3 เมืองต้องห้ามพลาดไปเที่ยว ภาคเหนือ

3 เมืองต้องห้ามพลาดไปเที่ยว ภาคเหนือ

3 เมืองต้องห้ามพลาดไปเที่ยว ภาคเหนือ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยกระดับแนวคิด "ปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558 โปรโมทจังหวัดท่องเที่ยวใหม่ ภายใต้โครงการ "เมืองต้องห้าม...พลาด" คัดสรร 12 เมืองทางเลือกจาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ เชื่อมโยงท่องเที่ยวเมืองหลักเดิม เน้นจุดเด่นศักยภาพจังหวัดที่มีความพร้อม ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วิถีชีวิต และศิลปวัฒนธรรม เพื่อให้นักท่องเที่ยวไปเยือนกันตลอดทั้งปี

"เมืองต้องห้าม...พลาด" เกิดจากแนวคิดหลัก คือ นำจุดเด่นของจังหวัดต่าง ๆ อีกหลายจังหวัดที่คนไทยยังไม่เคยรับรู้ หรือไม่เคยรู้ว่ามีอะไรที่น่าสนใจ โดยอาจถูกมองข้าม แต่แท้จริงเป็นเมืองที่มีศักยภาพ มีเรื่องราวที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ไม่แพ้จังหวัดท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลาย ซึ่งมั่นใจว่านักท่องเที่ยวจะเกิดมุมมองและได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่จะทำให้หลงรักประเทศไทยมากขึ้น

จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่คนไทยจะได้ท่องเที่ยว "เมืองต้องห้าม...พลาด" ซึ่ง ททท. ได้คัดสรร 12 จังหวัด ที่ไม่อยากให้พลาด เพื่อเป็นการเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวและตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยตอนที่ 1 เราขอนำเสนอ 3 เมืองต้องห้าม...พลาด  ภาคเหนือ  ให้คุณไปสัมผัสลมหนาวกันก่อน 


ภาคเหนือ

เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา จ.ลำปาง

ต่อให้เราจะก้าวเร็วแค่ไหน เมื่อมาถึงลำปางคล้ายจะกลายเป็นคนเดินช้าที่อยากจะค่อยๆ ซึมซับและสัมผัสความสวยงามของเมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลาแห่งนี้

สถานีรถไฟนครลำปาง สถานีแห่งกาลเวลาของนครลำปาง อาคารอนุรักษ์ดีเด่น ที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมไทยภาคเหนือกับสถาปัตยกรรมยุโรปได้อย่างลงตัว (อ.เมือง จ.ลำปาง)

ชามตราไก่ สืบสานช่างฝีมือที่สืบทอดกันมากว่าร้อยปี สู่สัญลักษณ์ของเมืองลำปางอันเลื่องลือ มาถึงลำปางแล้วไม่ได้ติดไม้ติดมือเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง

หอนาฬิกาลำปาง แม้เวลาดูคล้ายหยุดหมุนในลำปาง แต่เข็มของหอนาฬิกาแห่งนี้ไม่เคยหยุดเดิน (วงเวียน ต.สบตุ๋ย อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง)

ถนนสายวัฒนธรรม สัมผัสวิถีชุมชนคนลำปางอย่างใกล้ชิด ถนนสายนี้มีกิจกรรมดีๆ ทุกสัปดาห์ ทั้ง "กาดหมั้วคัวแลง"ถนนคนเดินวันศุกร์ เวลา 16.00-21.00 น. และ "กาดหมั้วคัวงาย" ตลาดเช้าวันอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่ 7.00 น. (ถ.วังเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง)

วัดพระธาตุลำปางหลวง วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองลำปาง อลังการเงาพระธาตุกลับหัว (ถ.ลำปาง-เกาะคา ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง)

วัดปงสนุก วัดสำคัญคู่ลำปางมาช้านานตั้งแต่สมัยหริภุญชัย และได้รับรางวัลด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมจากยูเนสโก (ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง)

วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม วัดเก่าแก่สวยงามอายุนับพันปี เคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต (ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง)

วัดเจดีย์ซาวหลัง ชื่นชมความงดงามเจดีย์ 20 องค์ ตามแบบศิลปะล้านนาผสมศิลปะพม่า หากใครนับได้ครบ 20 องค์ถือเป็นคนมีบุญ (ถ.ลำปาง-แจ้ห่ม อ.เมือง จ.ลำปาง)

บ้านเสานัก บ้านไม้สักโบราณศิลปะพม่าผสมล้านนา ที่มีเสาเรือนถึง 116 ต้น ยังคงความสมบูรณ์แบบมาจนถึงปัจจุบัน (เลขที่ 6 ถ.ราษฎร์วัฒนา ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง โทร.0-5422-7653, 0-5422-4636)

สะพานรัษฎา เพราะสะพานปูนนี้มีที่มา ร้อยเรียงเรื่องราวของลำปางจากอดีตกาลสู่ปัจจุบัน (ริมแม่น้ำวัง ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง)

