หนุ่มคันอวัยวะเพศ เชื่อในเน็ตถูฆ่าเชื้อด้วย "น้ำมะนาว" ผลที่ได้จำจนตาย แค่อ่านยังแสบแทน

หนุ่มคันอวัยวะเพศ เชื่อในเน็ตถูฆ่าเชื้อด้วย "น้ำมะนาว" ผลที่ได้จำจนตาย แค่อ่านยังแสบแทน
สำนักข่าว VnExpress ของเวียดนามรายงานกรณีชายวัย 23 ปี นำมะนาวมาถูบริเวณอวัยวะเพศด้วยความเชื่อว่าจะช่วยรักษาอาการคัน และฆ่าเชื้อแบคทีเรียตามคำแนะนำจากอินเทอร์เน็ต แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นแผลอักเสบ รอยแดงลุกลามและมีอาการรุนแรงมากขึ้น
กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับกระแสการใช้มะนาวรักษาโรค โดยเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศ ซึ่งแม้จะได้รับความสนใจในโลกออนไลน์ แต่ผู้เชี่ยวชาญต่างเตือนว่าการกระทำเช่นนี้อาจเป็นอันตรายอย่างมาก
ทำไมไม่ควรใช้มะนาวถูบริเวณอวัยวะเพศ?
นพ. Bùi Thị Xuân แพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็งวิทยาและนรีเวช จากคลินิก QTN ระบุว่า มะนาวมีกรดซิตริก ซึ่งเป็นกรดแรง เหมาะสำหรับการดับกลิ่นและทำความสะอาดทั่วไป แต่ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับบริเวณที่ผิวบางและไวต่อการระคายเคือง เช่น อวัยวะเพศ
แพทย์อธิบายให้เห็นภาพว่า หากมีแผลถลอกแล้วหยดน้ำมะนาวลงไป จะรู้สึกแสบร้อนอย่างรุนแรงทันที ทั้งผู้หญิงและผู้ชายล้วนมีผิวบริเวณอวัยวะเพศที่บอบบาง หากมีอาการคันหรือแผลแล้วนำมะนาวไปถู เท่ากับเป็นการซ้ำเติมอาการ
ยิ่งไปกว่านั้น มะนาวยังสามารถทำลายสมดุล pH ในบริเวณอวัยวะเพศ ซึ่งเป็นระบบธรรมชาติที่ร่างกายออกแบบมาให้รักษาสุขภาพผิวไว้ โดยมีจุลินทรีย์ที่ดีคอยป้องกันเชื้อโรค เมื่อกรดในมะนาวไปทำลายสมดุลนี้ จะยิ่งเปิดโอกาสให้เชื้อราหรือแบคทีเรียร้ายเจริญเติบโต จนอาการแย่ลง เช่น คันมากขึ้น อักเสบ ลุกลาม เป็นแผล หรือเกิดตุ่มหนอง
“จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีงานวิจัยใดในทางการแพทย์แนะนำให้ใช้มะนาวทำความสะอาดอวัยวะเพศ ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง หลายคนไม่กล้าไปพบแพทย์ เชื่อคำลือในโซเชียล สุดท้ายก็ต้องเสียใจเมื่อเกิดปัญหาหนักขึ้น” แพทย์กล่าว
หากคุณมีอาการคันหรืออักเสบ ควรทำอย่างไร?
แพทย์แนะนำว่า:
-
ล้างด้วยน้ำอุ่นสะอาดเบา ๆ ห้ามใช้สบู่ น้ำหอม แอลกอฮอล์ หรือมะนาว
-
ใส่ชุดชั้นในที่แห้ง โปร่ง ไม่รัดแน่น
-
ห้ามใช้วิธีตามภูมิปัญญาชาวบ้านโดยพลการ
-
ที่สำคัญที่สุด ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และรับการรักษาที่เหมาะสม
การใช้มะนาวอย่างถูกวิธีเพื่อสุขภาพ
แม้มะนาวจะมีประโยชน์มากมาย แต่ต้องใช้ให้ถูกวิธี โดยเฉพาะทางการบริโภค:
1. บ้วนปากหลังดื่มน้ำมะนาว กรดในมะนาวสามารถกัดกร่อนเคลือบฟัน หากใช้บ่อยโดยไม่ระวัง หลังดื่มควรบ้วนปากด้วยน้ำเปล่า และอย่าแปรงฟันทันที
2. คนที่มีโรคกระเพาะควรระวัง ผู้ที่เป็นแผลในกระเพาะอาหาร กรดไหลย้อน หรือมีปัญหากระเพาะ ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำมะนาว โดยเฉพาะขณะท้องว่าง เพราะจะกระตุ้นเยื่อบุกระเพาะให้แย่ลง
3. ห้ามใช้มากเกินไป แม้มะนาวจะมีประโยชน์ แต่การใช้มากเกินไปอาจรบกวนสมดุลแร่ธาตุในร่างกาย ทำลายเคลือบฟัน และทำให้กระเพาะอักเสบได้
4. เลือกเวลาดื่มให้เหมาะสม ดื่มน้ำมะนาวตอนเช้าอาจช่วยล้างระบบย่อยอาหาร แต่ควรผสมน้ำผึ้งเพื่อลดความเป็นกรด และควรดื่มหลังอาหารเช้าโดยเฉพาะคนที่มีปัญหากระเพาะอาหาร