นายกเผยครม.ตั้งคณิตนั่งปธ.สอบเหตุจราจล

นายกเผยครม.ตั้งคณิตนั่งปธ.สอบเหตุจราจล

นายกเผยครม.ตั้งคณิตนั่งปธ.สอบเหตุจราจล
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ที่ประชุมโดยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้จัดเผยแพร่ กระแสพระราชดำรัส พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในเรื่องของการทำหน้าที่เพื่อส่วนรวม ให้กับคณะรัฐมนตรีทุกคน รวมถึงมีการจัดทำสรุปการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคฝ่ายค้าน โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาขึ้นมาตรวจสอบ พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติ ตั้งแต่ง นายคณิต ณ นคร อดีตอัยการสูงสุด เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ปะทะในการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งนายคณิต มีการตอบรับแล้ว แต่ขอสงวนสิทธิ์ในการแต่งตั้งคณะกรรมการ โดยใช้ระยะเวลา 15 วัน ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยไม่ยอมรับการแต่งตั้ง นายคณิต ให้เป็นประธานตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น มองว่าไม่เป็นธรรม เนื่องจากพรรคเพื่อไทย ควรรอให้มีการตั้งคณะกรรมการให้เสร็จสิ้นก่อน ทั้งนี้ เชื่อว่าการตั้งคณะกรรมการเป็นช่องทางให้กับผู้ที่คิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและแสดงข้อเท็จจริงในมุมมองของตัวเอง

ขณะที่ คณะรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม ตรวจสอบอาวุธสงคราม ที่มีเป็นจำนวนมากโดยใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง


ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติให้ช่วยเหลือค่าเช่าของผู้ประกอบการ ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองระหว่างเดือน เม.ย. - พ.ค. เป็นร้อยละ 70 ของค่าเช่า 1 เดือน พร้อมมีมติชดเชยค่าจ้างให้ลูกจ้าง ทั้งในและนอกระบบประกันสังคม เดือนละ 7,500 บาท ไม่เกิน 6 เดือน นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้ข้อยุติช่วยเหลือด้านสถานที่ค้าขาย ทั้งในส่วนพื้นที่สยามสแควร์ และเซ็นเตอร์วัน ให้ไปใช้พื้นที่ห้างสรรพสินค้าแฟชั่นมอล์ โดยยกเว้นค่าเช่าและค่าก่อสร้างในส่วนของตัวอาคารที่จะเกิดขึ้น

สำหรับการฟื้นฟูด้านการท่องเที่ยวนั้น ได้มีมาตรการช่วยเหลือ อาทิ การขยายเวลาคืนเงินต้น ขยายเวลาการชำระหนี้ การลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และมาตรการด้านภาษี รวมถึงการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวภายในประเทศ


นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีการหารือ ถึงประเด็นโครงการขยายถนน จากถนนมิตรภาพขึ้นสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งแต่ ก.ม. ที่ 2 - 10 ว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ามีการตัดต้นไม้เกินความจำเป็น สำหรับการก่อสร้างถนน ซึ่งจุดที่เป็นปัญหานั้น อยู่ในขั้นตอนของการปฏิบัติ ไม่ใช่ปัญหาในเรื่องระเบียบข้อบังคับของโครงการ ซึ่งคณะรัฐมนตรีเห็นว่า ควรมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ไปทาบทามกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ มาเป็นผู้ตรวจสอบ และให้กรมทางหลวง กับกระทรวงทรัพยากรฯ ร่วมกันฟื้นฟูพื้นที่ถนนข้างทาง และยกเลิกการก่อสร้างถนน ในส่วนที่เหลือระหว่าง ก.ม. ที่ 10 -16 และให้เป็นการควบคุมไปตามกฎหมาย พร้อมกับให้คณะกรรมการชุดดังกล่าว สำรวจพื้นที่โดยรอบ ให้เป็นเขตพื้นที่ควบคุม นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรฯ ปรับแก้กฎระเบียบที่เกี่ยวกับ การก่อสร้างโครงการในลักษณะเดียวกัน ให้มีความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ จะไม่ทำให้พรรคภูมิใจไทย มีอำนาจต่อรองมากขึ้น แต่ยอมรับว่าการทำงานนั้นอาจมีอุปสรรคและความคิดเห็นแตกต่างกันได้ ซึ่งสามารถตกลงกันด้วยเหตุผล และทำงานด้วยกันได้ ทั้งนี้ ยอมรับว่าเป็นห่วงการเคลื่อนไหวนอกสภามากกว่าการดำเนินการในสภา ที่ถือว่ายังมีทางออกตามระบบ แต่อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ยังติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา โดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ยืนยันว่าขณะนี้ยังต้องคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไว้อีกระยะหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม นายกฯ แสดงความมั่นใจว่าหลังการปรับคณะรัฐมนตรี รัฐบาลจะมีเสถียรภาพในการทำงานมากขึ้น ขณะที่ ได้กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ติดตามป้องกันเรื่องของการพนันช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกที่จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook