นายกฯไม่กังวลโดนลอบฆ่าจนท.ดูอยู่

นายกฯไม่กังวลโดนลอบฆ่าจนท.ดูอยู่

นายกฯไม่กังวลโดนลอบฆ่าจนท.ดูอยู่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีที่มีกระแสข่าว ลอบสังหารผู้นำสำคัญของประเทศว่า มีข่าวออกมา
เป็นระยะอยู่แล้ว ซึ่งหน่วยงานที่รับผิดชอบดูแลด้านความปลอดภัย ก็ดำเนินการอยู่ เจ้าหน้าที่ต้องดูแลต่อไป โดยส่วนตัว
ไม่รู้สึกกังวลต่อข่าวดังกล่าว ส่วนบุคคลสำคัญอื่น ๆ นั้น หากมีการข่มขู่คุกคาม ก็สามารถแจ้งมายังรัฐบาล เพื่อจัดกำลัง
ไปดูแลให้ ทั้งนี้ นายกฯ ระบุว่า เรื่องที่น่าเป็นห่วงขณะนี้ ไม่ใช่เรื่องของตัวบุคคล แต่เป็นห่วงเรื่องค่านิยม หากมีการนำ
วัฒนธรรมความรุนแรงมาสู่การเมือง ปัญหา ก็ไม่จบ และประเทศ โดยเฉพาะระบอบประชาธิปไตย จะไม่สามารถก้าวหน้าได้พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังยอมรับว่า เห็นด้วยที่จะให้คง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร เนื่องจาก ยังเป็น
เป้าหมายของการเคลื่อนไหว

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ระยะเวลาในการคง พ.ร.ก. ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่หากทุกคนช่วยกันต่อต้าน
ความรุนแรง ช่วยกันรักษาความสงบ ก็จะทำให้ยกเลิก พ.ร.ก. ได้เร็วขึ้น

ด้าน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึง กระแสข่าวการลอบสังหารบุคคลสำคัญ โดยเฉพาะ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และตนเองว่า กรณีดังกล่าวเป็นของ พล.ต.อ.ประทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยความรับผิดชอบของตนนั้น ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังในการดูแลรักษาความปลอดภัย สถานที่ และบุคคลสำคัญแล้ว ซึ่งจะไม่ประมาท ขณะเดียวกันยอมรับว่า การข่าวเรื่องนี้มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากการวิเคราะห์ ซึ่งจะมีการแก้ไขตามสถานการณ์ ส่วนหวาดกลัวหรือไม่นั้น นายสุเทพ เห็นว่าไม่มีหน้าที่ ที่จะต้องกังวลใจในเรื่องของตัวเอง เพราะคนไทยไม่สบายใจต่อเหตุร้ายที่เกิดขึ้นและหากไม่มีการระงับยับยั้งบ้านเมืองก็จะเสียหาย

รองนายกฯด้านความมั่นคง ระบุ ภาพลักษณ์ของประเทศไทย ในสายตาของต่างชาติโดยเห็นว่า ต่างประเทศจะมองอย่างไรก็คนละเรื่องกับความเป็นจริง ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่รีบเร่งแก้ไขสถานการณ์ให้กลับสู่ปกติให้เร็วที่สุด


รองนายกฯ ด้านความมั่นคง ยังกล่าวถึง กรณีที่ นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เดินสายชี้แจงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายในไทยที่สหรัฐอเมริกา กระทรวงการต่างประเทศ ต้องทำหน้าที่ ซึ่งตนเชื่อว่า การชี้แจงของกระทรวงการต่างประเทศต่อสังคมโลกนั้น ต้องมีน้ำหนักมากกว่า นายนพดล ที่ทราบกันดีว่าเป็นลูกน้องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ส่วนรัฐบาลไทย ต้องมีการจ้างบริษัท ลอบบี้ยีสต์ ในต่างประเทศหรือไม่นั้น ตนมองว่า ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นผู้พิจารณา

นอกจากนี้ รองนายกฯ ด้านความมั่นคง ปฏิเสธว่า ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. ไม่ได้ใช้งบประมาณจำนวนมาก ตามที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหา อย่างไรก็ตาม นายสุเทพ เปิดเผยด้วยว่า ตนได้นัดประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร.ในวันที่ 9 ก.ค.นี้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook