10 ที่เที่ยวเมืองตรัง โด่งดังไปทั่วโลก

10 ที่เที่ยวเมืองตรัง โด่งดังไปทั่วโลก

10 ที่เที่ยวเมืองตรัง โด่งดังไปทั่วโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

1.ศาลหลักเมืองตรัง

ศาลหลักเมืองตรัง ปัจจุบันตั้งอยู่ที่ตำบลตวนธานี อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง สถานที่ตั้งตรงจุดนี้อยู่บริเวณที่ตั้งเมืองเก่า เป็นศาลหลักเมืองเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่มีวิญญาณอภิบาลเป็นสตรีจึงเรียกกันว่าศาลเจ้าแม่หลักเมือง เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวตรังทั่วไป โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการมีบุตรยากมักจะมาอธิษฐานขอกับบุตรกับเจ้าแม่หลักเมืองเสมอ

ศาลหลักเมืองตรัง

2.สถานีรถไฟกันตัง

สถานีรถไฟกันตัง ซึ่งตั้งอยู่บนถนนหน้าค่าย ตำบลกันตัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เป็นสถานีรถไฟสุดทางของทางรถไฟสายใต้ ฝั่งทะเลอันดามัน ตัวสถานีเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวทรงปั้นหยาทาสีเหลืองมัสตาร์ดสลับน้ำตาล ประดับมุมเสาด้วยลวดลายไม้ฉลุ ประตูบานเฟี้ยมแบบเก่า คงเอกลักษณ์เดิมตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากรแล้ว แต่ยังคงใช้งานอยู่ โดยมีรถไฟสายกรุงเทพฯ-กันตัง เดินรถทุกวัน แม้ว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาที่นี่จะไม่ได้เดินทางด้วยรถไฟก็ตาม แต่สถานีรถไฟแห่งนี้ถือเป็นแลนด์มาร์คแห่งเมืองกันตังที่ทุกคนต้องมาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกในการมาเยือนกันทั้งนั้น

สถานีรถไฟกันตัง

3.พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี

พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี ตั้งอยู่ห่างจากเทศบาลเมืองกันตังประมาณ 200 เมตร เป็นจวนเก่าเจ้าเมืองตรัง ผู้มีคุณูปการนำความเจริญมาสู่เมืองตรังในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะการนำต้นยางพาราเข้ามาปลูกในเมืองไทยเป็นครั้งแรก สร้างอาชีพชาวสวนยางให้แก่พี่น้องชาวใต้ ส่งผลให้เศรษฐกิจการส่งออกของไทยดีขึ้นจนทุกวันนี้ เปิดให้เข้าชมทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 8.00 -16.30 น.
หากต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะสามารถติดต่อผู้บรรยายการนำชมล่วงหน้าได้ที่ โทร. 075-274151-8

พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี

4.ต้นยางพาราต้นแรกของเมืองไทย

ต้นยางพาราต้นแรกของเมืองไทย อยู่บริเวณริมถนน 403 หน้าสหกรณ์การเกษตรกันตัง ยางต้นนี้เป็นต้นยางรุ่นแรกที่พระยารัษฎานุประดิษฐ์ฯ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองตรัง ได้นำจากมาเลเซียเข้ามาปลูกที่อำเภอกันตัง เมื่อ พ.ศ.2442 ยางต้นนี้ก็ยังคงมีชีวิตอยู่เป็นอนุสรณ์ให้เราได้รำลึกในพระคุณของท่านพระยารัษฎาฯ จวบจนปีนี้ 2556 ยางต้นนี้ก็มีอายุได้ 114 ปีแล้ว

ต้นยางพาราต้นแรกของเมืองไทย

5.เกาะเชือกและเกาะม้า

เกาะเชือกและเกาะม้า ซึ่งอยู่ห่างจากท่าเรือปากเมงประมาณ 12 กิโลเมตร ทั้ง เกาะเชือก และ เกาะม้า นี้ มีลักษณะเป็นภูผากลางทะเล ไม่มีชายหาดให้ขึ้นไปบนเกาะได้ แต่ความพิเศษของเกาะแห่งนี้ ก็คือ เป็นแหล่งปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์สวยงาม จุดนี้เป็นจุดที่มีกระแสน้ำเชี่ยว การดำน้ำดูปะการังจึงต้องมีเชือกให้คอยเกาะไว้เพื่อป้องกันกระแสน้ำพัดออกไปไกลจากตัวเรือจนอาจเป็นอันตรายได้ จึงเป็นที่มาของคำว่า เกาะเชือกนั่นเอง

เกาะเชือกและเกาะม้า

6.เกาะกระดาน

เกาะกระดาน นี้ใช้เวลาเดินทางจากหาดปากเมงราวๆ 1 ชั่วโมง 30 นาที พื้นที่ของเกาะแห่งนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของ อุทยานแห่งชาติเจ้าไหม และส่วนของเอกชน ทางด้านตะวันออกมีสวนยางและสวนมะพร้าว มีที่พักให้บริการ เกาะกระดานมีหาดทรายทอดยาวขาวสะอาด น้ำใส มีแนวปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์ สวยที่สุดในทะเลตรัง จึงถูกใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีวิวาห์ใต้สมุทรของเมืองตรัง มีจุดชมวิวทั้งด้านพระอาทิตย์ขึ้นและด้านพระอาทิตย์ตกที่สวยงามแปลกตาไม่ซ้ำกับที่ใดๆ

เกาะกระดาน

7.เกาะไหง

เกาะไหง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตรอยต่อของ จังหวัดกระบี่และตรัง แต่ด้วยการเดินทางจากจังหวัดตรังจะสะดวกสบายใกล้กว่า จึงจัดให้เป็นกลุ่มสถานที่ท่องเที่ยวในเขตทะเลตรัง เกาะไหงเป็นเกาะที่มีหาดทรายสีขาวสะอาดทอดยาวตลอดแนวฝั่งตะวันออก อยู่ในมุมซี่งเป็นแหล่งกำบังคลื่นลมจากมหาสมุทรได้ดี จึงเป็นที่เหมาะแก่การเล่นน้ำทะเลเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังมีท่าเรือระดับมาตรฐานในโซนทะเลอันดามันใต้ ทำให้จากที่นี่คุณสามารถเดินทางไปที่อื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย เกาะไหงจึงเป็นศูนย์กลางของการเดินเรือระหว่าง ภูเก็ต, เกาะพีพี, เกาะลันตา, และเกาะทางใต้อื่นๆ เช่น เกาะมุก, เกาะกระดาน, เกาะลิบง, เกาะหลีเป๊ะ แม้กระทั่งเกาะลังกาวี ของประเทศมาเลเซียอีกด้วย

เกาะไหง

8.เกาะมุก และถ้ำมรกต

เกาะมุก และถ้ำมรกต นี้เป็นเกาะใหญ่เกาะหนึ่งในน่านน้ำตรัง ทางด้านตะวันออกของเกาะมีชุมชนบ้านเกาะมุก และท่าเทียบเรือเข้าหมู่บ้าน มีที่พักให้บริการ ส่วนอีกด้านมีลักษณะโค้งเป็นอ่าวกำบังลมได้ดี เรียกว่า อ่าวพังกา ชายทะเลทั้งสองด้านมีหาดทรายขาวสะอาด น้ำใส เหมาะที่จะเล่นน้ำได้ ส่วนทางด้านทิศตะวันตกของเกาะมีลักษณะเป็นโขดผาสูงตระหง่าน และได้ซุกซ่อน ถ้ำมรกต หรือถ้ำน้ำ ซึ่งมีความงดงามตระการตาไว้อย่างมิดชิด ถ้ำมรกรตนี้จะเข้าออกได้เฉพาะช่วงน้ำลงเท่านั้น โดยปากถ้ำเป็นเพียงโพรงเล็กๆ สูงพอให้เรือพายลอด หรือว่ายน้ำลอยคอเข้าไปได้เท่านั้น พ้นปากถ้ำเข้าไปเป็นเส้นทางคดโค้ง ระยะทางประมาณ 80 เมตร บางช่วงมืด บางช่วงมีช่องให้แสงจากเบื้องบนลอดผ่านเข้ามากระทบกับน้ำใสในถ้ำให้แสงสะท้อนออกมาเป็นสีเขียวมรกตสวยงามประทับใจ

เกาะมุก และถ้ำมรกต

9.ถนนคนเดินตรัง 

ถนนคนเดินตรัง หน้าสถานีรถไฟจังหวัดตรัง ที่นี่เราจะได้เห็นวิถีชีวิตชาวตรัง ชิมขนมพื้นบ้าน อาหารพื้นเมือง สินค้าที่ระลึก และงานฝีมือ บางทีท่านอาจจะได้ชมเด็กๆ แสดงดนตรีเปิดหมวก ร้องเล่นเต้นรำทำเพลง เป็นการสัมผัสสีสันยามค่ำคืนอีกมุมหนึ่งของเมืองตรัง เปิดเฉพาะศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ เวลา 17.30-22.00 น. เท่านั้น

ถนนคนเดินตรัง

10.หอนาฬิกาตรัง

หอนาฬิกาตรัง ทรงสี่เหลี่ยมแนวตั้ง มีอายุกว่า 50 ปีมาแล้ว มีการติดไฟประดับสลับสีกันทุกๆ 10 วินาที สร้างความสวยงามแปลกตาให้กับนักท่องเที่ยวได้มาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันอีกจุดหนึ่ง

หอนาฬิกาตรัง
 
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : นิตยสารคู่หูเดินทาง

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook.. ได้ที่นี่เลย!!

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook