เปิดเผย “สมบัติลับ” ที่ฮ่องเต้องค์สุดท้าย เสี่ยงนำออกจากวังต้องห้าม พกติดตัวถึงวาระสุดท้าย!

เปิดเผย “สมบัติลับ” ที่ฮ่องเต้องค์สุดท้าย เสี่ยงนำออกจากวังต้องห้าม พกติดตัวถึงวาระสุดท้าย!

เปิดเผย “สมบัติลับ” ที่ฮ่องเต้องค์สุดท้าย เสี่ยงนำออกจากวังต้องห้าม พกติดตัวถึงวาระสุดท้าย!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไขปริศนาวัตถุลับที่ "จักรพรรดิปูยี" เสี่ยงชีวิตนำออกจากพระราชวังต้องห้าม และพกติดตัวถึงวาระสุดท้าย นักวิชาการตะลึง "สมบัติล้ำค่าที่ประเมินไม่ได้"

ในประวัติศาสตร์ จักรพรรดิหลายพระองค์มักครอบครองสมบัติล้ำค่าหายากมากมายที่เก็บไว้ในคลังส่วนพระองค์ เช่น งานศิลปะ เครื่องเคลือบ อัญมณี และของล้ำค่าแปลกตาอื่นๆ ราชวงศ์ชิงก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น โดยมีบันทึกมากมายในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสมบัติของจักรพรรดิในราชวงศ์นี้

จักรพรรดิปูยี ซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายของราชวงศ์ชิง ได้รับสืบทอดทรัพย์สมบัติล้ำค่าจากบรรพบุรุษ และเมื่อถึงเวลาต้องออกจากพระราชวังต้องห้ามภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน พระองค์นึกขึ้นได้ถึงวัตถุพิเศษชิ้นหนึ่งที่ต้องรักษาไว้ให้ได้ จึงให้คนเย็บวัตถุนั้นซ่อนไว้ในเสื้อผ้าเพื่อป้องกันไม่ให้สูญหาย ขณะนั้น มีไม่กี่คนที่รู้ว่าสิ่งของที่จักรพรรดิปูยีนำติดตัวไปด้วยคือตราประทับสามชิ้น ที่ทำจากหินเทียนหวง ซึ่งเป็นหินอัญมณีหายากที่ราชสำนักต้องใช้เงินมหาศาลในการจัดหา

ตราทั้งสามนี้ เป็นผลงานที่จักรพรรดิเฉียนหลงสั่งทำขึ้นโดยเฉพาะ สองในสามเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม มีการแกะสลักคำว่า “เฉียนหลงเสินฮั่น” และ “เพียงหนึ่งเดียวที่บริสุทธิ์” ตัวอักษรที่แกะสลักไม่เพียงแต่สวยงามทางศิลปะ แต่ยังสะท้อนปรัชญาการปกครองของเฉียนหลง ที่ว่า “มีเพียงกษัตริย์ผู้ปกครองเท่านั้นที่รู้วิธีรักษาความถูกต้องและตำแหน่งของตน เพื่อพัฒนาประเทศชาติ” ส่วนตราชิ้นที่สามมีรูปทรงวงรี แกะสลักคำที่มีมีความหมายว่า การยอมรับโชคชะตาโดยไม่วิตกกังวล

ตามที่นักโบราณคดีจากพิพิธภัณฑ์พระราชวังต้องห้ามให้ข้อมูล ความล้ำค่าของตราทั้งสามนี้อยู่ที่การทำจากหินเทียนหวง ซึ่งถือเป็นอัญมณีอันดับหนึ่งของจีน ในความเชื่อโบราณ สีเหลืองของหินนี้เป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและอำนาจ จึงเหมาะสมอย่างยิ่งในการใช้สร้างตราประทับสำหรับกษัตริย์ อีกทั้งการสร้างตราทั้งสามชิ้นนี้ต้องอาศัยฝีมือขั้นสูง โดยช่างฝีมือได้ใช้เทคนิคการแกะสลักอย่างวิจิตร ประณีต บรรจงสร้างขึ้นจากหินก้อนเดียวให้กลายเป็นผลงานที่แยกจากกันไม่ได้ แสดงถึงทักษะชั้นครู และเป็นหนึ่งในสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของจีน

ด้วยเทคนิคการแกะตราชั้นเลิศนี้ ทำให้ตราทั้งสามไม่เพียงมีคุณค่าทางวัตถุ แต่ยังมีคุณค่าทางวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง ตราประทับเหล่านี้จึงไม่ใช่เพียงมรดกของจักรพรรดิปูยีเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งประวัติศาสตร์ ศิลปะ และปรัชญาการปกครองของยุครุ่งเรืองในวัฒนธรรมจีน ดังนั้น สิ่งของชิ้นนี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ที่ขาดไม่ได้ในคลังมรดกวัฒนธรรมของชาติ แฝงไว้ด้วยชีวิตและคุณค่าที่คงอยู่เหนือกาลเวลา

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล