แฉ! ทักษิณซุกทรัพย์สินอีก 4 แสนล้าน ในต่างแดน
จากกรณีที่ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)มีคำสั่งให้นิติบุคคลและบุคคล เข้ารายงานตัวชี้แจงเส้นทางทางการเงิน โดยในวันนี้ (29มิ.ย.) นี้ จะเป็นคิวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พร้อมเครือญาติ ทั้งนี้ทางรัฐบาลและศอฉ.ได้มีข้อมูลเกี่ยวกับเส้นทางการเงินและทรัพย์สินของพ.ต.ท.ทักษิณที่มีอยู่ในปัจจุบันมากถึง 3-4 แสนล้านบาท ซึ่งได้มีการส่งท่อน้ำเลี้ยง มาที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เพื่อเคลื่อนไหวชุมนุมในช่วงที่ผ่านมา
รายงานข่าวยังแจ้งว่า บางเดือนมีการส่งเงินเข้ามาผ่านเครือข่ายมากถึง 2 หมื่นล้านบาทต่อเดือน ซึ่งทรัพย์สินที่พ.ต.ท.ทักษิณยังมีเหลืออีกหลายแสนล้านบาทนั้น ได้กระจายอยู่ในประเทศต่างๆทั่วทุกมุมโลก โดยไม่รวมกับที่ยึดทรัพย์ไปแล้ว 76,000 ล้านบาท
ทรัพย์สินของพ.ต.ท.ทักษิณที่ยังเหลืออยู่จำนวนมหาศาลนั้น มีรายละเอียดดังนี้
1.ได้มาจากในช่วงมีการลดค่าเงินบาทเมื่อปี 2540 ซึ่งทรัพย์สินก้อนนี้ซ่อนอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์
2.ทรัพย์สินที่ได้มาจากการซื้อหุ้นผ่านโควต้าต่างชาติในรูปของกองทุนในประเทศมาเลเซียเข้าซื้อหุ้นรัฐวิสาหกิจที่ถูกแปรรูปเมื่อปี 2546 ซึ่งเป็นการเข้าซื้อโดยกองทุนที่มีการคุ้มครองข้อมูลทางการเงินรูปแบบเดียวกับประเทศสวิตส์แลนด์รวมกำไรสูงถึง 1.4 แสนล้านบาท
3.การจดทะเบียนตั้งกองทุนบนเกาะลาบวน ในมาเลเซีย ซึ่งได้สิทธิคุ้มครองทรัพย์สินส่วนบุคคล ไม่ให้ถูกเปิดเผยเพื่อซื้อสายการบินพาณิชย์
4.บริษัทร่วมทุนเพื่อรับสัมปทานดาวเทียมในอินเดีย
5.จอยเวนเจอร์กับบริษัทสื่อสารผ่านบริษัทในเครือเทมาเส็กทำธุรกิจโทรคมนาคมหลายประเภท
6.กลุ่มกิจการโทรศัพท์มือถือในประเทศจีนซึ่งมีกำไรต่อวัน 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯกำไรปีละกว่าหมื่นล้านบาทแฝงผ่านมาทางประเทศฮ่องกง
7.ที่ดูไบมีคนใกล้ชิดชื่อย่อ "พ" เป็นนอมินีมีรายได้ปีละหลายหมื่นล้านบาท
8.รายได้ผ่านกองทุนประเทศคูเวต
9.ดำเนินธุรกิจผ่านนอมินีภรรยาอดีตนักการฑตและมีหุ้นบางส่วนในห้องแฮร์รอท ประเทศอังกฤษ
10.ธุรกิจสื่อสารและโทรคมนาคมในประเทศกัมพูชาและพม่า ซึ่งรวมรายได้จากธุรกิจที่พ.ต.ท.ทักษิณดำเนินอยู่จะมีกำไรมากถึงปีละ 4-5 หมื่นล้านบาท และมีทรัพย์สินสุทธิอยู่อีกราว 4 แสนล้านบาท ซึ่งรัฐบาลและศอฉ.หนักใจกับการหาวิธีสกัดเงินจำนวนมหาศาลของเครือข่ายพ.ต.ท.ทักษิณอย่างมาก