มือสองน่าสน : TOYOTA SOLUNA GLi-AUTO ท้ายหยดน้ำ

TOYOTA SOLUNA เป็นรถที่ถูกสร้างขึ้นโดยทีมวิศวกรจาก 2 ประเทศ อันได้แก่ วิศวกรญี่ปุ่น และวิศวกรไทย เพื่อมุ่งหวังให้SOLUNA เป็นรถที่ตอบสนองความต้องการของคนไทยโดยเฉพาะ มีขนาดรูปทรงกะทัดรัด ใช้งานคล่องตัว สมรรถนะสมตัว และใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กไม่เกิน 1.5 ลิตร  ที่สำคัญคือ ราคาค่าตัวไม่แพงจนเกินไป

รูปลักษณ์โดยรวมของ TOYOTA SOLUNA นั้นออกแบบให้ดูกะทัดรัด   แต่ใช้เส้นสายต่าง ๆ ช่วยให้ดูว่าตัวรถมีขนาดไม่เล็กจนเกินไปนัก เพราะรถขนาดเล็กเกินไปคนไทยก็ไม่ค่อยนิยมนักในโฉมท้ายหยดน้ำ ที่แนะนำนี้เป็นโฉม MINORCHANGE ของ SOLUNA แล้ว เริ่มผลิตจำหน่ายตั้งแต่ปลายปี 1999 (2542) จนถึงท้ายสุดของโฉมในปี 2002 (2545) ที่จะหลีกทางให้กับ SOLUNA VIOS

TOYOTA SOLUNA GLi-AUTO ท้ายหยดน้ำ

TOYOTA SOLUNA GLi-AUTO ท้ายหยดน้ำ มีความยาวตัวถัง 4,175 มม. มีความกว้างตัวถัง 1,600 มม. มีความสูง 1,380 มม. ระยะฐานล้อ 2,380 มม. ความกว้างของช่วงล้อคู่หน้า 1,420 มม. และล้อคู่หลัง 1,405 มม. มีความสูงจากพื้นดินถึงใต้ท้องรถทั้งหมด 150 มม. น้ำหนักรถโดยเฉลี่ย 870-925 กก. และถังน้ำมันจุ 45 ลิตรครับ

ความโดดเด่นของโฉมท้ายหยดน้ำคือ ด้านท้ายรถจะมีไฟถอยแยกเป็นอิสระจากโคมไฟท้าย และโคมไฟหน้าเปลี่ยนไปใช้แบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ ที่ให้ความใสสว่างมากขึ้น ไฟเลี้ยวด้านหน้าใช้ฝาครอบสีขาวตามสมัยนิยม ในรุ่นท็อป 1.5 GLi จะต่างกับรุ่นอื่น ๆ ตรงที่ขนาดและลายของล้ออัลลอย ซึ่งในรุ่นอื่นจะให้เป็นล้อขอบ 13 นิ้วมาเท่านั้น แต่รุ่น 1.5 GLi จะเป็นล้อขอบ 14 นิ้ว พร้อมยาง 175/65 R14 แทน 

ห้องโดยสารของ TOYOTA SOLUNA GLi-AUTO ท้ายหยดน้ำ นั้นออกแบบ ได้ดีไม่น้อย แม้เป็นรถนั่งขนาดเล็กแต่ก็มีเนื้อที่ใช้สอยที่ไม่จัดว่าคับแคบจนเกินเหตุ เนื้อที่ทั้งตอนหน้าและหลังมีมาให้กำลังเหมาะ นั่งได้แบบสบาย ๆ สำหรับหน้า 2 คนหลัง 2 คน บวกเด็กตัวเล็ก ๆ ได้อีก 1 คน แผงหน้าปัดและแผงคอนโซล ต่าง ๆ ดีไซน์ได้ไม่เลวนัก ถึงจะไม่จัดอยู่ในระดับหรูหราแต่ก็มีมาให้แบบไม่ด้อยกว่าค่าตัวที่ต้องจ่ายไป มาตรวัดขนาด ใหญ่อ่านได้อย่างชัดเจน ไม่มีแบบปรับสีเรืองแสงได้อย่างรถหลาย ๆ รุ่นในปัจจุบัน 

TOYOTA SOLUNA GLi-AUTO ท้ายหยดน้ำ

เบาะนั่งออกแบบได้ดีทั้งด้านหน้าและหลัง วัสดุหุ้มเบาะเป็นประเภทผ้าไม่ใช่หนังแท้ ด้านอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมีมาให้ครบ ทั้งกระจกไฟฟ้าพร้อมระบบกันหนีบ หรือ JAM PROTECTION ที่หน้าต่างด้านคนขับ กระจกมองข้างปรับด้วยไฟฟ้า และกุญแจพร้อม รีโมตควบคุม ระบบเซ็นทรัล ส่วนอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยก็มีมาให้ ทั้งถุงลมนิรภัย หรือ AIRBAG ด้านคนขับ เข็มขัดนิรภัยแบบล็อก 3 จุด 4 ที่นั่ง

TOYOTA SOLUNA GLi-AUTO ท้ายหยดน้ำ  เป็นเครื่องยนต์เบนซิน รหัส 5A-FE บล็อก 4 สูบ เรียง DOHC 16 วาล์ว ปริมาตรความจุรวม 1498 ซี.ซี. ให้กำลังสูงสุด 95 แรงม้า ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 126 นิวตันเมตร ที่ 4,800 รอบ/นาที ระบบส่งกำลังใช้เกียร์ AUTO แบบ 4 สปีด จากเดิมที่ใช้แบบ 3 สปีด

TOYOTA SOLUNA GLi-AUTO ท้ายหยดน้ำ

ด้านสมรรถนะโดยรวมของ TOYOTA SOLUNA GLi-AUTO ท้ายหยดน้ำ นั้นจัดว่าให้ พละกำลังสมตัว อัตราเร่งใช้ได้เหลือเฟือ สำหรับการใช้งานในเมือง และเพียงพอสำหรับการเดินทางไกลแบบขับต่อเนื่องในระยะทางไม่เกิน 200-250 กม. ได้อย่างสบาย ๆ ในเรื่องความประหยัดถือว่าน่าคบหามากทีเดียวในยุคน้ำมันแพงขนาดนี้ มีอัตราความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในราว 9 กม./ลิตร สำหรับการวิ่งในเมือง และ 15 กม./ลิตร สำหรับการวิ่งทางไกล ที่สำคัญรถในตระกูลโตโยต้ายังค่อนข้างจะถูกกับการนำไปติดตั้งแก๊สไม่ว่าจะเป็น LPG หรือ NGV ก็สามารถเพิ่มความประหยัดค่าเชื้อเพลิงได้อีกมากเลยทีเดียว

TOYOTA SOLUNA GLi-AUTO ท้ายหยดน้ำ ใช้ระบบรองรับแบบด้านหน้าอิสระ แม็กเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลังเป็นแบบกึ่งอิสระ TORSIONBEAM โช้กอัพและเหล็กกันโคลง ซึ่งระบบรองรับหลังแบบนี้มีข้อดีตรงที่ทนทานกว่าแบบอิสระ แต่มีข้อเสียตรงที่กระด้างไปหน่อย นั่งไม่นุ่มนวลนักและการเกาะถนนอาจจะไม่ดีนักกับถนนบางประเภท เรื่องการทรงตัวโดยรวมแล้วจัดได้ว่าไม่เป็นข้อเด่นของรถรุ่นนี้นัก มีอาการดื้อโค้งและควบคุมยากในบางครั้งเมื่อต้องเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง แต่ถ้าเป็นทางตรงถนนเรียบ ๆ ถึงไหนถึงกัน 

TOYOTA SOLUNA GLi-AUTO ท้ายหยดน้ำ

TOYOTA SOLUNA GLi-AUTO ท้ายหยดน้ำ ใช้ระบบเบรกแบบหน้าดิสก์ แบบมีช่องระบายความร้อน หลังดรัมเบรก พร้อมติดตั้งระบบป้องกันล้อล็อกตาย หรือ ABS แบบ 4 เซ็นเซอร์มาให้ด้วย ประสิทธิภาพเบรกของ SOLUNA 1.5 GLi-AUTO จัดอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้ อาจจะต้องใช้ฝีมือคนขับช่วยบ้างเมื่อต้องเบรกที่ความเร็วสูงระดับเกิน 140 กม./ชม.

TOYOTA SOLUNA GLi-AUTO ท้ายหยดน้ำ เป็นรถนั่งขนาดเล็กสไตล์ประหยัด ที่เน้นเรื่องการใช้งานในเมืองมากกว่า การใช้งานแบบต้องเดินทางไกล ๆ เป็นประจำ ดังนั้นความประหยัดเชื้อเพลิงจึงถือเป็นจุดขายสำคัญของรถรุ่นนี้ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะประหยัดค่าน้ำมันเชื้อเพลิงเพียงอย่างเดียว แต่ค่าซ่อม ค่าอะไหล่ และค่าดูแลรักษาต่าง ๆ ไม่จัดว่าสูงมากนัก จึงถือเป็นรถสำหรับผู้ใช้ที่เน้นความประหยัด และใช้งานกันแบบสบายๆ