"กลากน้ำนม" โรคผิวหนังพบบ่อยในเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้จัก

"กลากน้ำนม" โรคผิวหนังพบบ่อยในเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้จัก

"กลากน้ำนม" โรคผิวหนังพบบ่อยในเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้จัก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลายท่านคงเคยได้ยินชื่อ “โรคกลากน้ำนม” กันมาบ้างแล้วใช่ไหมคะ เชื่อว่ายังมีอีกหลายคนโดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่ที่มีลูกน้อยอาจไม่รู้จักว่ากลากน้ำนมแท้จริงแล้วเกิดจากอะไรกันแน่ เพราะมักเข้าใจผิดคิดว่าเป็นอาการหนึ่งของ โรคกลากเกลื้อน แต่ในความเป็นจริงแล้วเกิดจากความผิดปกติทางผิวหนังที่เกิดจากการลดจำนวนของเม็ดสีนั่นเอง บทความนี้ Hello คุณหมอ จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ กลากน้ำนม ให้มากขึ้น

กลากน้ำนม (Pityriasis Alba) โรคผิวหนังที่เกิดขึ้นกับลูกคุณ

โรคกลากน้ำนม (Pityriasis Alba) เกิดจากความผิดปกติทางผิวหนังที่ทำให้เม็ดสีผิวในผิวหนังมีจำนวนลดลง โดยไม่ทราบสาเหตุ ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับเด็กที่มีอายุระหว่าง 6-12 ปี

อาการของกลากน้ำนมนั้น คุณพ่อคุณแม่จะสังเกต สีผิวบริเวณนั้นได้ว่าจะเป็นลักษณะวงด่างๆ โดยอาจจะมีสีชมพูหรือสีแดง นอกเหนือจากนี้ ยังมีลักษณะเป็นขุยแห้งและตกสะเก็ด ส่งผลให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง มักเกิดขึ้นบริเวณ ใบหน้า ต้นแขน คอ หน้าอก เป็นต้น

ลูกฉันเป็น "กลากน้ำนม" ได้อย่างไร?

โรคกลากน้ำนม จัดอยู่ในโรคภูมิแพ้ผิวหนังชนิดหนึ่ง (Atopic dermatitis; AD) แต่ยังไม่มีการระบุที่แน่ชัดว่าโรคกลากน้ำนมเกิดจากสาเหตุอะไร โดยกลุ่มเสี่ยงดังต่อไปนี้ มักมีโอกาสเป็นกลากน้ำนม

  • เด็กที่มีประวัติเคยเป็นโรคภูมิแพ้ หรือมีการอักเสบที่ผิวหนัง
  • เด็กที่มีอายุระหว่าง 6-12 ปี
  • เด็กที่อาบน้ำอุ่นบ่อยๆ หรือ โดนแดดบ่อย โดยไม่ทาครีมกันแดด

โรคกลากน้ำนมรักษาได้ไม่ต้องกังวล

โรคกลากเกลื้อน หรือ โรคกลากน้ำนม สามารถหายเองได้โดยไม่ต้องรับการรักษา แต่อาจต้องใช้ระยะเวลานานพอสมควรกว่าจะกลับมาเป็นปกติ อย่างไรก็ตามคุณพ่อคุณแม่ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกลากน้ำนม นอกจากนี้แพทย์อาจแนะนำมอยส์เจอไรเซอร์หรือครีมทาผิวหนังเพื่อบรรเทาอาการกลากน้ำนมให้หายไวยิ่งขึ้น ดังนี้

  • ครีมไฮโดรคอร์ติโซน (Hydrocortisone) หากมีอาการคันเพียงใช้ครีมไฮโดรคอร์ติโซน 1% สามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายยาทั่วไป  (ข้อแนะนำ: ก่อนการใช้ยานี้ในเด็ก คุณพ่อคุณแม่ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อน) ตัวยาไฮโดรคอร์ติโซนมีสรรพคุณช่วยลดการคัน การอักเสบที่ผิวหนัง ห้ามทาบริเวณรอบดวงตาหรือบนเปลือกตาเพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและไม่ควรใช้ติดต่อกันนานกว่า 4 สัปดาห์ นอกจากจะได้รับคำแนะนำจากแพทย์
  • มอยส์เจอไรเซอร์ เพื่อเพิ่มความนุ่มชุ่มชื่นให้กับผิวหนัง ลดการอักเสบ การระคายเคือง ยาทาผิวหนัง เช่น ยา Protopic® และ ยา Elidel®  เป็นยาทาแก้แพ้ที่ไม่มีสารสเตียรอยด์ แพทย์อาจแนะนำให้ใช้คู่กันใช้บรรเทาอาการแพ้ผิวหนัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook