มลพิษหมอกควันในเชียงใหม่เข้าขั้นวิกฤตแล้ว เป็นครั้งแรกในรอบปี

มลพิษหมอกควันในเชียงใหม่เข้าขั้นวิกฤตแล้ว เป็นครั้งแรกในรอบปี ขณะที่ยังพบมีการเผาพื้นที่เกษตรหรือไฟป่าเพิ่มขึ้นทุกวัน มลพิษหมอกควันในจังหวัดเชียงใหม่เข้าขั้นวิกฤตแล้ว เป็นครั้งแรกในรอบปี โดยค่ามลพิษที่ได้เกินมาตรฐานในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่จุดตรวจวัดคุณภาพอากาศโรงเรียนยุพราชวิทยาลัย ซึ่งอยู่กลางเมืองเชียงใหม่ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กอนุภาคต่ำกว่า 10 ไมครอน วัดได้สูงสุด 123.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งค่ามาตรฐานอยู่ที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้ภาคเหนือมีมลพิษจากหมอกควันเกินมาตรฐาน 7 จังหวัด อาทิ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน น่าน พะเยา และที่หนักที่สุดคือจังหวัดเชียงราย สูงถึง 272.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงกว่าค่ามาตรฐานเท่าตัว ขณะที่ยังพบว่า มีการเผาเพื่อเตรียมพื้นที่เกษตร การเผาในที่โล่งอยู่ทุกวัน ส่งผลให้เกิดหมอกควันสะสมในอากาศสูงขึ้น ขณะที่สภาพภูมิประเทศเป็นแอ่งกระทะ ประกอบกับสภาพอากาศทางภาคเหนือมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุม ทำให้ไม่สามารถระบายขึ้นท้องฟ้าได้ ภาคเหนือจึงรอความหวัง จากที่กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ไว้ว่า จะเกิดพายุฤดูร้อนในช่วงนี้ มาบรรเทามลพิษหมอกควันที่เกิดขึ้นในขณะนี้