จริงหรือไม่? กินไข่ ทำให้เป็นแผลเป็น-แผลนูน?

จริงหรือไม่? กินไข่ ทำให้เป็นแผลเป็น-แผลนูน?

จริงหรือไม่? กินไข่ ทำให้เป็นแผลเป็น-แผลนูน?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินมาก่อน ว่าอย่าเพิ่งทาน “ไข่” หลังจากเป็นแผล หรือเพิ่งผ่าตัดเพราะจะทำให้เป็นแผลเป็น หรือเป็นแผลนูน ไม่เรียบเนียนสวย ยิ่งไปกว่านั้นญาติของเราเคยเตือนว่า ทานไข่แล้วแผลจะเป็นหนองอีกด้วย ความเชื่อเรื่องนี้เป็นความจริงหรือไม่ ไปหาคำตอบกัน

ไข่ = โปรตีน

ถ้าใครที่เรียน กพอ. กันมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วลองคิดตามดันดูดีๆ น่าจะเข้าใจกันได้ง่ายๆ ว่าหน้าที่ของโปรตีนมันคืออะไร? โปรตีนช่วยเสริมสร้างส่วนที่สึกหรอในร่างกายนั่นเอง ทั้งสร้างเนื้อเยื่อ และเป็นส่วนประกอบของเม็ดเลือดแดง ที่จะนำพาเอาออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงตามส่วนต่างๆ ของร่างกายอีกด้วย ดังนั้นถ้าเราเป็นแผล เนื้อเยื่อของผิวหนังถูกทำลาย ก็ต้องทานโปรตีนเพื่อเสริมสร้างเนื้อเยื่อให้กลับมาฟื้นฟูเร็วๆ ไม่ใช่เหรอ?

เป็นแผล ห้ามทานไข่?

ความเชื่อเรื่องนี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด การทานไข่ไม่ได้ทำให้เป็นแผลเป็น เป็นแผลนูน หรือเป็นหนองแต่อย่างใด แต่ยังจะทำให้แผลหายได้เร็วยิ่งขึ้นอีกต่างหาก

 woundiStock

 

แผลเป็นนูน เกิดจากอะไร?

สาเหตุที่ทำให้เป็นแผลนูนนั้นยังไม่มีคำอธิบายที่ขัดเจน แต่มีการสันนิษฐานว่า อาจเป็นแผลที่เกิดในตำแหน่งที่ผิวหนังมีความตึงมากๆ บริเวณข้อต่ออย่างหัวเข่า ข้อศอก หัวไหล่ หรือกลางหน้าอก นอกจากนี้ยังมีแผลเป็นนูนอีกประเภทหนึ่งที่โตเกินขอบเขตของแผลเดิมไปมาก เราเรียกว่า แผลเป็นคีลอยด์ ที่มักเกิดขึ้นกับผู้ป่วยที่มีสีผิวเข้ม เกิดขึ้นในตำแหน่งหัวไหล่ ติ่งหู กลางหน้าอก หรืออาจเป็นพันธุกรรมจากพ่อแม่

การนวดในบริเวณรอบๆ แผล หลังจากแผลหายสนิทราวๆ 3-6 เดือนแรก ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็นนูนได้ แต่ถ้าเป็นแผลขนาดใหญ่ หรือนวดได้ลำบาก อย่างแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก อาจจะต้องใช้เครื่องมือพิเศษอย่าง ผ้ารัด เป็นต้น หากกังวลว่าแผลจะเป็นแผลเป็น สามารถขอคำแนะนำจากแพทย์ที่รักษาแผลให้ได้

วิธีดูแลรักษาแผล ลดการเป็นแผลเป็น

  1. รักษาความสะอาดของแผลและผิวหนัง
  2. เมื่อแผลแห้งแล้ว ควรเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวที่สร้างใหม่ด้วยการทาโลชั่นหรือครีมเพื่อลดอาการคัน
  3. ใช้มือถูวนเบาๆ เพื่อนวดบริเวณแผลเป็น
  4. ไม่ควรเกา หรือถูบริเวณที่มีอาการคันเพราะอาจทำให้ผิวหนังถลอกและติดเชื้อได้
  5. ป้องกันผิวที่สร้างใหม่จากการกระแทกหรือเสียดสี โดยสวมเสื้อผ้าปกคลุมหรือพันผ้ายืดไว้ตลอดเวลายกเว้นขณะอาบน้ำเพื่อลดอาการบวมและลดการเกิดแผลเป็นนูน
  6. หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรง

นอกจากจะทานไข่ได้แล้ว ยังควรทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ตามปกติ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้ครบทุกด้านด้วย แต่สามารถเน้นไปที่โปรตีนอย่างไข่ นม ถั่ว และผักผลไม้ เพื่อให้แผลหายเร็วๆ ได้ค่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook