อ.สังคม จ.หนองคาย ร้อนนี้ไม่ไปไม่ได้แล้ว

อ.สังคม จ.หนองคาย ร้อนนี้ไม่ไปไม่ได้แล้ว

อ.สังคม จ.หนองคาย ร้อนนี้ไม่ไปไม่ได้แล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หน้าร้อนนี้บางคนคงเลือกหลบร้อนอยู่ที่บ้าน หลายคนคงมีโปรแกรมไปเที่ยวทะเลคลายร้อน ผจญกับจำนวนนักท่องเที่ยวมหาศาลจนทำให้ทะเลกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ วันนี้ "นายรอบรู้" ขอพาเที่ยวหน้าร้อนในสถานที่แปลกใหม่อันว้าว !!!น่าตื่นตาตื่นใจ ในอ.สังคม จ.หนองคาย ที่ถูกคัดสรรมาให้คุณได้เที่ยวตามรอยอย่างจัดหนักจัดเต็ม ใครรักธรรมชาติ หลงใหลการผจญภัย ไม่ควรพลาด ตามเรามารู้จักอำเภอน่ารักแต่เปี่ยมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจชื่อว่า อ.สังคม ด้วยกันนะ!

อ.สังคม เป็นอำเภอเล็กๆของจ .หนองคาย มีพื้นที่ประมาณ 449 ตร.กม. เป็นจังหวัดที่มีภูมิทัศน์งดงามและมีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ติดลำน้ำโขง เหมาะสำหรับคนที่ชอบขับรถเที่ยวชมทิวทัศน์เพราะจะได้เห็นแม่น้ำโขงเป็นแนวยาวเลียบไปกับถนน ยิ่งมาในช่วงหน้าร้อนน้ำในลำน้ำโขงก็จะแห้งขอด เห็นเกาะแก่งและหาดทรายในลำน้ำสวยงามจับใจ นอกจากชมทิวทัศน์แม่น้ำโขง อ.สังคมยังมีที่เที่ยวทางธรรมชาติอีกมากมายรอให้คุณไปสัมผัส อย่ารอช้า ตาม "นายรอบรู้" มาได้เลย

เที่ยวเชิงธรณีวิทยา ชมทิวทัศน์ 360 องศาที่... "ภูผาดัก"

ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดภูผาดัก ภายในเนื้อที่ราว 15 ไร่ ตัววัดก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2480 ด้วยเหตุที่มีหน้าผาล้อมรอบชาวบ้านจึงเรียกกันสั้นๆว่า "วัดผาดัก" นอกจากวัดซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระภิกษุอาวุโสหลายท่าน เช่น หลวงปู่ผาง หลวงปู่เพชร หลวงปู่มั่น ฯลฯ

บริเวณวัดยังมีลานซึ่งมีหินเก่าแก่อายุกว่า 210 ล้านปีตั้งอยู่กระจัดกระจายในพื้นที่ เรียกกันว่า "ลานหินปุ่ม" จากลานหินปุ่มนี้ยังมีหน้าผาซึ่งมองเห็นทิวทัศน์ข้างล่างได้ 360 องศา ทิศเหนือมองเห็นเมืองหนองคาย ทิศตะวันตกเห็นภูนกกระบา อ.นายูง ทิศใต้มองเห็นจังหวัดอุดรธานี ส่วนทิศตะวันออกก็มองเห็นเมืองเวียงจัน ประเทศลาว สิ่งที่น่ามหัศจรรย์อีกอย่างคือบริเวณลานนี้มีก้อนหินขนาดย่อมก้อนหนึ่ง บริเวณหน้าก้อนกินมีรอยเท้าสองข้างฝังอยู่ในลานหิน สันนิษฐานกันว่าน่าจะเป็นรอยเท้าของหลวงปู่ผาง เมื่อครั้งที่ท่านได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดภูผาดักแห่งนี้

เยือนถิ่นพญานาค ที่"ถ้ำดินเพียง"

วัดถ้ำดินเพียง หรือ วัดถ้ำศรีมงคล มีสิ่งที่น่าสนใจภายในวัดคือ "ถ้ำดินเพียง" ถ้ำแห่งนี้บอกเล่าสืบต่อกันมาว่าเป็นถ้ำที่พระธุดงค์จากประเทศลาวได้เคยเดินทางข้ามมาได้โดยไม่ได้ผ่านมาทางเรือ จึงเชื่อกันว่ามีแต่ผู้ที่มีบุญบารมีเท่านั้นจึงจะเห็นเส้นทางภายในถ้ำ ชาวบ้านเชื่อกันว่าถ้ำเพียงดินแห่งนี้เป็นเมืองบาดาลของพญานาค ก่อนจะเข้าถ้ำจึงต้องมีการจุดธูปขอขมาพญานาคก่อนรวมทั้งทำตามกฎหลายอย่าง เช่น ห้ามใส่รองเท้าเข้าไป ห้ามปัสสาวะภายในถ้ำ ห้ามถุยน้ำลายภายในถ้ำ เป็นต้น ถ้ำดินเพียงเป็นถ้ำที่มีความชื้นสูงและมีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีแท่งหินวางเรียงรายอยู่ภายใน บางก้อนมีลักษณะคล้ายโลงศพซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นโลงศพของพญานาค

ถ้ำแห่งนี้มีฉายาว่า "ศาลาพันห้อง" ห้องหลักๆภายในถ้ำดินเพียงที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินชมมีอยู่ด้วยกัน 8 ห้อง ห้องแรกเป็นห้องโถงกลาง ทางเข้าห้องโถงจะค่อนข้างแคบแต่ภายในห้องโถงเย็นสบายและมีไฟสว่าง ก่อนจะเข้าสู่ห้องที่ 2 คือห้องหีบศพ บรรจุศพของปู่อินทร์นาคราช พญานาคราชที่ชาวบ้านนับถือ ห้องที่ 3 เป็นห้องเจดีย์ ห้องหีบศพ และแท่นบูชา ห้องที่ 4 เป็นห้องธิดานาคราช เป็นธิดาพญานาคที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าได้มาพบรักกับเจ้าชายแห่งเมืองมนุษย์

ห้องที่ 5 เป็นห้องช้างสามเศียร เป็นอีกจุดที่แคบที่สุดภายในเส้นทางเดินถ้ำ ต้องใช้ความสามารถในการลอดช่องแคบๆเข้าไป ห้องที่ 6 เป็นห้องพระคัมภีร์ แล้วจึงจะพบห้องที่ 6 ห้องโถงทางออก และหากเดินเข้าไปอีกทางหนึ่งใกล้ๆทางออกจะพบห้องที่ 8 ห้องปฏิบัติธรรม ว่ากันว่าภายในถ้ำแห่งนี้มีห้องเป็นร้อยๆห้อง ส่วนที่เป็นเส้นทางเดินที่ว่ามานี้เป็นพื้นที่ไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของทางเดินทั้งหมดภายในถ้ำ ถ้ำนี้จึงถือเป็นถ้ำมหัศจรรย์ที่มีทางออกไปยังจุดต่างๆอีกมากมายที่ยังไม่มีใครเคยได้สำรวจ

สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจมาเที่ยวถ้ำแห่งนี้ควรติดต่อมัคคุเทศก์ล่วงหน้า (ติดต่อได้ที่วัด) เพราะทางเข้าถ้ำค่อนข้างแคบและมืด นอกจากนั้นยังมีทางออกเล็กทางออกน้อยอีกมากมายซึ่งหากไม่มีคนนำทางอาจจะหลงทางได้ บางเส้นทางนำไปออกถึงฝั่งลาว จึงต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร

สัมผัสความงดงามของธรรมชาติที่ "วัดภูนกกระบา"

ภูนกกระบาเป็นแนวเทือกเขาที่ทอดยาวจาก จ.อุดรธานีมาจนถึง อ.สังคม จ.หนองคาย ที่ได้ชื่อนกกระบาเพราะเป็นภูที่มีนกกระบา หรือที่ภาคกลางเรียกว่านกโพระดก อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก วัดภูนกกระบาจัดตั้งเป็นวัดเมื่อปี พ.ศ. 2479 โดยมีพระครูสีลขันธสังวร เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัด และมีพระครูจันทร ปัญญาภรณ์ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "หลวงพ่อจันทร" เป็นเจ้าอาวาส ณ ปัจจุบัน

สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้คือเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงาม มองเห็น จ.หนองคายได้อย่างทั่วถึง นอกจากนั้นยังมีหอสูงที่ให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปขมความสวยงามของจังหวัดได้ 360 องศา ภูนกกระบามีลมพัดแรงเย็นสบายตลอดทั้งปี ในช่วงเช้าในฤดูหนาวที่ภูแห่งนี้ยังเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามมากอีกด้วย

ชมทิวทัศน์พานอรามาไทย-ลาวที่ "วัดผาตากเสื้อ"

วัดผาตากเสื้อเป็นวัดเก่าแก่ ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2477 เป็นวัดที่หลวงปู่เทศน์ เทศน์รังสีได้มาปฏิบัติธรรมอยู่ระยะหนึ่ง หลังจากนั้นก็ได้มีพระสายวิปัสสนากรรมฐานมาปฏิบัติธรรมยังวัดแห่งนี้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน โบสถ์ของวัดผาตากเสื้อมีความงดงามตามแบบจตุรมุข มีทางขึ้นลงโบสถ์ 3 ทาง ภายในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมตามเพดาน บอกเล่าเรื่องราวในพุทธประวัติที่สวยงาม ส่วนภายนอกวัดยังมีศาลาการเปรียญและหอระฆังอันสวยงาม

นอกจากเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่มีชื่อเสียง วัดผาตากเสื้อยังเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นจุดที่มองเห็นทิวทัศน์แบบพานอรามาของทั้งฝั่งไทยและฝั่งลาวได้อย่างชัดเจน ผู้มาเยือนอ.สังคมมักนิยมมาถ่ายภาพบริเวณนี้ ภายในวัดยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้นักนิยมไพรได้เข้าไปสัมผัสความอุดมสมบูรณ์ของป่าและรู้จักนกป่าหายากนานาชนิดอีกด้วย ถือเป็นสถานที่ที่ได้ครบถ้วนทั้งความสงบทางใจและความสุขจากการได้ใกล้ชิดธรรมชาติ

"น้ำตกท่าลี่" เที่ยวได้ตลอดปีไม่ง้อฝน

น้ำตกท่าลี่ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวใน ต.บ้านม่วง อ.สังคม ในช่วงฤดูฝนซึ่งเป็นหน้าน้ำน้ำจะขึ้นสูงเหมาะแก่การมาเล่นน้ำเป็นอย่างมาก ส่วนในฤดูร้อนน้ำตกจะแปรสภาพเป็นลำธาร มีน้ำพอประมาณ เดินเล่นน้ำพอคลายร้อนได้ อีกทั้งมีความร่มรื่น น้ำตกท่าลี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ใน อ.สังคม ที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์และความสวยงามเอาไว้ได้มาก หากต้องการท่องเที่ยวในสถานที่แปลกใหม่น่าประทับใจลองมาเที่ยวน้ำตกแห่งนี้ได้ตลอดทั้งปี

สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ชวนกันไปนั่งอีแต๋นขึ้น "ภูโล้น"

ภูโล้นเป็นจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามมากอีกจุดหนึ่ง จากบนภูโล้นมองเห็นลำน้ำโขงและเกาะแก่งมากมายด้านล่างได้ชัดเจน นอกจากนั้นยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามมากอีกจุดหนึ่ง การขึ้นถึงยอดภูโล้นนั้นต้องใช้รถโฟร์วิวขึ้นไป หรือหากต้องการสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ ชาวบ้านบ้านม่วงมีบริการขับรถอีแต๋นไปส่งไป-กลับยอดภูในราคาคนละ 50 บาท

นักท่องเที่ยวจะได้ชมบรรยากาศทางขึ้นภูบนรถอีแต๋นลำเล็กพร้อมเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ไม่เคยได้ลิ้มลอง (สอบถามข้อมูลรถอีแต๋นได้ที่ท่านนายก อบต.บ้านม่วง โทร. 08-7219-5500) นอกจากนั้นบริเวณภูโล้นยังถือเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญ เพราะเป็นภูเขาที่มีร่องรอยของการทำเหมืองทองแดงโบราณประมาณ 4,000 ปีมาแล้ว สังเกตได้จากการพบเบ้าหลอมโลหะและเศษโลหะมากมาย ทั้งสำริด ทองแดง รวมทั้งดีบุกด้วย

ล่องแก่งลำน้ำโขง เที่ยวชม "พันโขด แสนไคร้"

ใครจะคิดว่าลำน้ำโขงนั้นจะมีเกาะแก่งมากมายจนสามารถ "ล่องแก่ง" ได้ แต่หากได้มาเยือน อ.สังคม ในช่วงฤดูแล้ง ที่น้ำแห้งขอดลดระดับลงต่ำ ก็จะมีโอกาสได้เห็นความมหัศจรรย์ของเกาะแก่งมากมายในลำน้ำ และกระแสน้ำอันเชี่ยวพอที่จะให้ใครต่อใครคิดกิจกรรมชมธรรมชาติอย่างล่องแก่งลำน้ำโขงได้ ร้อนนี้ ชาว อ.สังคมชวนเที่ยวชม "พันโขด แสนไคร้" เกาะแก่งในลำน้ำโขงเขต อ.สังคมที่ปรากฏเป็นรูปลักษณ์สวยงามรออวดโฉมนักท่องเที่ยว ที่ได้ชื่อว่าพันโขด แสนไคร้ ก็เพราะนักท่องเที่ยวจะได้เห็นโขดหินและแก่งหินที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำมากมายมหาศาลเป็นพันๆโขด แต่ละโขดมีต้นไคร้สีเขียวสดขึ้นแซม ประดับประดาอยู่มากมายเปรียบเปรยได้เป็นแสนๆต้น นั่นเอง

หากนักท่องเที่ยวสนใจชมความงามของลำน้ำโขง ชาวบ้านบ้านม่วงมีเรือหางยาวบริการในราคาลำละ 300 บาท ลำหนึ่งขึ้นได้ไม่เกิน 4 คน และใช้เวลาในการล่องเรือ 1 ชั่วโมงครึ่ง นักท่องเที่ยวจะได้ล่องเรือผ่านหาดและเกาะแก่งต่างๆมากมาย อาทิ หาดแสน คกอาน หาดแห่ แก่งพาล ถ้ำแข้ เป็นต้น ผ่านทั้งช่วงที่น้ำนิ่ง ลมพัดเย็นสบาย ได้ชมธรรมชาติสูดอากาศบริสุทธิ์ และช่วงที่น้ำไหลค่อนข้างเชี่ยว พอให้ได้ล่องเรือทวนน้ำอย่างสนุกสนานตื่นเต้น

การล่องเรือจะเริ่มตั้งแต่ช่วงหาดแสน บ้านม่วง ไปจนถึงถ้ำแข้ บ้านห้วยค้อ เป็นอันสิ้นสุด นักท่องเที่ยวสามารถบอกคนเรือได้ว่าต้องการหยุดถ่ายภาพตรงจุดไหนเป็นพิเศษ แต่จุดที่เป็นที่นิยมมากอยู่ที่ "แก่งพาล" ซึ่งเป็นแก่งสูงกลางลำน้ำ อยู่ในเขตบ้านห้วยค้อ เป็นจุดที่ชาวบ้านที่ออกหาปลาจะมานั่งพักผ่อนบริเวณแก่งนี้ บนแก่งเมื่อปีนขึ้นไปจะมองเห็นทิวทัศน์ของลำน้ำโขงได้กว้างไกลและสวยงามยิ่งขึ้น และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม

ใครอยากชมความมหัศจรรย์ของลำน้ำโขงในเขต จ.หนองคาย สักครั้งในชีวิตควรจะได้มาล่องแก่งลำน้ำโขงแห่งนี้!

"ภูถ้ำ" เข้าถ้ำไหว้พระ ชมต้นจันทน์ผาที่ใหญ่ที่สุดในโลก

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแสนมหัศจรรย์แห่ง อ.สังคม จ.หนองคาย ด้วยการปีนขึ้นไปสัมผัสความสวยงามของทิวทัศน์เมืองหนองคายบนยอดภูสูง ชมความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่ยังไม่ถูกทำลายโดยน้ำมือมนุษย์ ภูถ้ำแห่งนี้เพิ่งเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวในปีนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวรู้จักไม่มากนักจึงยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่ได้มาก

จากจุดเริ่มต้น นักท่องเที่ยวต้องปีนขึ้นไปบนภูสูงราว 400 เมตร ในเส้นทางจะผ่านถ้ำเล็กถ้ำน้อยมากมาย แต่ถ้ำที่เปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีเพียงไม่กี่ถ้ำ เช่น ถ้ำจันทน์ผาใหญ่ ถ้ำพระ ถ้ำปากท่อ และถ้ำแอร์ ถ้ำที่มีชื่อเสียงอย่างมากคือถ้ำพระ เป็นถ้ำที่ว่ากันว่าในอดีตมีพระธุดงค์มาอาศัยอยู่ที่นี่เป็นเวลานาน ภายในถ้ำประดิษฐานพระพุทธรูปไว้ให้ผู้คนมาสักการบูชา นอกจากนั้นยังมีถ้ำแอร์ ถ้ำที่ภายในเย็นราวกับอยู่ในห้องแอร์ แต่พื้นที่แคบต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินเข้าไป ระหว่างทางไปถ้ำต่างๆจะผ่านจุดชมทิวทัศน์หลายจุด แต่จุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามมากจุดหนึ่งอยู่บริเวณถ้ำจันทน์ผา ไม่ควรพลาดชม

อีกสิ่งมหัศจรรย์บนภูถ้ำแห่งนี้คือต้นจันทน์ผาซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก ความสูงราว 6 เมตร ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณถ้ำจันทน์ผาซึ่งอยู่ในช่วง 100 เมตรแรกของการปีนขึ้นไป นอกจากต้นที่ใหญ่ที่สุดนี้ยังมีต้นที่ใหญ่รองลงมา เป็นต้นจันทน์ผาคู่ มีความงดงามน่าชม คุ้มค่าสำหรับการปีนป่ายขึ้นมาเที่ยวชมอย่างมาก

หนองคาย ไม่ไปไม่รู้

หลังจากเที่ยวกันอิ่มความสุขกันแล้ว ความคิดที่ว่า อ. สังคมเป็นอำเภอเล็กๆที่ไม่น่าเที่ยวคงผิดถนัด ทว่ากลับมีสถานที่ท่องเที่ยวรอคอยอยู่อีกตั้งหลายแห่งที่"นายรอบรู้" ยังไม่ได้พาไป เช่น "บ่อทองโบราณ" เก่าแก่ของชาวบ้านท่าม่วง "ศูนย์คุ้มครองพันธุ์พืชป่า จ.หนองคาย" ซึ่งมีกระท่างหรือกิ้งก่ายักษ์รวมทั้งปูหิน ปูหายากให้ชม "ภูห้วยอีสัน" ซึ่งเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามมาก

ก่อนกลับเข้าสู่ จ.หนองคาย "นายรอบรู้" ชวนแวะ "บ้านกองนาง" อ.ท่าบ่อ ชมหมู่บ้านประมงน้ำจืด แหล่งเพาะพันธุ์ปลานิลสายพันธุ์จิตรลดา 3 ซึ่งปรับปรุงมาจากปลานิลพันธุ์ผสมกลุ่มต่างๆถึง 7 สายพันธุ์ จากนั้นแวะเข้าหมู่บ้านชมกระบวนการผลิตเส้นยาสูบของชาวบ้าน ซึ่งเป็นยาสูบพันธุ์เวอร์จิเนีย ชาวบ้านปลูกเองและนำออกขายเพื่อแปรรูปเป็นยาสูบต่อไป

เที่ยวหนองคายจนอิ่ม ก่อนกลับบ้านอย่าลืมแวะเที่ยว "ตลาดท่าเสด็จ" ตลาดแสนคึกคักในตัวเมืองหนองคาย รวมร้านขายของฝากน่าซื้อหาและร้านของกินเด็ดๆอย่างแหนมเนืองหลายร้าน นอกจากนั้นยังเป็นจุดชมทิวทัศน์แม่น้ำโขงที่สวยงามอีกจุดหนึ่งด้วย

เรื่องและภาพ: ปฐวี พรหมเสน

(คลิกที่ภาพ เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)

อัพเดตสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น เกาะล้าน เชียงใหม่ สวนผึ้ง หัวหิน เกาะเสม็ด
แวะชมแหล่งท่องเที่ยว เกาะช้าง เชียงคาน ภูเก็ต เขาใหญ่ และ ปาย

ร่วมเป็นแฟนเพจเรา บน Facebook.. ได้ที่นี่เลย!!

อัลบั้มภาพ 25 ภาพ

อัลบั้มภาพ 25 ภาพ ของ อ.สังคม จ.หนองคาย ร้อนนี้ไม่ไปไม่ได้แล้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook