกว่ารุ่นก่อน พร้อมทั้งขยายพื้นที่ช่วงขาผู้โดยสารตอนหลังเพิ่มขึ้นอีก 38 มิลลิเมตร มาพร้อมเบาะนั่งโดยสารแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง ซึ่งสามารถพับเบาะนั่งแถวที่ 2 แบบวันทัชเพื่อการเข้าออกที่สะดวกกว่าเดิม ขณะที่เบาะนั่งแถวที่ 3 มีการขยายความสูงเพิ่มขึ้นอีก 22 มิลลิเมตร พร้อมทั้งเพิ่มขนาดห้องเก็บสัมภาระท้ายขึ้นอีก 40 ลิตร เป็นทั้งหมด 625 ลิตร ตามมาตรฐาน VDA

      คอนโซลหน้าโดดเด่นด้วยหน้าจออินโฟเทนเม้นท์ขนาด 8 นิ้ว ที่สามารถรองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมระบบนำทาง 3 มิติ ขณะที่รุ่นพื้นฐานจะถูกติดตั้งหน้าจอขนาด 7 นิ้ว รองรับการแสดงผลจากสมาร์ทโฟนได้ ขณะที่รุ่นท็อปสุดจะถูกติดตั้งหน้าจอ Head-up Display สำหรับผู้ขับขี่ พร้อมทั้งระบบชาร์จมือถือแบบไร้สายให้ด้วย

      Hyundai Santa Fe 2018 มีการติดตั้งระบบความปลอดภัยขั้นสูงที่เรียกว่า SmartSense ซึ่งประกอบด้วยระบบป้องกันการชนด้านหน้าที่สามารถตรวจจับคนเดินถนนได้, ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันอัตโนมัติตามคันหน้า, ระบบช่วยประคองรถให้อยู่ในเลน, ระบบเตือนรถเคลื่อนผ่านด้านหน้า พร้อมฟังก์ชั่นเบรกอัตโนมัติ รวมถึงระบบ Safety Exit Assist ที่ช่วยเตือนหากมีรถมอเตอร์ไซค์หรือจักรยานขับผ่านขณะกำลังเปิดประตู เป็นต้น   

  

      ด้านขุมพลังถูกติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบขนาด 2.2 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 195 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 436 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ HTRAC ที่สามารถกระจายแรงบิดไปยังล้อแต่ละข้างได้ตามลักษณะการขับขี่และสภาพพื้นผิวถนน โดยในโหมด Eco จะขับเคลื่อนด้วยล้อหน้าเท่านั้น ขณะที่โหมด Comfort จะกระจายแรงบิดไปยังล้อหลัง 35 เปอร์เซ็นต์ ส่วนโหมด Sport จะกระจายแรงบิดไปยังล้อหลัง 50 เปอร์เซ็นต์

      นอกจากนั้นยังมีเครื่องยนต์เบนซิน Theta II ขนาด 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 241 นิวตัน-เมตร เป็นทางเลือกด้วย

      แม้ว่าอดีตในบ้านเราจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก แต่ในตลาดยุโรปถือว่าไปได้สวยเลยทีเดียว