G20 บรรลุข้อตกลงปฏิรูป IMF

บรรดารัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ 20 ประเทศ หรือ จี-20 บรรลุข้อตกลงสำคัญร่วมกันเมื่อวันเสาร์ เห็นชอบให้ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ที่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจรวดเร็ว มีสิทธิมีเสียงมากขึ้นในกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ เพื่อ ไอเอ็มเอฟ จะได้เป็นองค์กรที่มีประสิทธิภาพ น่าเชื่อถือและชอบธรรมยิ่งขึ้น และทำให้
ไอเอ็มเอฟ แสดงบทบาทของตนเอง ในการสนับสนุนการดำเนินการของการเงินระหว่างประเทศและระบบการเงินทวีปยุโรปตกลงสละโควตา 2 ที่นั่ง จาก 8 หรือ 9 ที่นั่งในคณะกรรมการบริหารของไอเอ็มเอฟ ซึ่งจะยังมีสมาชิกอยู่ 24 ประเทศเหมือนเดิม และในท้ายที่สุดคณะกรรมการบริหารจะมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวสะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนแปลงอำนาจโลกไปจาก กลุ่มประเทศอุตสาหกรรม ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว มากกว่าร้อยละ 6 ของอำนาจในการออกเสียงในไอเอ็มเอฟ จะเปลี่ยนไปเป็นประเทศกำลังพัฒนา เช่น จีน ซึ่งจะกลายเป็นสมาชิกใหญ่อันดับ 3 ของ ไอเอ็มเอฟ ที่มีสมาชิก 187 ประเทศ นอกจากนี้ ทั้งอินเดียและประเทศอื่น ๆ ก็จะมีสิทธิมีเสียงทัดเทียมกับยุโรป

นายโดมินิค สเตราส์-คาห์น ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ กล่าวกับ ผู้สื่อข่าวที่เมืองเคียงจู ประเทศเกาหลีใต้ สถานที่ประชุมว่า นับเป็นการปฏิรูปครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมาในการบริหารของไอเอ็มเอฟ และมันเป็นข้อตกลงประวัติศาสตร์ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่ จี-20 พยายามต่อสู้ดิ้นรนอย่างหนัก เพื่อสกัดสงครามค่าเงินระหว่างประเทศผู้ส่งออกเป็นหลัก เช่นจีน และประเทศที่มีภาระหนักในการขาดดุลงบประมาณ เช่น สหรัฐ ซึ่งกล่าวหาจีน ว่าเอาเปรียบทางการค้าด้วยการปล่อยให้ค่าเงินหยวนอ่อนเกินจริง และสหรัฐกดดัน ไอเอ็มเอฟ มานานแล้วให้เข้าแทรกแซงกรณีพิพาทค่าเงินให้จริงจังมากขึ้น

นอกจากนี้ จี-20 ยังแสดงความยินดีต่อไอเอ็มเอฟที่เพิ่มความเข้มแข็งให้กับระบบสินเชื่อที่มีความยืดหยุ่น อีกทั้งจัดตั้งระบบสินเชื่อแบบเฝ้าระวังเพื่อเสริมความเข้มแข็งให้แก่เครือข่ายความปลอดภัยของการเงินโลก รับมือกับวิกฤติการเงินที่อาจจะเกิดขึ้นรอบใหม่