เกาะเต่า เกาะนางยวน เที่ยวสุดฟิน
เกาะเต่า
เมื่อรู้ข่าวว่าจะได้ไปเยือนเกาะนางยวนและเกาะเต่า เกาะกลางทะเลอ่าวไทยที่ใครๆ ขนานนามว่าเป็นเกาะในฝัน สวรรค์ของคนรักทะเล ฉันรู้สึกตื่นเต้นและตั้งตารอ แม้ไม่รู้ว่าเริ่มหลงรักโลกสีครามตั้งแต่เมื่อไร แต่รู้เสมอว่าเมื่อใส่หน้ากากดำน้ำเหมาะๆ พร้อมท่อหายใจดีๆ แล้วคว่ำหน้าทิ้งตัวลอยล่องไปบนผืนน้ำ ฉันได้ค้นพบความมหัศจรรย์แห่งสีสันที่ธรรมชาติสรรค์สร้างไว้ใต้โลกสีครามใบนี้ สะพานไม้สุดคลาสสิกทอดตัวยาวเหนือผืนน้ำสีครามที่ใสราวแผ่นกระจก เป็นทางเดินหลังขึ้นจากเรือไปยังสันทรายสีขาวละเอียดกลางทะเลซึ่งโผล่พ้นน้ำเชื่อมเกาะเล็กๆ สามเกาะเข้าด้วยกัน คือความงามอันเป็นเอกลักษณ์ของเกาะนางยวน เกาะเล็กๆ ในอำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นเกาะที่มีความงดงามน่าเที่ยวติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกในอดีตมีสาวชาวญวนถูกคลื่นลมพัดมาติดที่เกาะนี้ ชาวบ้านจึงพากันเรียกว่า "เกาะนางญวน"
>>>เกาะนางยวน - ช่างเย้ายวนชวนหลงใหล
ต่อมาเกาะนี้เป็นกรรมสิทธิ์ของเอกชนที่รับสัมปทานจากกรมธนารักษ์ จึงเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "เกาะนางยวน" ให้มีความหมายดังหญิงสาวที่เย้ายวนชวนให้หลงใหลใครที่ก้าวเท้ามาเหยียบผืนทรายเนียนนุ่มบนเกาะแห่งนี้ ย่อมไม่พลาดการเดินไต่ระดับความสูงไปตามขั้นบันได ผ่านร่มไม้บริเวณด้านหลังรีสอร์ตเพียงแห่งเดียวบนเกาะ ด้วยเวลาเพียง 15 นาทีก็จะถึงจุดชมวิว บนยอดเขาที่มองเห็นสันทรายขาวละเอียดเชื่อมทั้งสามเกาะกลางท้องทะเลสีคราม ยิ่งถ้าเป็นช่วงเช้าหรือเย็น ภาพที่เห็นจากจุดชมวิวจะสวยงามจนใครๆ ต้องเก็บภาพความประทับใจนี้กลับไปที่เกาะนางยวนเราสามารถดำดิ่งลงชมความงามใต้ผืนทะเลสีครามได้ทั่วเกาะ ด้วยเป็นแหล่งดำน้ำตื้นและน้ำลึกที่สวยงาม คลื่นลมสงบ แต่มีข้อห้ามสำคัญสำหรับคนดำน้ำตื้น คือห้ามใช้ฟินหรือตีนกบที่เกาะนี้ สำหรับมือใหม่หัดดำน้ำตื้นอย่างฉัน มีเพียงหน้ากากดำน้ำพร้อมท่อหายใจและเสื้อชูชีพเหมาะๆ ก็สามารถลั้ลลาได้ตลอดวันแล้วแนวปะการังที่มองเห็นเป็นกลุ่มดำๆ ใต้ผืนน้ำคือปลายทางที่ฉันตรงดิ่งแหวกว่ายไทำความรู้จัก ยามอาทิตย์ส่องแสงเป็นลำผ่านผืนน้ำสีครามเข้มถึงพื้นทรายเบื้องล่าง โลกสีครามก็สว่างไสวกลายเป็นโลกมหัศจรรย์แห่งสีสันที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตหลากชนิด
ทั้งปลานกแก้วสีเขียวสด ปลานกขุนทองหน้าลายสีสันสดใส ปลาสลิดหินซึ่งมีทั้งสีเหลือง สีเขียว และมีลวดลาย ปลาแพะตัวสีม่วงเหลือบเหลืองมีหนวดที่ปากเหมือนเคราแพะ และปลาอีกสารพัดชนิดที่ต่างว่ายวนอวดโฉมไปมาอยู่ตามแนวปะการังซึ่งขึ้นเป็นพืดเหมือนผืนป่า เป็นเหมือนบ้านอันอุดมด้วยอาหาร ทั้งเป็นที่หลบซ่อนตัวของสัตว์ทะเลนานาชนิดพื้นทะเลเบื้องล่างใกล้ขนาดมือเอื้อมถึงเต็มไปด้วยปะการังเขากวางที่แตกกิ่งก้านสาขาเป็นบริเวณกว้าง เป็นลักษณะการอยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ของปะการัง เรียกว่า "โคโลนี" (colony) โดยแต่ละกิ่งก้านที่เราเห็นจะมี "โพลิป" (polyp) หรือตัวปะการังแท้ๆ นับพันตัว ลักษณะเป็นเนื้อเยื่อขนาดเล็กยื่นออกมาจากโครงสร้างหินปูนแข็งที่เรียกว่า "คอรอลไลต์" (corallite) ที่โพลิปสร้างขึ้นเพื่อพยุงตัวเองไว้ ชื่อเรียกแต่ละชนิดของปะการังก็มาจากลักษณะโครงสร้างหินปูนนี่เองปะการังบางชนิดโครงสร้างเป็นก้อนกลมแข็งเหมือนก้อนหิน เรียกว่าปะการังโขด
บางชนิดเป็นกลีบบางๆ ซ้อนกันคล้ายผักกาด เรียกปะการังผักกาด และบางชนิดเป็นแผ่นขนาดใหญ่คล้ายโต๊ะ จึงเรียกปะการังโต๊ะ เหล่าปะการังเป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังจำพวกเดียวกับดอกไม้ทะเลนี่คือความงดงามของสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเล ที่แม้แต่ "ฟิน" สิ่งของไร้ชีวิตชิ้นเล็กๆ ยังอาจทำลายลงได้ ดังนั้นฉันจึงดำผุดดำว่ายท่ามกลางแนวปะการังหลายชนิดอย่างระมัดระวังไม่ให้ส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกายไปถูกมันเข้า เพราะหากปะการังแตกหัก กว่ามันจะเติบโตขึ้นใหม่ต้องใช้เวลาเป็นปีๆ อย่างปะการังเขากวางเติบโตเฉลี่ยประมาณ 10 เซนติเมตรต่อปี ปะการังก้อนปีหนึ่งเติบโตเฉลี่ย 1-2 เซนติเมตรเท่านั้น แต่ถ้าสภาพน้ำไม่ดี มันก็อาจไม่เติบโตเลยการระวังทำให้ฉันลอยตัวไปอย่างช้าๆ จึงมีโอกาสได้เห็น "หนอน-ฉัตร" หรือ "หนอนดอกไม้พู่ฉัตร" (Christmas tree worm) ลักษณะเป็นพู่แตกแขนงเวียนเป็นวงเข้าหาแกนกลางเหมือนต้นคริสต์มาสต้นเล็กๆ ขึ้นติดกันสองต้น มีหลากสีสัน ทั้งแดง เหลือง ส้ม ฟ้า น้ำเงิน น้ำตาล และขาว บานสลับสีอยู่เต็มปะการังโขดก้อนใหญ่ เมื่อว่ายเข้าไปใกล้ๆ หนอนฉัตรสัตว์ทะเลขี้ตกใจก็จะหุบหายเข้าไปในท่อเหมือนหุบร่มหลากสีพร้อมกันหลายคัน แต่เมื่อฉันลอยตัวนิ่งๆ สักพัก มันก็ค่อยๆ ออกมาอวดสีสันงดงามอีกครั้ง เพื่อรับอาหารที่ลอยมาตามกระแสน้ำและรับแสงแดดที่ส่องผ่านผิวน้ำลงมายังพื้นเบื้องล่าง
>>>เกาะเต่า โลกสีครามใบเดียวกัน
จากเกาะนางยวนเราไม่พลาดไปเยี่ยมเยือนเกาะเต่า เกาะเล็กๆ อีกเกาะในอำเภอเกาะพะงัน ถือเป็นเกาะกลางอ่าวไทยที่อยู่ห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่ ในอดีตครั้งที่ธรรมชาติยังสมบูรณ์อยู่มาก ชายหาดรอบเกาะเต่าจะเต็มไปด้วยเต่าทะเลที่ขึ้นมาวางไข่ เป็นที่มาของชื่อ "เกาะเต่า" ปัจจุบันบริเวณรอบเกาะเป็นจุดดำน้ำที่สวยงามและมีชื่อเสียงระดับโลก นักดำน้ำจากทั่วทุกมุมโลกต่างแวะเวียนมาชมความงามใต้ทะเล สำหรับเราซึ่งมีเวลาเพียงน้อยนิดจึงใช้เวลาครึ่งวันที่เหลือซึมซับความงามของโลกสีครามที่อ่าวม่วง จุดดำน้ำบริเวณทิศเหนือของเกาะซึ่งอยู่ใกล้เกาะนางยวนมากที่สุด ใช้เวลาเดินทางโดยเรือเพียง 15 นาทีเมื่อมาถึงอ่าวม่วง จุดดำน้ำที่มีชื่อเสียง น้ำทะเลดูมีสีเข้มขึ้นมาก ด้วยมีกองหินใต้น้ำจำนวนมากและพื้นเบื้องล่างค่อนข้างลึก ฉันไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด แต่กลับตื่นเต้นมากขึ้นเมื่อเห็นเงาดำขนาดใหญ่แผ่คลุมโขดหินใต้น้ำหน้าหาด จึงไม่รีรอที่จะสวมอุปกรณ์ดำน้ำแล้วดำดิ่งสู่โลกใต้ทะเลอีกครั้ง ฝูงปลากะตักนับพันตัวแตกตื่นและว่ายเวียนวนพลิ้วไหวอยู่รอบตัว เมื่อแสงแดดส่องลงมากระทบฝูงปลาก็ดูวิบวับเหมือนกระจกเงาชิ้นเล็กสะท้อนแสงสวยงามตระการตา เป็นภาพความงามขนาดเพื่อนร่วมทริปที่ไม่เคยลงน้ำทะเลเลยยังกล้าเผชิญความกลัวเพื่อลงไปสัมผัสควางามของโลกสีครามแห่งนี้ฉันแหวกว่ายไปทักทายปลานานาชนิดที่ดูคุ้นหน้าคุ้นตา อย่างปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง ปลาโนรี ปลาสลิดหิน ปลาแพะ ปลาผีเสื้อหลากสีสันที่ว่ายวนเวียนท่ามกลางเหล่าปะการังสารพัดชนิด ทั้งหนอนฉัตรหลากสีก็มีให้เห็นเช่นกัน
แต่ที่ทำให้ต้องตกตะลึงคือหอยมือเสือขนาดใหญ่จำนวนมากที่ฝังตัวอยู่ตามแนวปะการัง กำลังเปิดฝาแผ่เนื้อเยื่อสีสันสดใสซึ่งมี "สาหร่ายซูแซนเทลลี" อาศัยอยู่ออกมา สาหร่ายนี้จะดูดซับสารต่างๆ รวมทั้งของเสียและสิ่งขับถ่ายจากสัตว์อื่นมาสังเคราะห์เป็นอาหารและพลังงาน ส่วนหอยมือเสือก็กรองกินอาหารที่ลอยมาตามน้ำและได้รับสารอาหารบางส่วนจากสาหร่ายด้วยภาพคลอเคลียของปลาการ์ตูนในดงดอกไม้ทะเลเป็นภาพที่ชวนให้ใครต่อใครหลงใหลจนอยากเข้าไปสัมผัสดูสักครั้ง แต่หากเผลอไผลไปถูกเจ้าดอกไม้ทะเลเข้า คุณก็จะรู้สึกแสบๆ คันๆ ที่ผิวหนังเป็นอาทิตย์หรือมากกว่านั้น เพราะบริเวณปลายหนวดแต่ละเส้นของดอกไม้ทะเลมีเข็มพิษอยู่มากมาย ถ้ามีอะไรมากระทบมันจะปล่อยเข็มพิษที่ทำให้สัตว์เล็กๆ สลบจนถึงตายได้ทันที แต่สำหรับปลาการ์ตูนจะเป็นเสมือนเนื้อคู่ของดอกไม้ทะเล เพราะนอกจากมันจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันแก้พิษจากเข็มพิษได้เอง จึงอยู่อาศัยและหลบภัยในดงดอกไม้ทะเลได้แล้ว มันยังคอยว่ายวนเวียนชวนให้สัตว์อื่นหลงกลเข้ามาเป็นอาหารของเหล่าดอกไม้นี้ โดยมันได้รับส่วนแบ่งอีกด้วยก่อนสิ้นแสงสุดท้ายของวัน ฉันโบกมืออำลาโลกมหัศจรรย์แห่งสีสันที่ซ่อนอยู่ใต้ผืนน้ำสีคราม เป็นความงดงามที่ธรรมชาติช่างสรรค์สร้างขึ้น ฉันได้แต่หวังว่า นักท่องเที่ยวทุกคนที่ได้สัมผัสความงามของโลกใบนี้จะเกิดความรักและหวงแหน แล้วร่วมกันรักษ์โลกสีครามให้งดงามตลอดไป ขอขอบคุณ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กองตลาดภาคใต้
ข้อห้ามบนเกาะนางยวน >>> 1) ห้ามใช้ฟิน (ตีนกบ) สำหรับคนดำน้ำตื้น 2)ห้ามนำขวดพลาสติกและกระป๋องน้ำอัดลมขึ้นเกาะ
ค่าขึ้นเกาะนางยวน >>>คนไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 100 บาท
สอบถามการเดินทางไปเกาะนางยวนและเกาะเต่าติดต่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจังหวัดสุราษฎร์ธานี โทร. 0-7728-8818 หรือ 1672 (เบอร์เดียวเที่ยวทั่วไทย)
แวะชมแหล่งท่องเที่ยว เกาะช้าง เชียงคาน ภูเก็ต เขาใหญ่ และ ปาย
ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook.. ได้ที่นี่เลย!!