คนท้องมีอาการเจ็บหน้าอก เช็คสิ! เป็นเพราะอะไร?

คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์หากมีอาการเจ็บหน้าอก อาจมีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเจ็บขึ้นมา ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า อาการเจ็บหน้าอกที่เกิดขึ้นนั้น มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้างและมีแนวโน้มว่าจะเกิดความรุนแรงหรือไม่

1. ความเครียด

ในขณะที่คนท้องมีความเครียด จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในร่างกาย และอาจเกิดอาการตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ซึ่งจะทำให้มีอาการเจ็บหน้าอกตามมาได้ เพราะฉะนั้นคนท้องต้องพยายามหาเวลาพักผ่อนหย่อนใจ เพื่อคลายความเครียดให้ลดน้อยลงไป โดยนอกจากจะช่วยลดอาการเจ็บหน้าอกได้ดีแล้วยังส่งผลดีต่อลูกในครรภ์อีกด้วย

2. กรดไหลย้อน

อาการกรดไหลย้อนในคนท้องเกิดจากฮอร์โมนในร่างกายสูงขึ้น จึงไปกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหูรูดที่กระเพาะอาหารคลายตัว ส่งผลให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมาทางหลอดอาหารได้ง่ายกว่าช่วงปกติ ซึ่งก็จะทำให้มีอาการแสบร้อนกลางอก เรอเหม็นเปรี้ยว และร้อนในคอร่วมด้วย โดยหากใครที่มีอาการเจ็บหน้าอกร่วมกับอาการเหล่านี้ ก็สันนิษฐานได้เลยว่าอาจจะเป็นเพราะกรดไหลย้อนก็ได้

3. ติดเชื้อทางเดินหายใจ

อาการเจ็บหน้าอกของคนท้อง มักพบบ่อยว่าเกิดจากการติดเชื้อทางเดินหายใจ และถ้าหากมีอาการรุนแรง ย่อมหมายถึงเชื้อได้ลุกลามไปยังปอดแล้ว ทำให้การหายใจลำบากและเจ็บหน้าอกเวลาหายใจเข้าออก ซึ่งก็เป็นสาเหตุที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เพราะอาจส่งผลอันตรายไปถึงลูกน้อยในครรภ์ได้นั่นเอง

4. อาการหอบหืดกำเริบ

คุณแม่ที่มีอาการภูมิแพ้เกี่ยวกับโรคหอบหืด ต้องระวังอาการจะกำเริบ ซึ่งทำให้มีอาการเจ็บหน้าอกกับการหายใจหอบถี่ โดยบางครั้งอาจรุนแรงและส่งผลต่อลูกในครรภ์ได้ ดังนั้นคุณแม่ที่มีประวัติเป็นโรคหอบหืด อย่าได้ชะล่าใจกับอาการเจ็บหน้าอกเลยเชียว

5. หัวใจวายเฉียบพลัน

อาการหัวใจวายเฉียบพลันในคนท้องนั้น เกิดขึ้นไม่บ่อยแต่ไม่ควรมองข้าม โดยอาการที่แสดงให้เห็นคือเจ็บหน้าอก ปวดศีรษะ แขนขาชา เหงื่อออก และหายใจติดขัด ซึ่งเมื่อมีอาการแบบนี้ ก็ควรไปหาหมอโดยด่วน เพราะอาจอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตทั้งแม่และลูกได้เลยทีเดียว

ทราบกันแล้วว่าอาการเจ็บหน้าอกในคนท้องเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้างบ้าง ดังนั้นควรเช็คความผิดปกติที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อมีอาการเจ็บหน้าอก โดยควรหาสาเหตุให้ได้ว่าเป็นเพราะอะไรเพื่อจะได้เตรียมรับมือและทำการรักษาได้ทันนั่นเอง แต่หากไม่รู้ว่าอาการเจ็บหน้าอกที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ ก็ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน ก่อนจะสายเกินไป