ธปท.แจงครม.ศก.GDPครึ่งปีโตต่อเนื่อง
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    https://s.isanook.com/sh/0/di/no-thumbnail-image.jpgธปท.แจงครม.ศก.GDPครึ่งปีโตต่อเนื่อง

    ธปท.แจงครม.ศก.GDPครึ่งปีโตต่อเนื่อง

    2010-07-12T12:51:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้
    นายธราดล เปี่ยมพงศ์สานต์ รองเลขาธิการนายกฯ ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการมนตรีเศรษฐกิจ วันนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจ ใน 5เดือนแรกของปี 2553 พบว่า เศรษฐกิจ ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง แม้จะได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเมือง โดยภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ ใน 2 ไตรมาส ภาคการบริโภค และการลงทุนขยายตัวต่อเนื่อง อัตราการว่างงาน ในไตรมาสที่ 1 อยู่ที่ระดับ ร้อยละ 1.1 ความเชื่อมั่นปรับตัวดีขึ้น หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ NPL อยู่ในระดับที่ไม่น่าเป็นห่วง สถาบันการเงินมีความเข้มแข็ง สภาพคล่องไม่เป็นอุปสรรคต่อการปล่อยสินเชื่อ

    อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม ยังคงมีความเป็นห่วงสถานการณ์ทางการเมืองและการลงทุนขนาดใหญ่ จะเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้

    ด้าน นายวัชระ กรรณิการ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า การประชุมคณะมนตรีเศรษฐกิจในวันนี้ ที่ประชุมได้รับทราบผลการติดตามความคืบหน้าการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของ สภาพัฒน์ โดยในปี 2550 ถึงปัจจุบัน การลงทุนขนาดใหญ่ที่ ครม. อนุมัติแล้ว แต่อยู่ระหว่างการดำเนินการ 54 โครงการ ให้งบประมาณ 7.86 แสนล้านบาท แบ่งเป็นใน 5 สาขา สาขาขนส่ง ใช้วงเงินงบประมาณสูงสุด ร้อยละ 76.91 รองลงมาเป็นสาขาพลังงาน การจัดการทรัพยากรน้ำ การสื่อสาร และสาธารณูปการ ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการที่กำลังดำเนินการ เพื่อเตรียมเสนอ ครม. พิจารณานั้น มี 40 โครงการ ใช้งบประมาณ 6.6 ล้านบาท แบ่งเป็นสาขาที่ใช้วงเงินสูงสุด โดยสาขาที่ใช้วงเงินสูงสุด ยังคงเป็นขนส่งที่ 4.52 แสนล้านบาท และสาขาสาธารณูปการ 2,000 ล้านบาท

    นอกจากนี้ นายวัชระ ยังกล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ มีมติให้เร่งรัดโครงการลงทุนขนาดใหญ่ 2 ส่วน คือ โครงการลงทุนที่ ครม. ได้อนุมัติแล้ว และยังอยู่ระหว่างการจัดเตรียมเสนอขอที่ประชุม เพื่ออนุมัติ โดยในส่วนของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต ถึง สะพานใหม่ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาข้อสรุปเจ้าของโครงการ เพื่อให้สามารถเปิดบริการได้โดยรวดเร็ว และให้การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. เร่งจัดตั้งบริษัทลูกดูแลโครงการรถไฟฟ้าเชื่อมโยง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้สามารถเปิดบริการเชิงพาณิชย์ได้ทันภายในเดือน ส.ค. นี้ โครงการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต และโครงการจัดซื้อเครื่องบินของการบินไทย จำนวน 15 ลำ ภายในปี 2553-2557 เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบินในภูมิภาค

    นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เร่งรัดให้เสนอแผน โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟด 2 เข้าสู่ที่ประชุม ครม.เพื่อรองรับผู้โดยสารที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต