ปชป.ชี้จับฮาร์อคอร์สัญญาณดีสู่เลิกพรก.
น.พ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทางพรรคได้ทำการประเมินผลจากการลงพื้นที่ ปราศรัยและหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 6 กทม. ซึ่งเห็นได้ชัดว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้ใช้แนวทางการหาเสียงเพื่อเดินหน้าประเทศไทย ซึ่งมีการเน้นใน 3 ด้าน คือ ความรู้ ความสามารถของผู้สมัคร การฟื้นฟูเศรษฐกิจกับการแก้ปัญหาของประเทศ
และการให้ความสำคัญกับอนาคต ที่จะแก้วิกฤติ เพื่อเดินหน้าสู่ความปรองดอง ซึ่งแตกต่างจากพรรคการเมืองคู่แข่งขัน กลับเน้นสาระการหาเสียงย่ำอยู่บนความขัดแย้งของประเทศ การโจมตีรัฐบาล และฝ่ายตรงข้าม ทั้งๆ ที่ประชาชนอยากเห็นความแก้ไขของประเทศมากกว่า
นอกจากนี้ น.พ.บุรณัชย์ ยังกล่าวถึง กรณีการทยอยประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในบางพื้นที่ ของรัฐบาลว่า ความเสียหายของประเทศ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่เกิดจากการเคลื่อนไหวจากในและนอกประเทศ ซึ่งรัฐบาลก็ได้ยึดหลักการทำงาน 2 ข้อ คือ ดูแลรับผิดชอบประชาชนส่วนใหญ่ และแยกผู้กระทำผิดกฎหมายจากประชาชนผู้บริสุทธิ์ ทั้งนี้ การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ผ่านมา สามารถหยุดเหตุวุ่นวาย และจับตัวแกนนำกลุ่มฮาร์ดคอร์ได้ ซึ่งก็ถือว่าเริ่มเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติ และเป็นสัญญาณการนำไปสู่ การทยอย ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก่อนหมดอายุความ ซึ่งก็สอดคล้องกับคณะปฏิรูปที่มี นายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธานที่ได้เสนอให้จัดทำแผนโรดแมป เมื่อทยอย
ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และเสนอต่อ ศอฉ. ต่อไป
และการให้ความสำคัญกับอนาคต ที่จะแก้วิกฤติ เพื่อเดินหน้าสู่ความปรองดอง ซึ่งแตกต่างจากพรรคการเมืองคู่แข่งขัน กลับเน้นสาระการหาเสียงย่ำอยู่บนความขัดแย้งของประเทศ การโจมตีรัฐบาล และฝ่ายตรงข้าม ทั้งๆ ที่ประชาชนอยากเห็นความแก้ไขของประเทศมากกว่า
นอกจากนี้ น.พ.บุรณัชย์ ยังกล่าวถึง กรณีการทยอยประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในบางพื้นที่ ของรัฐบาลว่า ความเสียหายของประเทศ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่เกิดจากการเคลื่อนไหวจากในและนอกประเทศ ซึ่งรัฐบาลก็ได้ยึดหลักการทำงาน 2 ข้อ คือ ดูแลรับผิดชอบประชาชนส่วนใหญ่ และแยกผู้กระทำผิดกฎหมายจากประชาชนผู้บริสุทธิ์ ทั้งนี้ การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ผ่านมา สามารถหยุดเหตุวุ่นวาย และจับตัวแกนนำกลุ่มฮาร์ดคอร์ได้ ซึ่งก็ถือว่าเริ่มเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามปกติ และเป็นสัญญาณการนำไปสู่ การทยอย ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก่อนหมดอายุความ ซึ่งก็สอดคล้องกับคณะปฏิรูปที่มี นายอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธานที่ได้เสนอให้จัดทำแผนโรดแมป เมื่อทยอย
ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และเสนอต่อ ศอฉ. ต่อไป