FARM TO TABLE : ออร์แกนิกส์คาเฟ่เล็กๆ ที่ซ่อนตัวในพระนคร I Eater ปุ๋ย (@palouis)
พื้นที่ไม่เกิน 35 ตารางเมตรของร้าน FARM TO TABLE ถูกออกแบบอย่างดีจนได้กลิ่นอายของใบไม้ใบหญ้า รายละเอียดเล็กๆ ในร้านเรียกได้ว่าทำมาดี ฟุ้งฝันซีเปียและแสนอบอุ่นแบบเอิร์ทโทน
เหตุเกิดจากเป็นคนคลั่งอาหาร Organics ร้านอะไรที่ออกแนว Organics ดิฉันขอไปตำ – คือขอไปกินสักจาน ร้านนี้ไม่ได้อยู่ใกล้บ้านเลยค่ะ ลางานไปค่ะ คนเราจะกินต้องเสียสละนะคะ – ไปค่ะ เปิด google map แล้วให้พี่แท็กซี่พาไปกัน
ในร้านมีมุมที่จัดได้สวยและเป็นธรรมชาติมาก คือ ส่วนของฝาผนังที่นำกรอบรูปหลากหลายแบบมาผสมผสาน กลายเป็นลายที่ดูมีลุคคลาสสิคและมีเสน่ห์
มีโต๊ะไม้อยู่ 3 โต๊ะเล็กๆ ทำด้วยไม้วางพาดบนจักรถีบ มีหมอนอิงสีเขียวและลาย Polka dot ทางร้านแถลงว่าแฮนเมดเย็บเอง ดูจากวิธีการแล้วน่าจะด้นถอยหลังค่ะ (วิชา กพอ. ตอน ป.4 บอก) และจานชามที่ใช้ก็เป็นเซรามิคสวยงามอบอุ่นจากเชียงราย
เมนูอาหารวันที่ไปมีอยู่ 2 อย่าง คือข้าวแกงกะหรี่และข้าวน้ำพริกอ่อง (จานละ 75.-) สั่งมาทั้ง 2 อย่างเลย ลางานมาแล้วอย่าให้เสีย เพิ่มไข่ยางมะตูมด้วย (ฟองละ 12 .-) เมนูขนมและเครื่องดื่มอื่นๆ ก็หลากหลายน่าอร่อยทั้งนั้นค่ะ
เมนูทั้ง 2 จานจะถูกเสิรฟมาพร้อมกับผักออร์แกนิคนะคะ รสชาติอาหารสำหรับคนทานอาหารแนว Healthy จะรู้สึกได้ว่ากลมกล่มกำลังดี ออกแนวโฮมเมดเหมือนเราทำทานที่บ้าน แต่ติดใจอยู่นิดนึงค่ะ ถ้าทางร้านใช้ข้าวกล้องแทนข้าวขาวจะให้คะแนนเต็มมากกว่านี้ ความเป็น Organics Cafe หรือร้านอาหารแนวสุขภาพจะแข็งแรงและชัดกว่านี้
จานแรก : ข้าวแกงกะหรี่ไข่ยางมะตูม – แม้ว่าแกงกะหรี่จะไม่ใช่อาหารที่ Healthy อันดับต้นๆ แต่ร้านนี้เค้าทำมาดีค่ะ อร่อยแบบ lightๆ
จานที่ 2 : ข้าวน้ำพริกอ่อง อันนี้อร่อยเลอค่าเลยค่ะ น้ำพริกอ่องคลุกมากับเห็ด ไม่มันเลย รสชาติกำลังดี
มาถึงของหวานกันบ้างค่ะ สั่งพุดเดิ้ล เอ้ย พุดดิ้งชาเชียว (90.-) มาลองกิน ไอติมที่เลือกก็ชาเขียวค่ะ ตอนเสิรฟเค้าแปะถั่วแดงเท่าครึ่งเหรียญสลึงแห่งกรุงรัตนโกสินทร์มาให้ด้วย หายใจทีเดียวถั่วแดงระเหยแล้วล่ะ
สีของพุ้ดดิ้งสวยงาม แยกเป็นชั้นๆ ไอศครีมโฮมเมดดูน่ากิน ส่วนรสชาติ คือ ประทับใจมากกกกก เพราะปกติเวลาทานไอศครีมมันจะออกแนว Creamy ครีมๆ มันๆ แต่ไอศครีมที่นี่ไม่ใช่ค่ะ มันจะเป็นเกล็ดๆน้ำแข็งละเอียดแต่ยังมีครีมนิดๆ และความเข้มข้น รสชาติ เต็มร้อย แต่สำหรับเราจะหวานไปนิดนึงนะคะ (คนอื่นๆ อาจจะพอดีค่ะ)
อาจเป็นเพราะไอติมที่นี่เค้าเน้นให้ดีกับสุขภาพค่ะ ไม่ได้ผสมกลิ่นรสเลย จะเลือกใช้วัตถุดิบออร์แกนิก ทางร้านทำมาแล้วกว่า 30 รส แต่ละวันก็จะมีรสชาติให้เลือกประมาณ 10 เช่น มะเขือเทศเชอร์เบท รสแครอทครีมชีส ชาเขียว ช็อกโกแลต หรือรสต่างๆตามเทศกาล อย่างช่วงที่ไป หน้าร้อนแบบนี้ก็มีมะม่วงค่ะ
ต่อกันที่เครื่องดื่ม : กาแฟอเมริกาโน่ ซึ่งทางร้านไม่มีน้ำตาล equal ค่ะ (ถ้าร้าน healthy บางร้านจะมีนะ เพราะรู้ว่าคนมาร้านเป็นพวกเยอะ เดี๋ยวหวานน้อย เดี๋ยวลดนู่นนี่) เมนูนี้ราคาดีค่ะ 45.-
น้ำส้มบ้าง 45.- เท่ากัน ถามพนักงานว่าส้มแท้มั้ยคะ พนักงานก็บอกไม่รู้เพราะเค้าทำมาสำเร็จ น่าจะแท้ค่ะ สั่งมาแก้วนึง – Feeling เหมือนดูดมินิเมดแล้วมีเกล็ดส้มรำไรที่ปลายลิ้น (รายได้ส่วนหนึ่งของเครื่องดืม ช่วยเหลือเด็กๆ ที่ด้อยโอกาสด้วย)
ด้วยร้านที่เล็ก คนจึงเต็มแน่นตลอดทุกนาทีทุกที่นั่ง คนเริ่มมาเยอะเรื่อยๆ เราโดนเบียดไปนั่งข้างศาลเจ้าติดผนังร้านค่ะ กราบค่ะ งามๆ แล้วกินต่อ ร้านจุคนได้แบบไม่เกิน 1 โหล โดยรวมแล้วประทับใจร้านที่ความอบอุ่นน่ารัก และความเป็นธรรมชาติ การตกแต่งร้านสวยในพื้นที่จำกัดค่ะ ราคาอาหารดีงามตามท้องเรื่อง ไปแล้วอยากไปอีกนะ อยากลองขนมเมนูอื่นๆ อีก
พิกัด ร้านอยู่ใกล้ๆ ปากคลองตลาด ตึกเก่าคลาสสิคบนถนนอัษฎางค์ ตรงข้ามกรมที่ดิน ถ้าอยากขับรถมามีเค้ามีที่จอด2 คัน (กรุณาพกกุมารมาด้วย) ถ้าไม่คิดมาก สาย 8 รถเมล์เจ้าถิ่นแร็พโย่ก็ขับผ่านค่ะ (สาย 8 ก็ต้องพกกุมารแถมพระปลุกเสกมาด้วย)
ชอบเรื่องที่ปุ๋ยเขียน #ฝาก Like ด้วยนะคะ จะได้มีกำลังใจเขียนต่อไป <3
Facebook:
https://www.facebook.com/palouis