คาดม็อบเกินสัปดาห์สูญเงินกว่า5.5หมื่นล.

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ และธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ในขณะนี้ว่า หากไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้น มองว่าจะไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยมากนัก ขณะที่นักลงทุนต่างประเทศ ยังคงมั่นใจต่อภาวะเศรษฐกิจไทย โดยเห็นได้จากเม็ดเงินลงทุนที่ยังคงไหลเข้ามาลงทุน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่า ขณะที่การประเมินผลกระทบของการชุมนุมพบว่า จะมีผลกระทบต่อ จีดีพี เพียงเล็กน้อย ร้อยละ 0.05-0.10 โดยในช่วง 3-4 วัน ที่ผ่านมา เม็ดเงินจากการจับจ่ายใช้สอย หายไปประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท แต่หากการชุมนุมยืดเยื้อเกิน 1 สัปดาห์ จะสูญเสียเม็ดเงินประมาณ 5,000-10,000 ล้านบาท ซึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ กลุ่มที่เกี่ยวโยงกับการชุมนุมโดยตรง เช่น การค้าขายใกล้พื้นที่การชุมนุม กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย เนื่องจากประชาชนจะชะลอการจับจ่ายใช้สอย เพื่อรอดูสถานการณ์การเมืองก่อน

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์การเมืองยังคงรักษาระดับ ไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรง ภายหลังจากการชุมนุมสิ้นสุดลงเศรษฐกิจของประเทศจะกลับมาฟื้นตัวได้ในจุดเดิม