10 ข้อควรรู้ ก่อนดูประมูลปลาที่ "สึคิจิ"
ดู Tsukiji Wonderland กันจบแล้ว หากใครอยากทิ้งทวนเดินทางไปสัมผัสกับบรรยากาศจริง ก่อนที่ตลาดปลาสึคิจิจะย้ายไปยังที่ใหม่แล้วล่ะก็ เรามีข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ สำหรับผู้ที่อยากชมการประมูลปลามาฝากกันค่ะ
1) จับยามสามตาดูเวลากันให้ดีๆ
ปกติแล้วการประมูลปลาที่ตลาดสึคิจิจะเริ่มกระบวนการตั้งแต่เช้ามืดราวๆ ตี 3 ถึง 6 โมงเช้า ซึ่งการเปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชมนั้น จะแบ่งออก 2 รอบ รอบละ 60 คน (รวม 120 คน / ต่อวัน) ด้วยกัน โดยรอบแรกจะเริ่มในเวลา 5.25 - 5.45 น. ตามด้วยรอบที่สอง 5.50 - 6.10 น. ดังนั้นใครที่อยากไปดูจริงๆ ขอแนะนำว่าควรเผื่อเวลาล่วงหน้าสัก 2 ชั่วโมง แล้วไปสแตนบายรอรับบัตรคิวตอนประมาณตี 3 ถึงตี 4 เพียงเท่านี้ก็จะไม่พลาดชม ไม่นก ไม่อด แน่นอน!
อ้อ! แล้วหลีกเลี่ยงวันอาทิตย์ และวันพุธกันด้วย เพราะส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีการประมูลกันในสองวันนี้
2) หาที่พักใกล้ๆ เอาไว้
ในเมื่อต้องไปรับบัตรคิวตั้งแต่เช้ามืด ผู้สันทัดกรณีเลยบอกต่อๆ กันว่าควรหาที่พักในละแวกนั้นไว้ดีกว่า แทนการนั่งรถไฟวนไปวนมา หรือนั่งเดียวดายตบยุงในความมืด ซึ่งที่พักที่เข้าข่ายว่าใกล้ที่สุดเราขอยกให้กับ Com Com Manga Caf? คาเฟ่น่ารักที่ให้คุณได้นั่งอ่านการ์ตูนรอเพลินๆ ที่มีทำเลไกลจากสึคิจิเพียงแค่เดิน 5 นาทีเท่านั้น
3) พกเสื้อผ้าหนาๆ มาด้วย
ตอนนี้กำลังย่างเข้าสู่ฤดูหนาวกันแล้ว แน่นอนว่าอากาศในญี่ปุ่นก็คงหนาวไม่แพ้กัน แต่ไม่ใช่เฉพาะอากาศที่หนาวจนสุดขั้ว หากรอบตลาดปลายังเต็มไปด้วยน้ำแข็งก้อนโต และปลาทูน่าแช่แข็ง ลองคิดดูสิ! ว่ามัน "ยะเยือก" สักแค่ไหน
4) รองเท้าก็สำคัญ
ว่าด้วยเรื่องเสื้อผ้า ก็มาต่อกันที่รองเท้า เราขอบอกเลยว่ารองเท้าก็สำคัญไม่แพ้กัน และควรคำนึงถึงกาลเทศะไว้เป็นดี ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงรองเท้าแตะและรองเท้าส้นสูง เดี๋ยวจะไปจับกบลื่นโชว์คนทั้งตลาดไม่รู้ด้วยนะ
5) นั่งรอให้เรียบร้อย
แม้จะไม่มีเก้าอี้และที่ทางให้รอก่อนเข้าชมประมูล แต่คนที่นี่ก็ไม่ว่าอะไรถ้าเราจะหย่อนก้นลงนั่งบนพื้นแถวๆ นั้น (เอาแบบไม่เกะกะใครนะ) และเพื่อการรออย่างมีประสิทธิภาพ ก็ลองพกหนังสือ แมกกาซีน สักเล่มสองเล่ม หรือจะเล่นเกมจับโปเกม่อนรอไป ก็ไม่มีใครว่า
6) ห้ามนำอาหารเข้าไปเป็นอันขาด
ข้อนี้เรียกว่าเป็นกฏพื้นฐานของการเข้าชมแทบจะทุกสถานที่ เพราะการนำอาหารติดตัวเข้าไปในพื้นที่ นอกจากจะดูไม่สวยงามตาแล้ว หากพลาดพลั้งยังหกเลอะเทอะอีกต่างหาก
7) ไม่ใช้แฟลชกันนะ
คนรักการถ่ายภาพไม่ต้องตกใจกันไป เขาอนุญาตให้ทุกคนสามารถเก็บภาพ และถ่ายวีดีโอกันได้อย่างเต็มที่ แต่สิ่งที่ขอเพียงอย่างเดียวก็คือ ห้ามใช้แฟลช เพราะแสงสว่างวาบของแฟลชจะเป็นการรบกวนการเข้าชมการประมูลปลาของคนอื่นๆ นั่นเอง
8) อย่าส่งเสียงดัง
คงต้องบอกว่าการประมูลปลาเป็นเหมือนสงครามขนาดย่อมของเหล่าพ่อค้าที่ต้องการนำปลาที่ดีที่สุดเข้าร้านของตัวเอง ดังนั้น ใครที่ส่งเสียงเอะอะรบกวน เราขอเตือนเลยว่า ระวังถูกเชิญออก! แต่ถ้าเราทำตัวน่ารักและสุภาพ ช่วงเวลานี้ก็นับเป็นช่วงเวลาที่ล้ำค่าที่เราจะไม่มีวันลืมเลยเชียวล่ะ
9) ได้เวลากินอาหารเช้าแล้ว
พอชมกระประมูลเสร็จก็ไม่ต้องหิ้วท้องรอหิว เพราะตลาดปลาแห่งนี้เขาทำงานกันตั้งแต่ก่อน 6 โมงเช้า ถึงแม้เราจะเป็นคิวแรกที่ชมการประมูลเราก็ยังสามารถซื้อขาอาหารเช้าได้อย่างสบายใจเฉิบ โดยเฉพาะ "ไคเซ็นดง" (Kaisen-Don) ข้าวหน้าปลาดิบที่ส่งตรงสดๆ ถึงมือคุณ แต่ถ้ามีเวลาอีกหน่อยก็สามารถเลือกเดินตรงเข้าร้านซูชิที่เรียงรายกันได้เลย
10) อย่าลืม! ชมการแล่ปลาก่อนกลับบ้าน
เมื่อหนังท้องตึง หนังตาก็เริ่มหย่อน แต่พลังอย่าเพิ่งหมด เพราะสึคิจิเป็นตลาดอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่นี่จึงมีตั้งแต่หอยเม่นไปจนถึงเนื้อวาฬให้เราเลือกดูจนเต็มอิ่ม และที่สำคัญในช่วงสายๆ หากใครที่พลาดการประมูล เหล่าพ่อค้าก็มีช่วงเอาใจคนรักปลา (#ทีมมาไม่ทัน) ด้วยการแล่ปลาทูน่าโชว์ในช่วง 9 โมงถึง 10 โมง ให้เราไปยืนมุงกันเพลินๆ อีกด้วย
ระหว่างนี้หากใครอดใจรอไม่ไหวก็ลองเปิด MV เพลง Rather Be ของ Clean Bandit เพื่อซ้อมทัวรร์กันก่อนก็ได้นะ