ผบ.ทบ.เชื่อชุมนุมไม่ต้องใช้พรก.ฉุกเฉิน

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึง กรณีที่คณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง หรือ คตม. มีมติเสนอให้คณะรัฐมนตรี ประกาศใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในระหว่างวันที่ 11-23 มี.ค. เพื่อควบคุมการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า ขณะนี้ ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ เพิ่มเติม ทหารยังคงเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานตามปกติ ทั้งนี้ ภายหลังที่คณะรัฐมนตรี มีมติในเรื่องดังกล่าวแล้ว ก็จะต้องเตรียมองค์กร ตั้งศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือ ศอ.รส. กำหนดโครงสร้างให้ใครรับผิดชอบส่วนใด มีวิธีการปฏิบัติอย่างไรต่อไป ซึ่งคงไม่เป็นการพัฒนาไปจนถึงการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตามที่กลุ่มคนเสื้อแดงระบุ ซึ่งโดยส่วนตัว เชื่อว่า พ.ร.บ.ความมั่นคง จะควบคุมการเมืองได้

ส่วนกรณีที่อาจมีการขนคนต่างด้าว มาร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า เป็นเรื่องเพ้อเจ้อ ถ้าเป็นแรงงานภายในประเทศ น่าจะมีความเป็นไปได้มากกว่า พร้อมทั้ง ปฏิเสธกองทัพ ไม่ได้ส่งทหารไป
สกัดกลุ่มผู้ชุมนุม แต่เป็นการไปชี้แจง ทำความเข้าใจกับประชาชน

ผู้บัญชาการทหารบก ยังกล่าวถึง กรณีความคืบหน้าอาวุธสงคราม หายไปจากคลังแสง กองพันทหารช่างที่ 4 จังหวัดพัทลุงว่า ขณะนี้ ตนยังไม่ได้รับรายงานเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งแนวโน้มเหตุการณ์ดังกล่าว ไม่น่าจะเพิ่งเคยเกิดขึ้น แต่เป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ โดยทุจริตยักหยอกอาวุธสงครามออกไปเป็นระยะ ๆ สร้างสถานการณ์ให้เห็นว่า เป็นการงัดแงะ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ตนได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตั้งแต่ระดับสูง จนถึงระดับล่าง สั่งตรวจตราคลังอาวุธเป็นประจำ โดยมีการสั่งการเป็นประจำทุกเดือน ทั้งนี้ หากตรวจพบว่า ใครมีความบกพร่อง ก็ต้องรับผิดชอบ

นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ยังกล่าวถึง กรณีเรือเหาะด้วยว่า ที่ผ่านมา เป็นห่วงเรื่องสัญญาณขึ้นลง ซึ่งขณะนี้มีความเรียบร้อยดีแล้ว โดยจากนี้ จะเตรียมพาสื่อมวลชน ชมการปฏิบัติการเรือเหาะที่ภาคใต้ ทั้งนี้ หากยังพบว่า มีอะไรไม่โปร่งใส ก็สามารถยื่นเรื่องให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ตรวจสอบได้ และหากพบว่า ตนมีส่วนเกี่ยวข้องในการทำความผิด ก็พร้อมจะติดคุก หรือ สั่งพักราชการได้เลย