ถนนคนเดินกาดกองต้า จับจ่ายอย่างสนุกสนานและสัมผัสความเป็นกันเองของพ่อค้าแม่ขาย ที่เรียงรายด้วยบ้านเก่าเสริมบรรยากาศคลาสสิก (ขนานกับแม่น้ำวัง ในซอยตลาดจีนริมน้ำ เปิดขายเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์)

วัดศรีรองเมือง งดงามด้วยลวดลายฉลุโลหะของศิลปกรรมพม่า ให้ความรู้สึกอ่อนช้อยและพริ้วไหวทุกครั้งที่ได้เห็น (บ้านท่าคร่าวน้อย ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง)

พิพิธภัณฑ์หอปูมละกอน เปิดบันทึกปูมหลังครั้งเก่า เรื่องเล่าน่าฟังจากเขลางค์นคร (สำนักงานเทศบาลนครลำปาง ห้าแยกหอนาฬิกา ถ.ฉัตรไชย, ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง โทร.0-5423-7237)

วัดศรีชุม วัดพม่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย วิหารและโบสถ์มีศิลปะแบบพม่าที่งดงามและสมบูรณ์แห่งหนึ่งในภาคเหนือ (ถ.ทิพวัลย์ อ.เมือง จ.ลำปาง โทร.0-5462-0823)

ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ช.ช้างน่ารัก ที่ต้องรักษ์และดูแลให้อยู่คู่บ้านคู่เมืองของเราตลอดไป (กม.28-29 ถ.ลำปาง-เชียงใหม่ ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง โทร.0-5482-9333 http://www.thailandelephant.org)

วัดพระธาตุจอมปิง มหัศจรรย์เงาสะท้อน "พระธาตุกลับหัว"สีสันเสมือนจริง อีกแห่งหนึ่งของเมืองลำปาง (อ.เกาะคา จ.ลำปาง โทร.0-5436-2893)

วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ ครั้งหนึ่งในชีวิตกับความศรัทธาดั่งผาสูง เจดีย์บนเขา สวรรค์สุดขอบฟ้าของลำปางที่ไม่ควรพลาด (หมู่ที่ 7 บ้านทุ่งทอง ต.วิเชตนคร อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง)

ภูดอกไม้สายหมอก จ.เพชรบูรณ์

คงฟินดีไม่น้อยถ้าทะเลหมอกลอยมาเคาะหน้าต่างยามเช้า คงเพลินดีไม่เบา ถ้าสองตาได้ดื่มด่ำดอกไม้บานกลางภูสูง ที่นี่ล่ะ...เพชรบูรณ์

ภูทับเบิก ภูเขาสูงสุดของเพชรบูรณ์ ที่ที่มีความสนุกสนานกลางทุ่งกะหล่ำยักษ์ และนอนอาบหนาวใต้ดาวพราวฟ้า (ตำบลวังบาล จ.เพชรบูรณ์)

สวนดอกไม้เมืองหนาวภูทับเบิก แหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ ไฉไลด้วยสีสันดอกไม้สดใสน่ารัก (ภูทับเบิก ต.วังบาล จ.เพชรบูรณ์)

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ประจักษ์แห่งศรัทธาที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย (ตั้งอยู่ บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ http://www.phasornkaew.org )

เขาค้อ หยิกสายหมอก หยอกสายลม กลมเกลียวกับทิวเขาน้อยใหญ่ ในบรรยากาศสวิตเซอร์แลนด์แบบไทยๆ (อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์)

อ่างเก็บน้ำรัตนัย พักผ่อนหย่อนใจริมทะเลสาบที่มีอะไรมากกว่าผืนน้ำและแผ่นฟ้า (บนทางหลวงหมายเลข 2325 เลยกิโลเมตรที่ 5 อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์)

น้ำตกศรีดิษฐ์ ความสวยงามของชั้นหินและสายน้ำที่ชุ่มฉ่ำตลอดทั้งปี (บ้านร่มโพธิ์ร่มไทร หมู่ที่ 10 ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์)

ทุ่งแสลงหลวง สะวันนาเมืองไทยที่ละลายหัวใจนักท่องธรรมชาติด้วยป่าสน หมอกยามเช้า และขุนเขาตระหง่าน (ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โทร.0-5526-8019)

ไร่ต้นยาสูบ เพชรบูรณ์ไม่ได้ดังแค่กะหล่ำปลีเท่านั้น หากยังเป็นแหล่งต้นยาสูบที่ใหญ่อันดับหนึ่งของเมืองไทยด้วยนะ! (จากทางหลวงหมายเลข 21 วิ่งไป อ.หล่มสัก)

อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ วีรกรรมผู้กล้าบนภูสูง ปรุงประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา (บนยอดสูงสุดของเขาค้อ)

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ที่สุดแห่งธรรมชาติของเพชรบูรณ์ อุดมด้วยเถื่อนถ้ำ น้ำตก จุดชมวิว และป่าเปลี่ยนสี (ที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่ตรงหลักกิโลเมตรที่ 50 ทางหลวงหมายเลข 12 เส้นหล่มสัก-ชุมแพ โทร.0-5672-9002)

ไร่กำนันจุล ไร้ส้มที่โด่งดังที่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ จากการทดลองค้นคว้าและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันไร่กำนันจุลมีผลผลิตทางการเกษตรมากมาย ไม่ใช่เพียงแค่ส้มเขียวหวานที่เลื่องชื่อเท่านั้น ยังมีผลไม้อีกมากมายที่โด่งดัง (442 หมู่ที่ 3 ถ.สามัคคีชัย ต.วังชมภู อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์)


กระซิบรักเสมอดาว จ.น่าน

น่าน ตำนานแห่งขุนเขา เมืองเก่าที่มีชีวิต และวัฒนธรรมที่โดดเด่น เพราะหัวใจน่ารักของคนน่าน และบรรยากาศโรแมนติก ไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมที่นี่จึงเป็นปฐมบทของการกระซิบรักได้ละมุนละไมที่สุดของเมืองไทย

ภาพกระซิบรักบันลือโลก อมตะแห่งภาพจิตรกรรมปู่ม่านย่าม่าน ประดับบนผืนผนังท้าทายกาลเวลา (อยู่ภายในวัดภูมินทร์ บ้านภูมินทร์ อ.เมือง จ.น่าน โทร.0-5471-0935)

วัดภูมินทร์ หนึ่งเดียวในเมืองไทยกับพระวิหาร พระอุโบสถ และเจดีย์ทรงจตุรมุขที่เทินไว้กลางลำตัวนาคคู่ (วัดภูมินทร์ อ.เมือง จ.น่าน โทร.0-5471-0935)

วัดมงคล ความรักจะยืนยงด้วยการนั่งลงถวายเทียนคู่แด่องค์พระประธาน (ถ.มหาวงศ์ อ.เมือง จ.น่าน)

วัดพระธาตุแช่แห้ง ไม่เพียงเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองน่านเท่านั้น หากยังเป็นพระธาตุประจำชีวิตของคนเกิดปีเถาะ (หมู่ 3 บ้านหนองเต่า ตำบลม่วงตึ๊ด อ.ภูเพียง จ.น่าน โทร.0-5475-1846)

วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร พระอารามหลวง จากสุโขทัยส่งใจไปถึงน่าน ทุกเรื่องเล่าขานผ่านอารามเก่าแก่กลางเมือง (ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน โทร.08-7177-6688, 0-5477-2164)

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน เก็บรวมทุกรายละเอียดของความเป็นเมืองน่าน สัมผัสงาช้างดำหนึ่งเดียวในไทย (ถ.ผากอง ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน โทร.0-5471-0561)

หอศิลป์ริมน่าน รวมหัวใจรักในงานศิลป์จากศิลปินถิ่นน่านแท้ๆ (122 หมู่ 2 ต.บ่อ อ.เมือง จ.น่าน ตั้งอยู่ริมทางหลวง กม.20 ห่างจากตัวเมือง 20 กิโลเมตร โทร.0-5479-8046 , 08-1322-2912)

ดอยเสมอดาว (อุทยานแห่งชาติศรีน่าน) โรแมนติกที่สุดแล้ว ถ้าได้มาอาบฟ้าห่มดาวบนยอดดอยแห่งนี้ (อุทยานแห่งชาติศรีน่าน อ.นาน้อย จ.น่าน โทร. 0-5473-1714)

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน สีชมพูบานสะพรั่ง ขับขานความหวานแว่วทั้งทิวเขา (บ้านขุนสถาน ต.สันทะ อ.นาน้อย จ.น่าน โทร.08-1883-8184, 0-5470-1121)

เส้นทาง 1148 ท่องไปบนถนนเส้นสวย scenic route ที่โรแมนติกที่สุดของเมืองไทย (อ.ท่าวังผา จ.น่าน - อ.เชียงคำ จ.พะเยา)

วัดหนองบัว หัวใจแห่งไทลื้อ เลื่องลือภาพจิตรกรรมฝาผนัง (ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา จ.น่าน)

บ่อเกลือ สืบสานตำนานการต้มเกลือสินเธาว์บนภูเขาแบบโบราณที่วันนี้หาชมได้ยากเต็มที (อ.บ่อเกลืออยู่ห่างจากตัวเมืองน่านประมาณ 80 กิโลเมตร)

อำเภอปัว เมืองน่ารัก ชุมชนน่าอยู่ ธรรมชาติสุขสงบ ในบรรยากาศสุดโรแมนติก (อ.ปัวอยู่ห่างจากตัวเมืองน่านประมาณ 60 กิโลเมตร)

อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ในวันที่ฟ้าเป็นใจ จะได้เห็นความงามหนึ่งในโลกของดอกชมพูภูคา (อ.ปัว จ.น่าน โทร.08-1882-5999, 0-5470-1000)

อัลบั้มภาพ 24 ภาพ

อัลบั้มภาพ 24 ภาพ ของ 3 เมืองต้องห้ามพลาดไปเที่ยว ภาคเหนือ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook