[ Review ] Maybelline White Superfresh

[ Review ] Maybelline White Superfresh

[ Review ] Maybelline White Superfresh
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เห้ยแก อากาศบ้านเรา ร้อนมากมายเลยใช่ป่ะ ออกไปข้างนอกแป๊บเดียวก็เหงื่อออก หน้ามัน หน้าหมอง ยังกะโดนของ โดนคุณไสย รองพื้นมาดีแค่ไหน เจออากาศบ้านเรา ก็พังพินาศ อยู่ดี ใครทำงานในห้องแอร์ก็สบายหน่อย แต่เมื่อตอนพักเที่ยงละ ถ้าต้องออกไปกินข้าว ไปเจอสภาพอากาศร้อน ๆ ถ้าไม่ร้อนก็ฝนตก คิดดูสิ หน้าหมอง หน้าคล้ำ หน้ามัน หน้าเลอะ หน้าเละ มันเกินบรรยายใช่ไหมล่ะ ทาง Maybelline เขาได้เล็งเห็นแล้วว่า คนไทย ประสบปัญหานี้มายาวนาน จึงได้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ให้กับเราโดยเฉพาะ แป้ง Maybelline White Superfresh นั้นได้ถูกเปิดตัวในเมืองไทยเป็นที่แรกด้วยนะคะ เป็นไง เห็นแล้วอยากรู้ใช่ไหม มันจะเลิศ มันจะเลอ มันจะเพอร์เฟค ขนาดไหน มาติดตามดูกันได้เลยค่ะ

 

 

ชื่อภาษาอังกฤษ :: Maybelline White Superfresh Long Lasting UV Cake Powder SPF34 PA+++

 

ชื่อภาษาไทย :: เมย์เบลลีน ไวท์ ซุปเปอร์ เฟรช ลองลาสติ้ง ยูวีเค้ก พาวเดอร์ เอสพีเอฟ 34 พีเอ+++

 

คุณสมบัติ :: ก้าวล้ำอีกขั้น ในการกำจัดเหงื่อ และความมันส่วนเกิน

 

แป้งทั่ว ๆ ไป ทำได้เพียงดูดซับเหงื่อและคราบมัน ทำให้ผิวหน้าดูมัน หมองคล้ำ แป้งพอกหนา ดูหนักหน้า ดูไม่สะอาด สดใส

 

ขอแนะนำ "คลีน-ทัช พาวเดอร์ ซิสเต็ม" อุดมไปด้วย มิเนอรัล เพอร์ไลท์ ที่ทำได้เหนือกว่าแป้งธรรมดา 5 เท่าในการดูดซับ ทำหน้าที่เสมือนกระดาษซับมัน จัดการเหงื่อและความมันส่วนเกิน ช่วยให้สีแป้งไม่เปลี่ยน ผิวหน้าดูเนียนกระจ่างใส

 

ผิวดูสว่างกระจ่างใส ไม่มันวาว และรู้สึกสดชื่น 12 ชั่วโมง

ให้การปกปิดยาวนาน ไม่มันวาว พร้อมปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสสม่ำเสมอในทันทีปกปิดทุกปัญหาผิว ให้ผิวดูสว่างกระจ่างใส เมคอัพติดทนนาน เนียนสวยสะอาดสดใส เสมือนแรกทา

 

 

แป้งมีทั้งหมด 4 เบอร์น่ะคะ

01 Light เป็นสีขาว เหมาะสำหรับคนผิวขาว ค่อนไปทางอมชมพู

02 Nude Beige เหมาะสำหรับคนผิวขาว ออกโทนเหลือง

03 Natural เหมาะสำหรับคนผิวคล้ำ โทนชมพู

04 Honey เหมาะสำหรับคนผิวคล้ำ โทนเหลือง

 

โดยส่วนตัวอั้มใช้เบอร์ 2 พอดีหน้ามาก ๆ ค่ะ

 

 

ปริมาณ :: 9 กรัม

ราคา เท่าที่ได้ยินมาเปิดตัว 249 บาท

วิธีการใช้ :: แตะแป้งด้วยพัฟที่ให้มาในตลับ แล้วเกลี่ย หรือ กดซับให้ทั่วใบหน้าและลำคอ สามารถใช้พัฟชุบน้ำหมาด ๆ มาทาก็ได้นะ ทำให้ติดทนนานขึ้น (แต่ต้องทาดี ๆ น่ะ เพราะมันจะหนากว่าเดิม)

 

 

 

 

แพคเกจด้านหน้า :: สีขาว ดูหรูหรา ดูสวยงาม ดูอินเตอร์ น้ำหนักกำลังดี แข็งแรง มาพร้อมกับกระจกที่ใหญ่พอดีกับตัวตลับ แค่ตัวตลับก็เลอค่าแล้วค่ะ

 

 

แพคเกจด้านหลัง :: ออกแบบมาเผื่อเวลาใช้พัฟแบบชุบน้ำ ก็มีรูระบายอากาศ กันพับอับชื้น พร้อมทั้งมีรูที่กดตัวแป้งออก สำหรับเติมขนาด รีฟิวด้วย

 

 

 

บรรจุภัณฑ์ :: มาในรูปแบบกล่องกระดาษสีขาว ตัดกับตัวอักษร สีดำ สีฟ้า ให้ความรู้สึกหรูหรา ดูสะอาดตามาก ๆ มาพร้อมกับรายละเอียดของแป้งแบบ 3 ภาษาเลยทีเดียว

 

 

เป็นการทดสอบ ในห้องทดสอบที่ทาง Maybelline เชิญไปทำการทดสอบนะคะ

โดยอุปกรณ์มีดังนี้ค่ะ 1. แป้ง Maybelline White Superfresh 2. แป้งแบรนด์อื่น 3. น้ำ 4. ทิชชู่

เริ่มการทดสอบด้วยวิธีการดังนี้

1. หยดน้ำลงบนแป้ง Maybelline White Superfresh เพียงแป๊บเดียว น้ำซึมลงไปในแป้งหมดเลยค่ะ 

2. ใช้ทิชชู่กดซับลงบนจุดที่ใช้น้ำหยดลงไป ถึงกับ "อมยิ้ม" เลยค่ะ ไม่มีแป้งติดมาเลยสักนิด

3. หยดน้ำลงบนแป้ง แบรนด์อื่น ๆ ซึ่งตอนหยดน้ำลงไป น้ำจับตัวเป็นก้อน ไม่ยอมซึมผ่านตัวแป้ง บางอันไหลลงมานอกแป้งก็มีค่ะ

4. ใช้ทิชชู่กดซับลงบนจุดที่ใช้น้ำหยดลงไป ถึงกับ "ตลึง" ค่ะ แป้งติดมากับทิชชู่จริง ๆ ด้ว

 

 

 

 

สรุปผลการทดลอง :: คงมีคนตั้งคำถามกันมาว่า น้ำไหลผ่านได้แล้วดียังไง ?? การที่น้ำไหลผ่านแป้งได้ แล้วใช้ทิชชู่ซับ แล้วไม่มีแป้งติดมากับทิชชู่ ข้อดีคือ เวลาเหงื่อเราออกมาก ๆ มันก็จะสามารถทะลุผ่านแป้งได้ พอเราใช้ทิชชู่ซับ เหงื่อเราก็จะออกไปกับกระดาษ แต่ตัวแป้งของเรา ก็จะไม่ติดไปกับกระดาษ ทำให้เราไม่ต้อง Tuchup บ่อย ๆ ค่ะ และจุดเด่นของแป้งตัวนี้คือ เมื่อ เหงื่อออก หรือ มีน้ำมันออกมาจากผิวหน้า ตัวแป้งเอง จะทำการดูดซับในทุก ๆ 15 นาที และแป้งตัวนี้ยังมาพร้อมการปกป้องแสงแดดที่ SPF34 PA+++ อีกด้วย

 

แต่การทดลองกับตัวแป้งเอง ก็ยังไม่เท่ากับการทดลองบนผิวจริง งั้นเรามาทดลองบนผิวจริง ๆ กันดูบ้าง

 

อั้มมาทดสอบประสิทธิภาพ โดยทดสอบจริงบนผิวเลยนะคะ โดยวิธีดังนี้ค่ะ

1. อั้มทาแป้ง Maybelline White Superfresh กับ แป้งแบรนด์อื่น ๆ ลงไปที่ท้องแขน

2. ใช้น้ำฉีดพรหมลงไปให้ทั่วบริเวณแป้งทั้ง 2 ตัว

3. ใช้กระดาษทิชชู่ซับ (สังเกตุได้ว่า ทิชชู่ยุ่ยเลย เพราะอั้มใช้น้ำพรหมอย่างเยอะ)

4. หงายกระดาษทิชชู่มาดู เห็นได้เลยว่า แป้งที่ติดออกมา เป็นแป้งของอีกแบรนด์หนึ่ง ส่วนของ Maybelline White Supderfresh ไม่มีติดออกมาด้วยเลยค่ะ ซ้ำแล้วแป้งยังติดเนียนแน่นอยู่อีกด้วย

 


 

 

หลังจากอั้มได้ทดลองใช้อยู่สักพัก ขอสรุปให้ฟังกันตรงนี้เลยนะคะ

- เหงื่อ  อั้มว่ามันเลิศมาก ปกติอั้มเหงื่อออกเยอะ เวลาซับหน้าแล้วก็ต้องมีเติมบ้างระหว่างวัน เพราะปกติอั้มไม่ค่อยได้ทาลองพื้นหรือบีบี นอกจากไปออกงาน หรือ มีความจำเป็นจริง ๆ อันนี้แทบไม่ต้องเติม แค่ใช้ทิชชู่ซับมันก็เนียนเด้งดังเดิมได้แล้วค่ะ ดังคำเคลมเลยค่ะ NoTouchup

- การเปลี่ยนสี แป้งไม่เปลี่ยนสีค่ะ สีปกติเหมือนเดิม ตลอดทั้งวัน

- ค่า SPF อั้มถือว่า ให้มาเยอะเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ เช่นรุ่น สีชมพู 

- ติดทนนาน อั้มว่าติดทนได้ในระดับดีทีเดียว คืออั้มพอใจอยู่ในระดับหนึ่ง

- การปกปิด ปกปิดได้ในระดับพอใช้ได้ คือรอยเบา ๆ เอาอยู่ ถ้ารอยหนัก ๆ แนะนำ ทาคอนซีลเลอร์ก่อนแล้วค่อยลงแป้งค่ะ แต่ถ้าใช้พัฟชุบน้ำมาหมาด ๆ แล้วค่อยทาแป้ง ก็จะได้ลุคที่เนียนกว่าปกติ แต่ก็เกลี่ยอยากอยู่พอสมควร 

- การควบคุมความมัน อั้มใช้แล้วหน้าก็ยังมันอยู่ ปกติใช้ตัวอื่น ประมาณ 3 ชั่วโมงก็มันแล้ว แต่ตัวนี้ยืดออกมาได้ ประมาณ 5 ชั่วโมงค่ะ (เฉพาะช่วง ทีโซน) แต่ต่างกันตรง ซับหน้าแล้วไม่ต้องเติมแป้งเพิ่มค่ะ แต่อั้มเวลาเหงื่อออก หน้ามัน ก็ซับหน้าอยู่นะ โดยรวมซับหน้าประมาณ 3 ชั่วโมงครั้งหนึ่ง แต่ถ้าลองปล่อยให้มันแบบไม่ซับหน้าเลย อั้มคิดว่า ต่อให้แป้งดีแค่ไหน รองพื้นเลิศขนาดไหน ก็คงเอาไม่ไหวหรอกค่ะ ส่วนตรงแก้มที่ไม่ใช่ ทีโซน ก็แทบไม่มัน และไม่ต้องซับหน้าเลยค่ะ

 

โดยรวมแล้วอั้มประทับใจแป้งตัวนี้มาก ๆ ค่ะ ใครที่มีปัญหาเหงื่อออกเยอะ อยากให้ลองตัวนี้ดูค่ะการทดลอง เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวของอั้ม ถ้ายังไงอยากให้ได้ทดลองด้วยตัวเอง เพราะสภาพผิวต่างกัน การดำเนินชีวิตต่างกัน ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตงต่างกันค่ะ

 

http://www.facebook.com/aumbellezza

IG :: aum_bellezza

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook