ปชป.แลก2เก้าอี้รมช.รั้งรมว.อุตสาหกรรม

นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ถูกเสนอชื่อให้ปรับโยกการดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ว่า เท่าที่ตนเองทราบนั้นการเสนอชื่อของกรรมการบริหารพรรค ไม่มีการกำหนดกระทรวงที่จะถูกปรับ เพียงแต่เป็นการเสนอ 4 รายชื่อ ตามที่เป็นข่าว ให้ได้รับการแต่งตั้งเท่านั้น ซึ่งในส่วนของตนเองที่ยืนยันได้ คือ มีการโยกย้ายแน่นอน แต่จะไปส่วนไหนยังตอบไม่ได้ ซึ่งต้องแล้วแต่หัวหน้าพรรคตัดสินใจ ส่วนตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ที่ว่างลงนั้น ก็อาจไม่มีการแต่งตั้งเข้ามาเพิ่ม เนื่องจากกระทรวงศึกษาธิการ มีรัฐมนตรีช่วยว่าการอยู่แล้ว



ขณะที่ มีรายงานข่าวด้วยว่า นายไชยยศ จิรเมธากร ได้เข้าหารือกับพรรคประชาธิปัตย์ วานนี้ โดยเตรียมหาสมาชิกเข้าร่วมในการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ จำนวน 7 คน โดย นายไชยยศ จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการ 1 กระทรวง และ ดร.มั่น พัธโนทัย จากพรรคมาตุภูมิ ได้ 1 กระทรวง ส่วนตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมนั้น อาจตกเป็นของ นายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ จากพรรคประชาธิปัตย์ โดยมีการแลกเปลี่ยนกับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการ 2 กระทรวงดังกล่าว ขณะที่ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ICT อาจให้ นายศิริโชค โสภา คนสนิทนายกรัฐมนตรี เข้าทำหน้าที่แทน



ด้านนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผย สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงความเคลื่อนไหวพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังจาก ที่ประชุม ส.ส.พรรค ให้ นายกรัฐมนตรี และ รองนายกฯสุเทพ ทำหน้าที่พิจารณาความเหมาะสมเกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรี ในส่วนของพรรค โดย นายไกรศักดิ์ กล่าวยอมรับว่า มีการตัดพ้อเกิดขึ้นบ้างในที่ประชุม สำหรับบางตำแหน่งที่มีการปรับเปลี่ยน เช่น กระทรวงแรงงาน เนื่องจาก แต่ละคนก็มีคนที่เคารพนับถือ หรือ มีกลุ่มของตนเอง ซึ่งผู้ที่สนับสนุนก็อาจไม่อยากให้เกิดการปรับเปลี่ยน ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดา แต่ธรรมชาติพรรคประชาธิปัตย์ ก็ถือว่า เรื่องการเข้าออกในตำแหน่งทางการเมือง เป็นเรื่องปกติ จึงไม่ถือว่า บรรยากาศที่ประชุมตึงเครียดมากมายอะไร



อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับ ปัญหาของพรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรคเพื่อแผ่นดิน ที่เกิดปัญหาหลังการลงคะแนนอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ก็คงมีการปรับเปลี่ยนในบางส่วนที่มีความเห็นไม่ตรงกันออกไป และหาส่วนทดแทนอื่นๆ เข้ามาแทน ซึ่งพรรคเพื่อแผ่นดินเองก็มีการแบ่งกลุ่มภายในอยู่แล้ว เชื่อว่า อาจมีการปรับเปลี่ยนเอาสมาชิกพรรคเพื่อแผ่นดิน ชุดอื่นที่ไม่เป็นปัญหาเข้ามาแทนที่