เทศกิจรื้อเต็นท์ในพื้นที่สนามหลวง

เชื่อนกพิราบไม่กลับมาอีก

หมดสิทธิโบยบินกลับมายึดพื้นที่สนามหลวงแน่นอน นายก ส.มิตรภาพกีฬาแข่งนก ยัน นกพิราบ ไปแล้วไปเลย หลังหลายฝ่ายหวั่นจับไปแล้วจะกลับมาตีปีกพื้นที่เดิมอีก ระบุชัดเป็นนกป่า ไม่ใช่นกสื่อสาร ซึ่งไม่มีใครเป็นเจ้าของ ด้าน กทม. ส่งเทศกิจลุยรื้อเต็นท์-แผงค้าท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของตำรวจ สุดงงเปิดปฏิบัติการอยู่ดี ๆ จู่ ๆ สายเข้าทำเอาต้องหยุดกะทันหัน อ้างไม่มีใครกดดัน แค่เกรงจะกระทบกระทั่งกับแม่ค้า-พ่อค้า ดีเดย์ปรับปรุงเสร็จก่อน สุขุมพันธุ์ ลงพื้นที่ตรวจแน่

กรณีกรุงเทพมหานครเตรียมความพร้อมการปรับภูมิทัศน์ของท้องสนามหลวงครั้งใหญ่ ในวันที่ 1 ก.พ.นี้ หลังจากได้มี การนำกรงดักจับนกพิราบขนาดใหญ่มาติด ตั้งเพื่อเตรียมจับปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ความ คืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เวลา 08.30น. วันที่ 31 ม.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเดลินิวส์ เสนอข่าวเกี่ยวกับปัญหา สนามหลวง ไปอย่างต่อเนื่อง พบว่ามีสื่อมวลชนหลายสำนักให้ความสนใจลงพื้นที่ทำข่าวปรับปรุงพื้นที่สนามหลวงอย่างคึกคัก โดยเมื่อช่วงเช้าเจ้าหน้าที่เทศกิจเขตพระนคร 80 นาย พร้อมเจ้าหน้าที่โยธาเขต และฝ่ายรักษาความสะอาดอีกประมาณ 70 คน ได้เข้ามาเคลียร์พื้นที่ พร้อมกับเริ่มมาตรการไม่ให้นำรถเข้ามาจอดภายในท้องสนามหลวง มีการนำรถเปิดเครื่องขยายเสียงประกาศให้ทราบว่าให้นำรถออกไปจากพื้นที่ก่อนเวลา 12.00 น. พร้อมปิดทางเข้าด้วย

ต่อมาเวลา 10.20 น. เจ้าหน้าที่เทศกิจฯได้ประสานกับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม นำโดย พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผกก.นำกำลังตำรวจประมาณ 50 นาย เข้าดูแลความเรียบร้อยขณะที่เจ้าหน้าที่เทศกิจเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างชั่วคราว อาทิ เต็นท์พักของพวกพ่อค้าแม่ค้า รวมถึงรถเข็นขายของต่าง ๆ ที่นำมาจอดพักไว้ในท้องสนามหลวง ทำให้เหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าไม่พอใจตัดพ้อการทำงานของเจ้าหน้าที่ว่าไม่ยอมแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ที่ผ่านมาบอกเพียงจะจัดการเรื่องรถที่เข้ามาจอดในสนามหลวง กับเรื่องนกพิราบเท่านั้น ส่วนเรื่องปรับปรุงสนามหลวงในวันที่ 1 ก.พ.พ่อค้าแม่ค้ายอมรับว่าทราบเรื่อง เตรียมขนย้ายข้าวของออกช่วงเย็นหรือค่ำคืนนี้ แต่มาถูกเทศกิจเข้ารื้อเสียก่อน แม่ค้าบางรายถึงกับร่ำไห้ขอความเห็นใจจากเจ้าหน้าที่

นางลัดดา แซ่ภู่ อายุ 50 ปี แม่ค้านวดแผนโบราณ กล่าวว่า ทราบดีว่ากทม.จะปรับปรุงสนามหลวง ตนกำลังจะเคลื่อนย้ายออกไป แต่ไม่นึกว่าจะเข้ามาตั้งแต่เช้า อย่างไรก็ตามทราบว่ากทม.จัดเตรียมสถานที่แห่งใหม่ให้ แต่วันนี้ไม่เห็นมีใครบอกว่าจะให้พวกตนไปขายที่ไหนอย่างไร ตนอยากวอนทาง กทม.เห็นใจบรรดาพ่อค้าแม่ค้าด้วย เพราะใช้พื้นที่สนามหลวงในการหาเลี้ยงชีพมาอย่างยาวนาน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะที่เทศกิจกำลังเข้ารื้อถอนได้ประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ จู่ ๆ มีคนโทรศัพท์เข้าหาเจ้าหน้าที่เขตพระนครที่นำทีมรื้อถอน จากนั้นเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่เทศกิจพร้อมแจ้งว่า ขอให้ทุกนายหยุดการรื้อถอนเพียงแค่นี้ก่อน ท่ามกลางความงุนงงของสื่อมวลชน เมื่อสอบถามสาเหตุการหยุดรื้อถอนเต็นท์และแผงค้าที่เหลือ ก็ได้รับคำตอบว่า การทำงานในวันนี้ถือว่าลุล่วได้ด้วยดีกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ นับว่าเพียงพอแล้ว เกรงว่าหากรื้อถอนต่อไปอาจทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันได้ จึงยุติแค่นี้ก่อน ยืนยันว่าไม่ได้รับการกดดันจากใครแน่นอน

กทม.จะเร่งจัดการปัญหาเรื่องนกพิราบกับรถที่เข้ามาจอดก่อน โดยนกพิราบมีหน่วยงานเข้ามารับผิดชอบแล้ว ส่วนเรื่อง ที่จอดรถ อาทิ รถทัวร์ที่พานักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมรอบสนามหลวงคงต้องให้ไปจอดที่อื่น หรือขับวนเพื่อรอผู้โดยสารไปก่อน ส่วนรถส่วนตัวส่วนใหญ่เป็นรถของนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ตรงนี้ได้ประชาสัมพันธ์ผ่านไปยังผอ.สำนักบริหารกลาง ม.ธรรมศาสตร์ให้ช่วยแจ้งให้นักศึกษาทราบแล้ว ส่วนที่จอดรถใกล้ ๆ ที่พอจะรองรับได้ก็มีแถวถนนเจ้าฟ้า หน้ากองสลาก หรือแถวขนส่งสายใต้ อย่างไรก็ตามคาดว่าที่จอดรถก็คงจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการอยู่ดี ทั้งนี้รถที่จอดในท้องสนามหลวงจะเคลียร์รถออกให้หมดภายในเที่ยงคืนวันนี้ หรืออย่างช้าสุดก็ไม่เกินเช้ามืดวันที่ 1 ก.พ.เนื่องจากผู้ว่าฯกทม.จะมาตรวจ

ขณะที่คนขับรถทัวร์รับนักท่องเที่ยว กล่าวว่า พวกตนใช้พื้นที่กลางท้องสนามหลวงเป็นที่จอดรถรอบรรดาคณะนักท่องเที่ยว ต่างได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ปกติบรรดารถทัวร์จะทยอยหมุนเวียนกันมาจอดรอลูกทัวร์ที่มาเที่ยววัดพระแก้วตามท้องสนามหลวงวันละหลายร้อยคัน แต่วันนี้เจ้าหน้าที่ประกาศให้พวกตนห้ามนำรถเข้ามาจอดโดยที่ไม่แจ้งให้ทราบว่าจะมีที่รองรับให้จอดรอลูกทัวร์ได้ที่บริเวณไหนบ้าง ซึ่งถ้าไม่มีที่จอดรอพวกตนก็ต้องขับรถวนไปมาจนกว่าจะถึงเวลารับลูกทัวร์ซึ่งตรงนี้คงจะทำให้เกิดปัญหาการจราจรขึ้นรอบ ๆ สนามหลวงแน่

ด้านแม่ค้าขายอาหารนกพิราบ กล่าวว่า ตนอยากทวงถามผู้ว่าฯ กทม. ว่ามีมาตรการใดรองรับหรือช่วยเหลือพวกตนบ้าง เพราะเห็นตามข่าวมีแต่จะจัดสถานที่ให้พวกพ่อค้าแม่ค้า แต่สำหรับพวกตนที่ขายอาหารนกนั้น หากทางกทม.จับนกพิราบออกไปพวกตนจะขายอาหารนกให้ใคร ที่ผ่านมา กทม.ไม่เคยเข้ามาสอบถามพวกตนเลย ตนเลี้ยงชีพได้กำไรวันละไม่กี่ร้อยบาท ทุกวันถูกตำรวจจับปรับฐานก่อความเดือดร้อนรำคาญเสียค่าปรับวันละร้อยบาทแทบทุกวัน หากพวกตนมีทางอื่นที่ดีกว่านี้ก็คงไม่มายึดอาชีพนี้ จึงอยากให้ผู้ว่าฯกทม.ช่วยเหลือด้วย

ส่วนนายเนติ ตันติมนตรี นายกสมาคมมิตรภาพกีฬาแข่งนก ผู้ได้รับมอบหมายจากกทม.ในการดำเนินการจับนกพิราบ กล่าวว่า ที่มีองค์กรอิสระหรือชาวบ้านสงสัยว่าจับนกพิราบออกไปแล้วจะช่วยแก้ปัญหาไม่ให้นกพิราบกลับมายึดพื้นที่ท้องสนามหลวงอีกหรือไม่นั้น ขอชี้แจงว่าตนไม่ได้จับนกไปปล่อยทันที แต่จะนำไปพักเลี้ยงไว้ที่ซอยลาดพร้าว 87 ก่อน เพื่อดูแลให้มันแข็งแรง จากนั้นจะย้ายไปเลี้ยงแบบเปิดที่สวนผึ้ง จ.ราชบุรี จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้อาหาร หากนกตัวใดไปพบแหล่งอาหารใหม่ก็ถือว่ากลับคืนสู่แหล่งธรรมชาติอย่างแท้จริง ทั้งนี้อาจกระจายสู่ธรรมชาติแถว ๆ บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ หรือดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ซึ่งต้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

นายกสมาคมมิตรภาพฯ กล่าวต่อว่า ส่วนที่หลายฝ่ายเกรงว่านกจะบินกลับมายึดสนามหลวงอีกครั้ง รับรองว่านกพวกนี้จะไม่สามารถกลับมาได้อีกแน่นอน เพราะเป็นนกป่า ไม่ใช่นกสื่อสาร หากมีหารหรือที่ทำกินก็จะยึดถิ่นที่อยู่นั้นในการสร้างรังอาศัยต่อไป ทั้งนี้นกพิราบสนามหลวงจะอาศัยอยู่ตามอาคารบ้านเรือน หรือตามวัดใกล้ๆสนามหลวง พอเช้าก็จะบินมารวมตัวกันหาอาหารตามธรรมชาติ เป็นนกที่ไม่มีเจ้าของ ส่วนเรื่องที่มีคนเกรงว่าตนจะจับนกไปฆ่าหรือทำลายนั้น ตนเป็นถึงนายกสมาคมมิตรภาพกีฬานก คงไม่ไปทำเรื่องแบบนั้นแน่ เพราะไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด

นายเสือชนะ สุดเจริญ ผอ.เขตพระนคร เปิดเผยว่า เขตฯต้องเตรียมพื้นที่สำหรับการรณรงค์เก็บกวาดฉีดน้ำทำความสะอาดสนามหลวงทั้งหมด วันที่ 1 ก.พ.นี้ ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป ส่วนเรื่องผลักดันผู้ค้าจะต้องรอการประชุมและแนวทางปฏิบัติจากผู้บริหารก่อน อย่างไรก็ตามการปิดปรับปรุงสนามหลวง จะส่งผลกระทบเฉพาะการจอดรถ และการใช้พื้นที่ภายในเท่านั้น สำหรับทางเท้า และจุดจอดต่อรถโดยสารรอบสนามหลวงประชาชนยังคงใช้พื้นที่ได้ตามปกติ

ด้านนายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รอง ผู้ว่าฯ กทม. เปิดเผยว่า กทม.จะเริ่มดีเดย์วันที่ 1 ก.พ.นี้ โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. จะลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยในการจับนกพิราบ และการห้ามรถเข้าจอดในพื้นที่สนามหลวง เวลา 10.00 น. ส่วนเรื่องการผลักดันผู้ค้าและคนเร่ร่อน จะมีเวลาดำเนินการอีกประมาณ 1 เดือน ซึ่งจะต้องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องไปเตรียมหามาตรการรองรับให้เรียบร้อยก่อนดำเนินการ เบื้องต้นเขตพระนครพิจารณาพื้นที่บริเวณริมคลองหลอดรองรับกลุ่มผู้ค้า ในส่วนของคนเร่ร่อนจะมีการลงทะเบียน และประสานกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และมูลนิธิที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือต่อไป

ล่าสุดเย็นวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณท้องสนามหลวง เจ้าหน้าที่เทศกิจได้ปิดทางเข้าออกบริเวณด้านศาลอาญา โดยให้รถเข้าออกได้ที่บริเวณด้านฝั่ง ม.ธรรมศาสตร์ โดยเปิดให้รถของเจ้าหน้าที่เข้าได้เท่านั้น ส่วนรถของประชาชนไม่สามารถเข้าได้ ส่วนรถที่จอดอยู่ตั้งแต่ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ได้กันออกจากพื้นที่ทำให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าแสดงความไม่พอใจมีการโต้เถียงอย่างรุนแรง แต่ไม่มีการกระทบกระทั่งแต่อย่างใด ทั้งนี้ กทม.ได้นำป้ายโปสเตอร์ขนาดใหญ่มีใจความว่า ฟื้นคืนชีวิต คืนความสุขสดใส ให้สนามหลวง 30 พ.ย. 2553 และ ดีเดย์ 1 ก.พ. 2553 สนามหลวง สะอาด สดใส ปลอดโรค มาติดรอบบริเวณท้องสนามหลวง ท่ามกลางความสนใจของประชาชนที่ผ่านไปมา อย่างไรก็ตามยังพบพ่อค้าแม่ค้านำของมาขายตามปกติ รวมทั้งยังมีเต็นท์ของกลุ่มคนเสื้อแดงตั้งอยู่ ขณะที่รถบริการและรับแจ้งเหตุเคลื่อนที่ของสถานีตำรวจนครบาลจอดทิ้งไว้ ปัจจุบันกลายเป็นห้องน้ำจำเป็นของคนเร่ร่อนไปเสียแล้ว.