5 ข้อเสียของกางเกงสกินนี่ รู้ไว้ ทำลายสุขภาพมากกว่าที่คิด !
สาวๆ ที่รักการใส่กางเกงสกินนี่ แฟชั่นสุดอินเทรนต์แบบรัดแน่นทั้งหลาย รู้ไหมเอ่ยว่ากางเกงประเภทนี้ทำลายสุขภาพมากกว่าที่คิดซะอีก ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความอึดอัดในขณะสวมใส่เท่านั้น แต่ยังส่งผลเสียต่อร่างกายในด้านอื่นๆ จนน่าตกใจเลยทีเดียว ว่าแล้วมาดูกันดีกว่าว่า การใส่กางเกงสกินนี่ มีข้อเสียอย่างไรบ้าง
1.เกิดผื่นแพ้ได้ง่าย
เนื่องด้วยกางเกงสกินนี่ มีความรัดแน่นมากเกินไป จึงอาจกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวปล่อยสารฮิสตามีนออกมามากขึ้น ซึ่งเป็นสารที่จะทำให้ร่างกายของเราเกิดผื่นแพ้ได้ง่ายกว่าเดิม โดยเฉพาะผื่นลมพิษ ที่อาจก่อให้เกิดอาการเจ็บแสบและคันเป็นอย่างมาก แม้ไม่ได้อันตรายมากนัก แต่ก็สร้างความทรมานได้มากทีเดียว
2.ปวดหลังบ่อยๆ
การใส่กางเกงรัดแน่น จะทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวได้ไม่สะดวก ส่งผลให้หลังเกร็งบ่อยๆ และเกิดอาการปวดหลังได้ในที่สุด นอกจากนี้ก็อาจมีอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดชายโครงอีกด้วย ซึ่งก็สร้างความเจ็บปวดทรมาน ได้ไม่น้อยเช่นกัน
3.เสี่ยงติดเชื้อรา
เชื้อรา มักจะเกิดได้ง่ายในพื้นที่ส่วนต่างๆ ของร่างกายที่มีความอับชื้น ดังนั้นเมื่อสวมใส่กางเกงสกินนี่ที่มีความรัดแน่นเป็นเวลานาน ก็อาจก่อให้เกิดความอับชื้นจนติดเชื้อราได้เช่นกัน โดยลักษณะของเชื้อราจะเป็นผื่นๆ มีอาการแสบคัน และสามารถลุกลามได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อเป็นแล้วจะต้องใช้เวลาในการรักษานานพอสมควร
4.กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
หลายคนอาจงงว่าเกี่ยวกันด้วยหรอ ใช่แล้ว เพราะเมื่อใส่กางเกงสกินนี่ที่รัดแน่นนานเกินไป จะทำให้เชื้อโรคจากทวารหนักและช่องคลอดปนเปื้อนเข้าไปในรูปัสสาวะได้ ทำให้เกิดอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบในที่สุด นอกจากนี้ในบางคนก็อาจรุนแรงถึงขั้นกรวยไตอักเสบเลยทีเดียว ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็เสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้
5.เสี่ยงช็อกโกแลตชีสต์
ในขณะมีประจำเดือน การใส่กางเกงสกินนี่ จะทำให้เลือดประจำเดือนไหลออกมาไม่สะดวก และอาจไหลย้อนกลับเข้าไปในโพรงมดลูก จนเสี่ยงต่อการเป็นช็อกโกแลตชีสต์ได้ นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการหมักหมมของเชื้อโรคมากกว่าปกติถึง 2 เท่า ซึ่งก็มีความอันตรายมากทีเดียว ดังนั้นช่วงมีประจำเดือนไม่ควรใส่กางเกงสกินนี่เด็ดขาด
น่าตกใจไม่น้อยเลยใช่ไหมเอ่ย กับข้อเสียที่เกิดจากการใส่กางเกงสกินนี่ แม้จะเป็นแฟชั่นที่อินเทรนต์และฮอตฮิตมากแค่ไหน แต่หากรักสุขภาพล่ะก็ ควรเลี่ยงการใส่กางเกงสกินนี่หรือใส่ให้น้อยลงกว่าเดิมจะดีกว่า เพื่อจะได้ไม่เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพเหล่านี้นั่นเอง
ขอบคุณภาพประกอบจาก : pexels.com