แก้วรับภาระเลี้ยงลูกอ๊อดมีรายได้น้อย

ตั้งแต่ประกาศแยกทางกับสามีนักร้องลูกทุ่ง "อ๊อด โอภาส" นักแสดงหญิงมากฝีมือ "แก้ว อภิรดี ภวภูตานนท์" ยอมรับว่าเป็นคนรับภาระเลี้ยงดูลูกทั้งสามคนซึ่งกำลังอยู่ในวัยเรียนทั้งหมด ซึ่งเจ้าตัวบอกไม่เคยเรียกร้องให้อดีตสามีส่งเสียค่าเลี้ยงดูเหตุเพราะตนมีรายได้มากกว่า ถามว่า ณ วันนี้ยังไหวเรื่องการดูแลค่าใช้จ่ายลูกมั้ย "แก้ว" เผยว่า "ไม่เคยคิดว่าไม่ไหวนะ เพราะจะพูดกับลูกเสมอว่าวันนี้แม่ยังมีแรงนะ แต่อยากให้ลูกตักตวงไว้ ทำโอกาสให้แม่ให้ไปให้เกิดประโยชน์ที่สุด แต่ข้อเสียของพี่คือตอนที่พี่แก้ว พี่อ๊อดหาเงินได้เยอะค่อนข้างเลี้ยงลูกแบบคุณหนู ต้องมาเรียนรู้ยืนด้วยตัวเองสักพักอยู่เขาปรับตัวได้ค่ะอยากให้เขารู้จักความลำบากด้วยเป็นยังไง

" ตอนนี้พี่อ๊อดแยกออกไปอยู่ข้างนอกแล้วใช่หรือเปล่า "เขาก็ไปๆ มาๆ ถ้าเขามีงานอยู่ที่ไหนสะดวกเขาก็อยู่ตรงนั้น พี่อ๊อดเป็นพ่อที่มีเวลาให้ลูกได้ในเรื่องของความคุ้นเคย ฉะนั้นพี่อ๊อดไปมาหาสู่ที่บ้านได้เป็นเรื่องธรรมชาติ บ้านพี่ไม่ได้เลิกกันแล้วมีปัญหา พี่ไม่สบายเขาก็ดูแล เรื่องแบบนี้อธิบายยากค่ะถ้าคำตอบพี่ไม่ตรงกับใครคิดคำตอบยาก แล้วคนจะถามว่าเลิกกันทำไมละ มันมีพ้อยท์ที่ไม่ต้องบอกให้ใครรู้ซะหมดทุกอย่าง เรื่องค่าใช้จ่ายเรามีแรงเยอะกว่า พี่ไม่ซีเรียส เรื่องนี้ ดีกว่าไปเกี่ยงกันพี่อ๊อดก็ยังเป็นโปรดิวเซอร์ช่วยน้องๆ ทำเกี่ยวกับอะไหล่รถบ้าง ถ้าเขาเอาเงินมาส่งลูกหมดเงินลงทุนเขาจะต่ำลง คนชอบพูดเรื่องสิทธิก็จะทะเลาะกัน พี่รู้สึกมีแรงหาได้ก็จ่ายไป แต่ถ้าวันไหนไม่มีแรงดูบ้างก็แล้วกัน" คือถ้าไม่ไหวก็จะเอ่ยปากบอกเขาใช่มั้ย "พี่ไม่เคยเอ่ย ไม่เคยบอกไม่ไหว ถึงไม่มีเงินในกระเป๋าก็ไม่บอก ในอดีตก็มีเคสนี้ชักหน้าไม่ถึงหลังแต่ไม่เคยปฎิเสธใคร เก็บไว้ไม่บอกใครไม่มีประโยชน์"

ตอนนี้มีใครจองคิวดูแลหัวใจบ้างหรือยัง "พออายุเยอะขึ้นจะมองว่าอยู่คนเดียวดีมั้ยเนี่ย ขำๆ ไปวันๆ ดีมั้ยเนี่ย อะไรที่เก๋กู๊ดก็คบกันดีมั้ย อันนั้นไม่ค่อยเกิดก็ห่างๆ เหอะ สมองจะได้คิดเรื่องอื่นบ้างมีลูกเต้าต้องรับผิดชอบ" มีเข้ามาบ้างมั้ย "ไม่มี คนเขารู้ว่ามีข่าวกับพี่ต๊อด (พ.ท.วินธัย สุวารี) ไม่ค่อยมีใครวุ่น ทหารก็ไม่ได้ดุนะ คนเขาคงมองภาพลักษณ์ไม่มั่นคงการเป็นโสดร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาเลยไม่กล้าแหยมกัน แต่ก็มีพวกแถๆ พวกอยากรู้มีเยอะแยะไป แต่เราทำตัวเห็นชัดเข้าหาแล้วเป็นเพื่อนได้แต่ถ้าเป็นอย่างอื่นท่าทางจะลำบาก กับพี่ต๊อดคุยกันปกติทุกวัน งานการยังทำอยู่ (อีเว้นท์) เครียดๆ กันนิดนึงที่มีม็อบ ลำบากขึ้นเยอะ โชคยังดีมีละคร มีโชว์ ทำให้ไม่แย่จนเกินไป ไม่งั้นก็แย่ พี่แก้วดูแลค่าจ่ายทุกอย่างค่ะ พี่อ๊อดเขามีก็ช่วยค่ะพี่ไม่เคยเรียกร้อง มีความรู้สึกว่าเราไม่ได้ทำเพราะหน้าที่ แต่พี่ทำด้วยใจหมดทุกอย่าง มีความสุขที่พี่เหนื่อย บางทีอยากได้โน่นนี่ของแบรนด์เนม แต่คิดว่าถ้าเอาเงินซื้อกระเป๋าไปให้ลูก ลูกก็ยังมีสมองประเทืองปัญญา อยู่ดีๆ เป็นลมล้มตึงมากระทันหันลูกก็ยังใช้วิชาทำมาหากินได้ กลายเป็นคิดเยอะและอะไรที่เป็นประโยชน์ที่สุดในการใช้เงินแต่ละบาท ไม่ถึงกับอดนะแต่ห้ามใจในความอยากได้ของสุรุ่ยสุร่าย"