สั่งลุยรถไฟความเร็วสูงหนองคาย-กทม.-ปาดังเบซาร์

สั่งลุยรถไฟความเร็วสูงหนองคาย-กทม.-ปาดังเบซาร์

สั่งลุยรถไฟความเร็วสูงหนองคาย-กทม.-ปาดังเบซาร์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจวันนี้(30 ส.ค.)มีการหารือถึงการดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงใน 4 เส้นทาง วงเงินลงทุนกว่า 7 แสนล้านบาท คือ กทม.-หนองคาย / กทม.-เชียงใหม่ /กทม.ระยอง และกทม.-ปาดังเบซาร์ โดยที่ประชุมมีมติให้ไปศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูง กทม.-ระยอง ระยะทาง 221 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 56,601 ล้านบาท และ กทม.-เชียงใหม่ ระยะทาง 745 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 2.09 แสนล้านบาท แล้วนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ภายในกรอบเวลาเดิมคือ 30 ก.ย.นี้ 

ขณะที่โครงการรถไฟความเร็วสูงอีก 2 สาย คือ กทม.-หนองคาย ระยะทาง 615 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 1.8 แสนล้านบาท และ กทม.-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 982 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 2.4 แสนล้านบาท พบว่าเป็นเส้นทางเดียวกับ แผนการลงทุนพัฒนาระบบขนส่งในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีการดำเนินการอยู่แล้ว ดังนั้นที่ประชุมจึงเห็นว่าไม่จำเป็นจะต้องทำการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนโครงการดังกล่าวอีก และสามารถเดินหน้าโครงการได้เลย

ทั้งนี้กระทรวงการคลังได้เดินทางไปหารือร่วมกับนักลงทุนจีน พบว่า จีนมีความสนใจเข้ามาลงทุนในโครงการรถไฟความเร็วสูงทั้ง 2 สายนี้ จึงให้คณะกรรมการศึกษารายละเอียดการร่วมทุนก่อสร้างโครงการพัฒนากิจการรถไฟฟ้าระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มี นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไปศึกษาแผนการร่วมลงทุนทั้งเงื่อนไขการลงทุน (ทีโออาร์) รูปแบบการลงทุน และข้อปฏิบัติในแง่ของกฎหมายการลงนามร่วมลงทุนกับจีน(MOU) เพื่อเสนอเข้าที่ประชุม ครม.และรัฐสภาต่อไป โดยเมื่อผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้วจึงจะเดินทางไปลงนามความร่วมมือกับจีนในโครงการดังกล่าว

ทั้งนี้การลงทุนในเฟสแรก จะเดินหน้าเส้นทาง หนองคาย-กทม. ระยะทาง 615 กิโลเมตร วงเงิน 1.8 แสนล้านบาท เป็นเส้นทางแรก ระยะเวลาก่อสร้าง 5 ปี เมื่อสร้างเสร็จแล้วจะใช้เวลาเดินทางจากกทม.-หนองคาย ประมาณ 3 ชั่วโมงและเดินทางไปถึงคุนหมิง ประเทศจีน ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 41,000 คนต่อวันในระยะแรก ค่าโดยสารสูงสุดต่อเที่ยวอยู่ที่ประมาณ 984 บาท/คน/เที่ยว

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook