รถคันแรก "เอฟเฟ็กต์" วิบากกรรมของ "ดีลเลอร์"
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/au/0/ud/1/5827/13775260541377526092l.jpgรถคันแรก "เอฟเฟ็กต์" วิบากกรรมของ "ดีลเลอร์"

    รถคันแรก "เอฟเฟ็กต์" วิบากกรรมของ "ดีลเลอร์"

    2013-08-27T11:29:52+07:00
    แชร์เรื่องนี้

         ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ว่าผลกระทบจากนโยบายรถยนต์คันแรกจะหนักหนาสาหัสเพียงนี้ ผ่านพ้นไป 8 เดือน อุตสาหกรรมและตลาดรถยนต์ในบ้านเรา แม้จะมีตัวเลขยอดขายต่อเดือนเฉลี่ยราว ๆ แสนคัน แต่นั่นก็แค่ภาพลวงตา

         เพราะตัวเลขที่ปรากฏแต่ละเดือน หลัก ๆ คือตัวเลขแบ็กออร์เดอร์ ที่แต่ละค่ายรถค้างส่งมอบให้กับลูกค้าซึ่งผูกพันมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว จะมียอดขายใหม่แทรกอยู่บ้างแต่ก็เพียงเล็กน้อย

         สิ่งหนึ่งที่หลายคน กำลังกังวลอยู่ในขณะนี้ก็คือ ผลกระทบจากนโยบายประชานิยมกำลังจะออกฤทธิ์ หรือเริ่มสะท้อนภาพของตลาดที่แท้จริงในช่วงไตรมาสที่ 3 นี้แหละ

         สัญญาณนี้เริ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อหอการค้าญี่ปุ่นรายงานยอดขายรถยนต์ในบ้านเรา เดือนกันยายนที่ผ่านมาผู้ประกอบการทั้งตลาดขายได้ไม่ถึงแสนคัน ทั้ง ๆ ที่การขายอยู่ท่ามกลางการแข่งขันและการโหมกระหน่ำแคมเปญโปรโมชั่นที่ร้อน ระอุ

         นักการตลาดหลายคนฟันธงตรงกันว่า ตลาดรถปีนี้น่าจะหดตัวอย่างน้อย 5-10% ซึ่งสวนทางกับผู้บริหารค่ายรถยนต์ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะพี่เบิ้มอย่างโตโยต้า ที่มั่นใจว่าตลาดน่าจะ "ทรงตัว" ยอดขายน่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา

         อะไรสะท้อนให้กลุ่มนักวิเคราะห์มองตลาดว่าทรุดตัวแน่นอน เหตุผลก็คือ ความต้องการในตลาดแทบไม่มีอยู่จริง จะให้มีอยู่ได้อย่างไร ในเมื่อความต้องการของปีนี้ถูกดึงไปใช้ก่อนหน้าแล้ว และข้อมูลการตลาดที่บิดเบือน ทำให้ค่ายรถยนต์ประเมินทุกอย่างผิดเพี้ยน ผลกระทบที่ตามมาก็คือ โหมเพิ่มกำลังผลิตกันอุตลุด

         แต่การเพิ่มกำลังผลิตในจังหวะที่ความต้องการของตลาดหดตัว ภาระหนักจึงมาตกที่ "ดีลเลอร์" โดยที่สต๊อกจำนวนมากถูกผลักมาให้ดีลเลอร์เป็นผู้แบกรับ

         แม้ค่ายรถยนต์จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ด้วยแคมเปญส่งเสริมการขายที่มีให้มากกว่าธรรมดา รวมถึงทยอยออกโปรโมชั่นที่เร้าใจอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอและแรงขึ้นเรื่อย ๆ ก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ทำให้ตลาดกระเตื้องหรือตื่นตัวขึ้นมากนัก แม้ว่าโปรโมชั่นที่ค่ายรถพยายามนำเสนอจะใกล้เคียงหรือมากกว่ากับกับเม็ดเงิน คืนภาษีที่รัฐบาลจัดให้เมื่อปีที่แล้วก็ตาม

         นี่ถ้าหลายคนซื้อรถรู้ว่า ซื้อรถช่วงนี้ได้ส่วนลดมากพอ ๆ กับเงินคืนภาษี หรือมากกว่าด้วยซ้ำ คงมีลูกค้าอีกจำนวนไม่น้อยที่ยอมอดใจรอ

         แต่ความพยายามของคนขายรถคงหยุดไม่ได้เพียงเท่านั้น ถึงแม้บริษัทแม่จะอัดโปรกันเต็มเหนี่ยวแล้วก็ตาม แต่ดีลเลอร์ขายรถก็ยังต้องยอมเฉือนเนื้อของตัวเองเติมให้ลูกค้าอีก จนทุกวันนี้กลายเป็นการสร้างพฤติกรรมใหม่ให้กับคนซื้อรถ

         เดิมเลือกซื้อรถตามที่ตัวเองต้องการและการใช้งาน แต่วันนี้พฤติกรรมเปลี่ยน มองว่าค่ายไหน หรือดีลเลอร์รายใดให้แคมเปญ ส่วนลด ของแถมมากกว่าก็เลือกค่ายนั้น เรียกว่า "ใครให้มากกว่า ก็พร้อมจะซื้อ"

         ล่าสุดตามสื่อทีวี สิ่งพิมพ์ แคมเปญของค่ายรถผนึกกับโปรโมชั่นของดีลเลอร์มีให้เห็นจนชินตา โดยเฉพาะเงื่อนไขปลอดดาวน์ ฟรีดอกเบี้ย 0% แถมยังมีโปรแกรมสินเชื่อที่ให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของรถง่ายขึ้น ผ่อนต่อเดือนไม่กี่พันบาท ของแจกแถมอีกเพียบ โดยเฉพาะประกันภัยชั้น 1

         เรียกว่า ถ้าเผลอหลุดเข้าไปโชว์รูมไหน โอกาสหลุดออกมาคงยาก เพราะเซลส์คงไม่ยอมปล่อยลูกค้าหลุดมือ

         แต่ถึงโปรโมชั่นจะแรงแค่ไหน คำถามที่คนซื้อรถยังตั้งคำถามกับตัวเองตลอดเวลาก็คือ ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของผู้ซื้อ จะได้มากกว่านี้อีกมั้ย

         เหล่านี้คือวิบากกรรมของคนขายรถที่ยังต้องเผชิญไปจนจบปีนี้