รองสุเทพบอกM79ซุกทำเนียบหวังดิสเครดิตรัฐ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่ เจ้าหน้าที่พบหัวระเบิด M79 ภายในทำเนียบรัฐบาลวานนี้ ว่า ขณะนี้มาตรการรักษาความปลอดภัยยังสามารถดูแลได้ แต่เจ้าหน้าที่ต้องมีความรอบคอบ และไม่หย่อนยาน ขณะที่สถานที่สาธารณะ นั้น ตนสั่งการให้เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งหน่วยข่าวทุกหน่วยงาน ติดตามกลุ่มบุคคล ทุกกลุ่ม ที่พยายามจะก่อเหตุ ซึ่งหากพบหลักฐาน ก็จะจับกุมดำเนินคดี ก่อนก่อเหตุ และหากเกิดเหตุแล้ว ก็จะต้องระดมผู้ที่เชี่ยวชาญ และมีความสามารถเข้ามารับผิดชอบสอบสวนคดี โดยนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่า เกิดจากสาเหตุใด แต่ภาพรวมนั้น เห็นว่ามีผู้ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาล

รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวอีกว่า สถานการณ์ในขณะนี้ที่ใกล้ช่วงโยกย้ายข้าราชการ และจะทำให้เกิสุญญากาศนั้น ว่า ไม่มีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น แต่หากผู้ใดปล่อยให้ปล่อยเกิดเรื่องนี้ ก็จะเป็นผลเสียต่อตนเอง

ขระเดียวกัน รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การสัมมนากรรมการบริหาร และ ส.ส.ของพรรคว่า มีความมุ่งหวัง พร้อมทำความเข้าใจในแนวคิดนโยบายปรองดองสมานฉันท์ ของนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ส.ส.ของพรรค ต้องนำเรื่องนี้ไปเผยแพร่ต่อประชาชนในพื้นที่ และทุกวงข่าวต้องเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนความเห็นต่างนั้น ก็จะมีกระบวนการหาข้อยุติได้โดยวิถีทางของประชาธิปไตย ทั้งนี้ ในความเป็นพรรคการเมือง ต้องมีความเข้มแข็งมีคุณภาพ และเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่ง ส.ส. ต้องเป็นแกนนำ ในกระบวนการปฏิรูปประเทศ และสร้างความปรองดอง ขณะที่สาขาพรรคต้องปรับตัวให้เป็นศูนย์บริการประชาชนได้ทุกเรื่อง ทั้งนี้ มีการตั้งเป้าหมายว่าต้องสำเร็จภายใน 12 เดือน นี้ อย่างไรก็ตาม ยืนยัน พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีนิยมซื้อตัว ส.ส. แต่จะเป็นการเปิดรับบุคคลที่มีอุดมการณ์เดียวกัน มากกว่า

นายสุเทพ ยังกล่าวถึง ปัญหาองค์ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในสมัยนี้ว่า ต้องใช้กฎเหล็กของพรรค โดย ส.ส. ต้องบังคับตนเองให้ตระหนักถึงหน้าที่ การทำงานในสภา แต่ยังไม่มีการกำหนดว่าจะไม่ส่งสมัครรับเลือกตั้งในคราวต่อไป ขณะเดียวกัน มั่นใจยังสามารถคุมเสียงในสภาได้ รวมทั้งบริหารจัดการคะแนนเสียง ในการผลักดันกฎหมาย และนโยบายที่สำคัญต่างๆ ของรัฐบาลอีกทั้งพรรคร่วมรัฐบาลยังมีความแข็งแกร่งกัน


นอกจากนี้ นายสุเทพ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวระหว่างปิดการสัมมนาระดมรวมพลังแก้ไขวิกฤติภาคประชาชน จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสัมมนากรรมการบริหาร และ ส.ส.ของพรรค ว่า การเมืองต้องระดมความเห็นทุกภาคส่วนหลอมรวมกัน แต่ต้องนำความเห็นที่เป็นส่วนดี สร้างสรรค์มาใช้ ซึ่งจากการที่พรรคเป็นฝ่ายค้านมานานนั้น มีความชำนาญในการนินทาผู้อื่น จึบขาดวิธีการชักชวนด้วยวิธีการที่ดี ขณะที่บางคนเมื่อเห็นช่องทางที่ดี ก็จะออกไป แต่ว่าสมาชิกพรรคประชาชนบางคน ถือว่าเป็นเจ้าของพรรคการเมือง ทำให้กลายเป็นการเมืองของภาคประชาชนโดยรากแท้ ทั้งนี้ ต้องไม่แยกตัวออกจากประชาชน เพื่อให้หลอมรวมตนเองเข้าหาประชาชนให้ได้ ขณะที่ในฐานะที่เป็นเจ้าของพรรคนั้น สมาชิกพรรคต้องเป็นผู้นำมวลชน โดยอยากฝากความหวังให้กับ ส.ส. ในจังหวัด เพราะไม่มีทางทำสำเร็จได้ ซึ่งตนขอให้นำสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการ ไปอธิบายต่อประชาชนขณะเดียวกัน พรรคต้องมีสมาชิกที่มีคุณภาพ ก็จะเป็นรัฐบาลพรรคเดียวได้ และยอมรับว่าที่ผ่านมา มีเรื่องน่ากลัวตลาดเวลา ซึ่งมองว่าในชีวิตการเมืองกว่า 30 ปี นั้น เป็นช่วงที่ทำงานยากลำบากมาก เนื่องจากสถาบันหลักของชาติ ในกลุ่มเสี่ยงและถูกโจมตี แต่พิสูจน์แล้ว ศูนย์รวมจิดใจของคนไทย คือ สถาบันประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม จังหวัดภูเก็ตเป็นรุ่นแรกและพรรคจัดทำทุกจังหวัดทั่วประเทศ


ทั้งนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวระหว่างปิดการสัมมนาระดมรวมพลังแก้ไขวิกฤตชาติภาคประชาชน จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นส่วน หนึ่งในการสัมมนากรรมการบริหารและส.ส.ของพรรคว่า สถานการณ์ขณะนี้ยอมรับว่า หนักใจมาก เพราะฝั่งตรงข้ามทราบว่า พรรคเข้มแข็ง มีสมาชิกพรรคสนับสนุนจำนวนมาก โดยปัจจุบันกลุ่มคน เสื้อแดง พยายามแยกพรรคออกจากประชาชน ทำให้พรรคประชาธิปัตย์ กลายเป็นจำเลย ซึ่งมองว่า ไม่เคยกล่าวถึงสิ่งที่ดีงาม ที่พรรคเคยทำไว้ ทั้งนี้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค เคย สอนตนไว้ว่า ก่อนชาติจะแข็งแรง ต้องทำให้พรรคแข็งแรงก่อน อย่างไรก็ตามหลังจากนายสุเทพ บรรยายเสร็จได้เปิดวีซีดีการชุมนุมทางการเมืองให้กับ ส.ส.กรรมการบริหารพรรคและผู้เข้าร่วม สัมมนารับฟังและรับชมพร้อมกับแจกจ่ายวีซีดีบางส่วน ให้นำไปเปิดดูและอธิบายต่อไป โดยย้ำว่า ทำทุกอย่างเพื่อบ้านเมือง