หาช่องตลท.ยึดทรัพย์แม้ว

หาช่องตลท.ยึดทรัพย์แม้ว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
บิ๊กชินคอร์ปยันทำถูกก.ม.

นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.จะประชุมฝ่ายกฎหมายเพื่อนำคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ตัดสินยึดทรัพย์ 46,000 ล้านบาท ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาพิจารณาดูว่ามีส่วนใดที่ทำผิด หรือเกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ ก.ล.ต.จะต้องดำเนินการต่อไปหรือไม่ ส่วนจะเกี่ยวข้องในประเด็นใด และ ก.ล.ต.จะดำเนินการอย่างไรนั้นเป็นเรื่องภายในของ ก.ล.ต.

นางภัทรียา เบญจพลชัย กรรมการ และผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ในส่วนของ ตลท. เกี่ยวกับคดีนี้ถือว่าจบไปแล้ว คงไม่ต้องทบทวนหรือเข้าไปดูในส่วนใดเพิ่มเติมอีก เพราะส่วนที่เกี่ยวข้องกับ ตลท.มีเพียงผลกระทบต่อราคาหุ้น การเปิดเผยหรือแจ้งข้อมูลการถือหุ้นซึ่งต้องมีการรายงาน หากผู้บริหารบริษัทมีการซื้อขายหุ้นตั้งแต่ 5% ขึ้นไป

สำหรับบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเมื่อวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยยังสามารถปรับตัวขึ้นได้ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างมาก เนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากตลาดหุ้นภูมิภาคหลายแห่งที่ปิดบวกในวันก่อน และบางแห่งยังคงบวกต่อเนื่อง เป็นผลจากตลาดหุ้นไทยปิดทำการ 3 วัน ทำให้นักลงทุนได้ประเมินสถานการณ์และติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด

ผลจากการตัดสินคดี อาจมีผลกระทบกับหุ้นกลุ่มสื่อสารบ้าง เพราะในขั้นตอนต่อไปกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร อาจนำคำวินิจฉัยของศาลฯ ในส่วนประเด็นความผิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ กรณีการปรับปรุงหลักเกณฑ์และแก้ไขสัญญาเพื่อเอื้อต่อบริษัทในกลุ่มชินคอร์ป มาพิจารณา แต่ขณะนี้ประเด็นดังกล่าวยังไม่มีความชัดเจน นักลงทุนควรติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด ซึ่งมองว่าคดียึดทรัพย์ฯ ไม่น่าจะเกี่ยวกับหุ้น เพราะจำนวนเงินอยู่ในบัญชีของธนาคารแล้ว

นอกจากนี้ ในช่วงวันหยุดยาว 3 วัน ตลท. ได้โทรศัพท์สอบถามความคิดเห็นของบริษัทสมาชิกทั้งในและต่างประเทศ ส่วนใหญ่เห็นว่าข่าวที่ออกไปเป็นในเชิงบวก

ขณะที่สัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 7,000 ล้านบาท เนื่องจากคิดว่าสถานการณ์การเมืองจะไม่รุนแรง ส่วนช่วงกลางเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ต่างชาติได้ขายหุ้นไปบางส่วน ดังนั้น เมื่อเหตุการณ์ไม่รุนแรงจึงกลับมาซื้อ

นายอารักษ์ ชลธาร์นนท์ กรรมการ บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า คำพิพากษาของศาลฯไม่มีผลกระทบต่อบริษัท และบริษัทในเครือ โดยที่ผ่านมาได้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายและสัญญาร่วมการงาน รวมทั้งยึดถือหลักสุจริตและธรรมภิบาลเคร่งครัด ซึ่งมั่นใจว่าเมื่อปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายและข้อกำหนดแล้ว จะสามารถชี้แจงได้.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook