เที่ยว Daegu สวยไม่แพ้เมืองโซล @เกาหลีใต้
คุ้มค่าตื่นทริปนี้ ยังคงอยู่ที่เมืองแดกู เมืองใหญ่ อากาศดี ที่ถูกล้อมรอบด้วยท่ามกลางขุนเขา และธรรมชาติสวยงามสุดๆ เป็นจุดบรรจบของวัฒนธรรม มีความทันสมัย และนี่คือการ “เมืองท่องเที่ยวแห่งใหม่ ที่ทุกคนจะหลงรักแน่นอน"
เริ่มทริปในวันนี้เรามากันที่ “Palgongsan Cable Car” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมืองพัลกงซาน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทิวเขาแทแบ๊ค (Taebaek) เป็นทิวเขาที่ลากยาวตั้งแต่พื้นที่ในเกาหลีเหนือมาถึงเกาหลีใต้ คนแดกูจะชอบมาเดิน มาปีนเขากันที่นี่เป็นประจำ และในช่วงทุก ๆ ต้นถึงกลางเดือนเมษายน เขาก็จะจัดงานเทศกาลดอกพ๊อตกต หรือ Palgongsan Cherry Blossom Festival ที่จัดเป็นประจำทุกปีเลย
ตรงจุดนี้เราสามารถนั่งเคเบิลคาร์ขึ้นไปชมวิวเขาพัลกงซานจากด้านบน อิ่มเอมกับบรรยากาศดี ๆ ของที่นี่ ส่วนค่าขึ้นเคเบิลคาร์ก็ไม่แพง ไป-กลับ ประมาณ 9,000 วอนเท่านั้นเองค่ะ หรือตีเป็นเงินไทยประมาณ 240 บาท (ขึ้นอยู่กับค่าเงินในช่วงนั้นด้วยนะคะ) เมื่อขึ้นไปแล้วก็เห็นวิวสวย ๆ ของเขาพัลกงซาน ยิ่งในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี จะเห็นใบไม้สีเหลือง สีแดง เต็มเขาไปหมด พอขึ้นไปถึงด้านบนจะเจอหิน Wish Rock ที่คนเกาหลีเค้าจะมาขอพรกันที่นี่ วิวจุดถ่ายรูปด้านบน ก็มีคนเอากุญแจมาคล้องกันเหมือนที่โซลทาวเวอร์ด้วยนะ
ส่วนด้านบนจะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟไว้รองรับนักท่องเที่ยวด้วย มีร้านบะหมี่เย็นที่มาถึงแล้วต้องลองสักครั้ง บอกเลยว่า เส้นเหนียวนุ่ม ซุปหวานหอมสุด ๆ เป็นอะไรที่เข้ากัน ถือว่าเป็นอีกเมนูที่รองท้องได้ด้วย
เดินทางไปต่อกันที่หมู่บ้านประวัติศาสตร์ “Andong Hahoe Folk Village” หรือหมู่บ้านโบราณ ฮาฮเว เป็นหมู่บ้านที่ได้รับการอนุรักษ์อาคารสิ่งปลูกสร้างสถาปัตยกรรมที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ตามแบบสมัยโชชอน และ หมู่บ้านนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ปี 2010 อีกด้วย ภายในหมู่บ้านนี้มีบ้านรวมกันประมาณ 120 หลัง มีทั้งแบบ บ้านดินหลังคาฟาง เเละหลังคากระเบื้อง ซึ่งหลังคาบ่งบอกถึงสถานะว่าเป็นชนชั้นสูงก็หลังคากระเบื้อง ส่วนชนชั้นทั่วไปก็หลังคาฟาง และบางหลังมีอายุมากกว่า 600 ปีตั้งเเต่สมัยโชซอนเลยนะ แต่ที่นี่ยังรักษาไว้ในสภาพที่ดีมากๆ และประมาณ 70% เป็นคนในเชื้อสายเดียวกัน นามสกุลเดียวกัน
ด้านข้างซ้ายของหมู่บ้านแห่งนี้ เป็นแม่น้ำที่มีความยาวที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ เป็นอะไรที่สุดยอดมาก ๆ พร้อมกับแนวต้นสนที่เป็นหนึ่งในสมบัติของวัฒนธรรม เดินเข้ามาในหมู่บ้านจะเจอกับต้นไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในหมู่บ้าน ที่มีความเชื่อว่า มีเทวดาที่อยู่ในต้นไม้ ที่สามารถขอพรแล้วสมหวัง ใครที่ไปเที่ยวก็อย่าลืมเขียนคำขอพรด้วยล่ะ แล้วในทุกๆ เดือนกุมภาพันธ์ เขาก็จะมีพิธีการเผาโซจิ เพื่อให้คำขอพรนั้นเป็นจริง
ลุยกันต่อกับกิจกรรมแอดเวนเจอร์ กับที่นี่เป็นหนึ่งในสนามที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ “Daegu Shooting Range” ที่นี่มีหลากหลายกิจกรรมให้เลือกเล่น จะเล่นเป็นทีมกับเพื่อนๆ กับครอบครัว หรือจะออกแนวจริงจัง เขาก็มีเป็นสนามจริงให้ลองฝึก และมีระยะการยิงที่หลากหลาย อุปกรณ์ของที่นี่คือมีมูลค่าด้วยนะ ชุดนึงต่อคนประมาณ 2 แสนบาทเลยจ้า เรียกว่าจริงจังจริงจริ๊ง และ safety ด้วย
มาเกาหลีใต้ เราก็ต้องไม่พลาดเรื่องคอสเมติกของที่นี่ “SKYLAKE” เป็น Cosmetic Workshop พร้อมด้วยเครื่องสำอางที่มาจากธรรมชาติ ใครที่มาที่นี่สามารถมาทำเครื่องสำอางได้ ครั้งนี้เราเลยลองทำมาร์กหน้า ที่เป็นสูตรของตัวเอง เรียกว่ามีเหมือนมีแบรนด์เครื่องสำอางค์เป็นของตัวเองเลยจ้า
เรื่องความสวยความงามไปแล้ว มาช้อปกันบ้างจ้า ที่เมืองแดกู เขาก็มีแหล่งช้อปปิ้ง Outlets นะจ๊ะ “Lotte Outlets Shopping Mall สาขา Esiapolis” จุดนี้เป็นเมืองใหม่ของแดกู ออกมาจากใจเมืองเดิมสักหน่อย ที่นี่มีคอนเซ็ปต์แบบครอบครัว ที่เด็กๆ สามารถวิ่งเล่นได้ ส่วนพ่อแม่ก็เดินช้อปปิ้งซื้อของกันไป ส่วนพื้นที่จะประกอบด้วยศูนย์การค้า, โรงละคร, สวนสนุกสำหรับเด็ก, สวนสวยสำหรับพักผ่อน และห้องพัก ต้องบอกว่ามาที่เดียวครบจบทุกอย่างเลยค่ะ
ทริปหน้าเรายังคงอยู่ที่เกาหลีใต้กันต่อ บอกเลยว่าเที่ยวแดกู แค่วัน สองวันยังไม่หมดแน่นอน มาต่อกันสัปดาห์หน้า อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ
อย่าลืมติดตามชมได้ใน รายการMake Awake คุ้มค่าตื่น ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 22.45 ทางช่อง Workpoint