Mio Food&Art ลองชิมสเต็กเนื้อโคขุนจากมหาสารคามที่ถูกปรุงแต่งด้วยรสชาติแบบ Italian
วันนี้ Sanook! Travel มีร้านอาหารสไตล์อิตาเลียนมาแนะนำสำหรับคนที่กำลังมองหาร้านอาหารอิตาเลียนสำหรับมื้อพิเศษของคุณกันอยู่ Mio Food&Art ร้านอาหารอิตาเลียนที่มีสไตล์และคอนเซ็ปต์เหมือนกับ Art Gallery ในย่านทองหล่อ ที่นี่ตั้งอยู่ในโครงการ Alcove สุขุมวิท 53 อยู่ริมถนนหาได้ไม่ยาก
ก้าวแรกที่เข้ามาในร้านคุณจะสัมผัสได้เลยว่าที่นี่คือศูนย์รวมแห่งงานศิลปะที่นำมาบรรจบกับอาหารได้อย่างลงตัวจริงๆ ตามผนังจะมีรูปวาดรวมถึงผลงานศิลปะหลายสิบชิ้นประดับประดาเอาไว้เป็นสัดส่วนอย่างสวยงาม ซึ่งทางร้านนั้นมีด้วยกันทั้งหมด 2 ชั้นให้ลูกค้าสามารถเลือกนั่งทานกันได้ตามใจชอบ แต่ทั้งสองชั้นนั้นก็จะมีผลงานศิลปะให้ได้ดื่มด่ำกันในทุกมุม ถูกใจคนที่ชอบเสพงานศิลปะแน่นอน
ในส่วนของเมนูอาหารนั้น ที่นี่จะเน้นเป็นอาหารสไตล์อิตาเลียนแท้ๆ ที่ถูกสร้างสรรค์โดยเชฟอันโตนิโอ แฟคชิเนติ หัวหน้าเชฟชาวอิตาลี มาดูกันว่าที่ร้านนั้นมีเมนูอะไรน่าสนใจกันบ้าง
1.Organic Cold Cuts (Saleme,Prosciutto,Spalla Cruda)
เริ่มต้นด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยอย่าง Cold Cuts 3 อย่าง ซึ่งถือเป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านที่มาแล้วต้องสั่ง ทางเชฟจะทำการหั่น Cold Cuts สดๆ ในแต่ละส่วน เสิร์ฟมาให้เราทานพร้อมกับมะกอกดอง รสชาติของ Cold Cuts แต่ละตัวนั้นค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากๆ ส่วนตัวเราจะชอบ Saleme มากที่สุด โดยรวมแล้วจานนี้เรียกได้ย่อยได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
2.Imported Burrata, Vine Tomatoes, Culatello
เมนูชีสบูราสต้า ที่ทางร้านใส่มาให้จัดเต็มทั้งลูก รสชาติเค็มๆ มันๆ ทานคู่กับมะเขือเทศที่มีรสเปรี้ยว เป็นอีกหนึ่งเมนู Starter ที่อร่อยเลยทีเดียว
3.Paccheri Squid Ink, Garlic, Chili, Roasted Octopus
มาต่อกันที่เมนูพาสต้า กับพาสต้าเส้น Paccheri Squid Ink เส้น Paccheri นำไปคลุกเคล้ากับน้ำหมึก จนมีสีดำ และรสชาติที่เข้มข้นเพิ่มมิติขึ้น ผสมคลุกเคล้ากับกระเทียมพริกและเครื่องเทศต่างๆ ใส่หนวดปลาหมึกยักษ์มาเพิ่มเทคเจอร์ ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันได้เป็นอย่างดี เป็นหนึ่งในเมนูที่เราชอบมาก แนะนำหากมาแล้วต้องสั่ง!
5.Costata (Prime Rib 500gr.)
มาถึงเมนูซิกเนเจอร์ของเราในวันนี้ กับสเต็กเนื้อโคขุนส่วน Prime Rib ซึ่งเราทานไปตอนแรกยังไม่รู้ข้อมูลใดๆ ต้องบอกเลยว่าสัมผัสแรกคือความนุ่มละมุนในระดับหนึ่งแต่ยังไม่ถึงขั้นหายละลายไปในปาก ยังพอมีความเหนียวให้เคี้ยวสู้ฟันอยู่บ้าง แต่เรื่องของกลิ่นและรสชาตินั้นถือว่าเข้มข้นมากๆ มีรสสัมผัสที่ชุ่มฉ่ำ ซึ่งทำให้คิดในใจว่านี่ต้องเป็นเนื้อ Import จากที่ไหนสักแห่งแน่นอน
แต่เมื่อได้รู้ข้อมูลของอาหารจานนี้จากทางเชฟแล้วถึงกับเปิดโลกให้กับเราในทันที เพราะสเต็กเนื้อจานนี้เป็นเนื้อที่ส่งตรงมาจากจังหวัดมหาสารคามนั่นเอง โดยเป็นเนื้อวัวพันธ์ Black Angus ที่ถูกเพาะเลี้ยงในเมืองไทยที่จังหวัดมหาสารคาม เรียกได้ว่าปัจจุบันนี้เนื้อไทยนั้นมีคุณภาพและรสชาติที่อร่อยมากๆ ไม่แพ้กับเนื้อจากประเทศอื่นๆ เลย จานนี้ทำให้เราประทับใจมากๆ ที่ได้ทานเนื้อไทยที่มีคุณภาพและอร่อยขนาดนี้
6.Tiramisu
ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวานหลังเมนคอร์สอย่างทีรามิสุ ที่ถูกเสิร์ฟออกมาได้อย่างมีไอเดียสมกับการตกแต่งร้านในสไตล์ Art Gallery โดยใส่ถ้วยทีรามิสุมาในกระถางต้นไม้และตกแต่งด้านหน้าได้อย่างสวยงาม เนื้อทีรามิสุมีความนุ่มละมุน เทคเจอร์เหมือนกับทาร์ตไข่เลยทีเดียว เป็นอีกหนึ่งเมนูที่อร่อยและปิดท้ายมื้ออาหารนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
โดยรวมแล้ว Mio Food&Art ถือได้ว่าเป็นร้านอาหารอิตาเลียนที่มีจุดเด่นและคอนเซ็ปต์อย่างชัดเจน มีการนำวัตถุดิบจากประเทศไทยมาเป็นจุดขายได้อย่างน่าสนใจ หากใครมองหาร้านอาหารอิตาเลียนที่มีคุณภาพแบบนี้อยู่ Sanook! Travel ขอแนะนำที่นี่เลยครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม
ที่ตั้ง Mio Food&Art : โครงการ Alcove สุขุมวิท 53 เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
ติดต่อ : 02 258 5516
เวลาเปิด - ปิด : 11.30 - 23.00 น.
อัลบั้มภาพ 30 ภาพ